xs
xsm
sm
md
lg

แท็กซี่พลเมืองดีเก็บเงินเกือบ 1.5 แสน คืนนักท่องเที่ยวอิหร่าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายมนูญ ไชยเสน อายุ 37 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ชาวชัยภูมิ มอบเงินคืนนายอับดุล ราฮิม ยูเซฟซาเดท และนางมารอน ดูริค สองสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน
โชเฟอร์แท็กซี่ชาวชัยภูมิ เจอกระเป๋าสตางค์ของนักท่องเที่ยวที่ทำตกไว้ในรถ พอเปิดดูเจอเงินกว่า 4 พันดอลล่าร์ เลยรีบส่งสวพ.91 ตามหาเจ้าของซึ่งเป็นสองผัวเมียชาวอิหร่าน เจ้าตัวมารับเงินคืนก็ดีใจหอมแก้มโชเฟอร์พลเมืองดี พร้อมมอบให้ 400 ดอลล่าร์เพื่อเป็นสินน้ำใจ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (14 ก.ย.) นายมนูญ ไชยเสน อายุ 37 ปี ชาวจ.ชัยภูมิ โชเฟอร์รถแท็กซี่ สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทพ- 3585 กทม.ได้เดินทางไปที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 เพื่อนำกระเป๋าสตางค์ และเงินสดจำนวน 4,380 ดอลลาร์ หรือประมาณ 149,000 บาท ส่งคืนให้แก่นายอับดุล ราฮิม ยูเซฟซาเดท อายุ 28 ปี และนางมารอน ดูริค สองสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน ที่ลืมทรัพย์สินดังกล่าวไว้บนรถแท็กซี่ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา

นายมนูญ กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนรับนายอับดุล ราฮิม กับภรรยา และเพื่อนๆ รวม 4 คน ที่โรงแรมอิสตัน ถนนเพชรบุรี ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย จากนั้นตนก็ขับรถตระเวนหาผู้โดยสารไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหันไปพบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลหล่นอยู่ที่เบาะหลัง เมื่อหยิบขึ้นมาตรวจสอบภายในพบธนบัตรสกุลเงินดอลลาร์ปึกหนึ่ง ตนก็มั่นใจว่า ต้องเป็นของผู้โดยสารต่างชาติที่เพิ่งลงจากรถตนไปแน่นอน เลยตัดสินใจนำกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวพร้อมเงินสดทั้งหมดเข้ามาฝากไว้ที่สถานีวิทยุ สวพ.91 เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ติดตามหาเจ้าของ

นายมนูญ กล่าวต่อว่า สำหรับเงินสด จำนวน 4,380 ดอลลาร์ ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ทำหล่นไว้บนรถตนนั้นเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ตนไม่ได้คิดอยากได้มาเก็บไว้เป็นของตัวเอง เพราะรู้ดีว่าตนต้องขับรถแท็กซี่นานหลายปีกว่าจะเก็บเงินได้จำนวนมากขนาดนี้ ทุกวันนี้ตนต้องออกขับรถตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.ไม่เว้นวันหยุดเพื่อเก็บออมเงินไว้ต่อภาษีและประกันภัยรถ จำนวน 15,000 บาท จึงคิดว่าเงินสดของนักท่องเที่ยวย่อมมีค่า ที่สำคัญตนอยากใช้เงินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองมากกว่า

ทั้งนี้เมื่อนายอับดุล ราฮิม ได้รับทรัพย์สินคืนก็แสดงความดีใจด้วยการหอมแก้ม นายมนูญ พร้อมกับมอบเงินสด จำนวน 400 ดอลลาร์ ให้กับนายมนูญ เพื่อเป็นสินน้ำใจ

โดยนายอับดุล ราฮิม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามว่า ตนพร้อมภรรยา และเพื่อนรวม 4 คน เพิ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในวันที่ใช้บริการรถแท็กซี่ของนายมนูญนั้น ตนตั้งใจว่าจะไปหาซื้ออะไหล่รถจยย.ย่านสะพานควาย แต่พอรู้ว่า กระเป๋าสตางค์หายก็หมดหวัง คิดว่าถูกโจรล้วงเอาไป คงไม่ได้คืนแล้ว เลยไม่ได้แจ้งความ จนกระทั่งมีล่ามชาวไทยที่ดูแลพวกตนมาแจ้งให้ทราบว่า นายมนูญ เก็บกระเป๋าสตาค์เอาไว้ให้จึงรีบเดินทางมารับคืนดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น