ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเพลิงนรกเผาซานติก้าผับ เตรียมสรุปสำนวนคดีแล้ว หลังสอบปากคำพยานไปหลายปาก ได้หลักฐานค่อนข้างชัดเจน โดยมีแนวโน้มต้นเหตุเกิดจาก “พลุ” เผย ก่อนเพลิงนรกเกิด เห็นนักร้องนำวงเบิร์นยืนถือกระบอกพลุด้วย
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ผู้เชี่ยวชาญกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พร้อมเรียกบริษัทที่จัดทำเอฟเฟกต์ในการแสดงบนเวทีซานติก้าผับ และพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 5 คน เพื่อพิจารณาสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ ซานติก้า โดยใช้เวลา 4 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ลิขิต กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก มาตอบข้อสงสัยทางเทคนิคเกี่ยวกับเอฟเฟกต์ที่ใช้ในคืนวันเกิดเหตุ ว่าเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้หรือไม่ หลังจากพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญก็ได้ความกระจ่างในประเด็นนี้ว่า อุปกรณ์ที่ใช้ทำเอฟเฟกต์ก็มีพลุเป็นส่วนประกอบ พร้อมดูภาพที่บันทึกการทำงานของพลุ ว่า มีการทำงานอย่างไรเพื่อลงความเห็นประกอบสำนวนการสอบสวน นอกจากนี้ ในส่วนของพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ก็ยืนยันว่า เห็น นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์น ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวฐานเป็นต้นเหตุของเพลิง เป็นคนถือกระบอกพลุก่อนเกิดเหตุ
“ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า น่าจะมาจากวัตถุติดไฟที่พุ่งขึ้นไปชนอุปกรณ์ตกแต่งเพดาน ซึ่งเป็นวัสดุติดไฟง่ายใช้ระยะเวลาเพียงประมาณ 2 นาที ก็ทำให้ไฟลุกลามไป โดยหลังจากประชุมจะนำผลสรุปที่ได้ไปหารือร่วมกับชุดพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ก่อนจะนำสำนวนส่งศาลพิจารณาซึ่งไม่เกินสิ้นเดือนนี้” พล.ต.ต.ลิขิต กล่าว
ด้าน นายสุรพงษ์ เตียวสุวรรณ อายุ 31 ปี พนักงานวิศวกรความปลอดภัย กรมโยธา พยานแวดล้อมที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กล่าวว่า ได้มาให้ปากคำ 3 ครั้งแล้ว โดยในวันที่เกิดเหตุนั่งอยู่ตรงกลางร้าน หน้าเวที และเห็นว่า มีการจุดพลุพุ่งบนเพดาน แต่ไม่เห็นว่าใครจุดและติดไฟบนเพดานเนื่องจากข้างบนมีซุ้มบังอยู่
นายสุรพงษ์ ยังร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.รัตนา แซ่ลิ้ม อายุ 25 ปี แฟนสาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บไฟไหม้ระดับ 3 ตั้งแต่เอวขึ้นไปจนถึงศรีษะต้องตัดนิ้วขวา 5 นิ้วออก ใบหน้าเสียโฉม ตอนนี้อาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อย คือ พูดได้ ขยับแขนขาได้ แต่ไม่สามารถลุกหรือช่วยเหลือตัวเองได้ หลังเกิดเหตุได้เงินชดเชยจากซานติก้าเพียง 1 หมื่นบาท ซึ่งก็หมดไปกับค่ารักษา ก่อนหน้านี้แฟนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับรีสอร์ตแห่งหนึ่งได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่ทางบ้านก็ต้องขาดรายได้ เพราะแฟนไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเพราะมีลูกติดแฟนที่ต้องดูแล จึงอยากให้ทางซานติก้ารับผิดชอบช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ เคยติดต่อไปยังซานติก้าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เรื่องก็เงียบไป
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ผู้เชี่ยวชาญกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก พร้อมเรียกบริษัทที่จัดทำเอฟเฟกต์ในการแสดงบนเวทีซานติก้าผับ และพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 5 คน เพื่อพิจารณาสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ ซานติก้า โดยใช้เวลา 4 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ลิขิต กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก มาตอบข้อสงสัยทางเทคนิคเกี่ยวกับเอฟเฟกต์ที่ใช้ในคืนวันเกิดเหตุ ว่าเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้หรือไม่ หลังจากพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญก็ได้ความกระจ่างในประเด็นนี้ว่า อุปกรณ์ที่ใช้ทำเอฟเฟกต์ก็มีพลุเป็นส่วนประกอบ พร้อมดูภาพที่บันทึกการทำงานของพลุ ว่า มีการทำงานอย่างไรเพื่อลงความเห็นประกอบสำนวนการสอบสวน นอกจากนี้ ในส่วนของพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ก็ยืนยันว่า เห็น นายสราวุธ อะริยะ นักร้องนำวงเบิร์น ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวฐานเป็นต้นเหตุของเพลิง เป็นคนถือกระบอกพลุก่อนเกิดเหตุ
“ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า น่าจะมาจากวัตถุติดไฟที่พุ่งขึ้นไปชนอุปกรณ์ตกแต่งเพดาน ซึ่งเป็นวัสดุติดไฟง่ายใช้ระยะเวลาเพียงประมาณ 2 นาที ก็ทำให้ไฟลุกลามไป โดยหลังจากประชุมจะนำผลสรุปที่ได้ไปหารือร่วมกับชุดพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ก่อนจะนำสำนวนส่งศาลพิจารณาซึ่งไม่เกินสิ้นเดือนนี้” พล.ต.ต.ลิขิต กล่าว
ด้าน นายสุรพงษ์ เตียวสุวรรณ อายุ 31 ปี พนักงานวิศวกรความปลอดภัย กรมโยธา พยานแวดล้อมที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กล่าวว่า ได้มาให้ปากคำ 3 ครั้งแล้ว โดยในวันที่เกิดเหตุนั่งอยู่ตรงกลางร้าน หน้าเวที และเห็นว่า มีการจุดพลุพุ่งบนเพดาน แต่ไม่เห็นว่าใครจุดและติดไฟบนเพดานเนื่องจากข้างบนมีซุ้มบังอยู่
นายสุรพงษ์ ยังร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.รัตนา แซ่ลิ้ม อายุ 25 ปี แฟนสาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บไฟไหม้ระดับ 3 ตั้งแต่เอวขึ้นไปจนถึงศรีษะต้องตัดนิ้วขวา 5 นิ้วออก ใบหน้าเสียโฉม ตอนนี้อาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อย คือ พูดได้ ขยับแขนขาได้ แต่ไม่สามารถลุกหรือช่วยเหลือตัวเองได้ หลังเกิดเหตุได้เงินชดเชยจากซานติก้าเพียง 1 หมื่นบาท ซึ่งก็หมดไปกับค่ารักษา ก่อนหน้านี้แฟนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับรีสอร์ตแห่งหนึ่งได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท แต่ทางบ้านก็ต้องขาดรายได้ เพราะแฟนไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเพราะมีลูกติดแฟนที่ต้องดูแล จึงอยากให้ทางซานติก้ารับผิดชอบช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ เคยติดต่อไปยังซานติก้าเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เรื่องก็เงียบไป
