กาญจนบุรี - สองโจรผัวเมียใจบาปทำทีมาทำบุญที่วัดญวน จังหวัดกาญจนบุรี พอเจ้าอาวาสเผลอแอบฉกนาฬิกาโบราณขึ้นรถเก๋งหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 21 เม.ย.2552 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พันธิ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ พงส.สบ.1 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก ดร.องสุตบทบวร เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม (วัดญวน) (คิ่งซิ่งหยี่) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรีว่า มีคนร้ายสอง ผัว-เมีย แต่งตัวภูมิฐานทำทีมาทำบุญ ฉกนาฬิกาโบราณอายุกว่า 100 ปี ไปจากวัด หลังได้รับแจ้งเหตุ ร.ต.ท.พันธิ์ล้าน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบนอกเครื่องแบบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบเป็นกุฏิ 2 ชั้น ซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม (วัดญวน) ส่วนนาฬิกาโบราณอายุ กว่า 100 ปี นั้นตั้งอยู่ที่บริเวณชั้นล่าง วางอยู่กับพื้นข้างผนังกุฏิเจ้าอาวาส ซึ่งมีอยู่จำนวน 2 เรือน ซึ่งคนร้ายได้นำเอาเหล็กตุ้มทองเหลืองที่เป็นตัวถ่วงลานนาฬิกาโบราณ ซึ่งเป็นของแท้ออกไป และนำเอาเหล็กตุ้มตัวถ่วงลานนาฬิกา ซึ่งเป็นของปลอมมาสับเปลี่ยนกัน ส่วนนาฬิกาโบราณอีก 1 เรือน ตั้งไว้ที่ศาลา จปร.หรือศาลา 100 ปี ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิเจ้าอาวาสไปประมาณ 40 เมตร คนร้ายได้ใช้ค้อนตีตะปูงัดแงะเปิดฝาออกและแกะเอาตัวเรือนนาฬิกา ลูกตุ้มนาฬิกา รวมทั้งเหล็กตุ้มตัวถ่วงเรือนนาฬิกา ที่เป็นทองเหลืองที่อยู่ภายในไปจนหมด เหลือไว้เฉพาะกล่องไม้ ของตัวนาฬิกาเท่านั้น
ด้าน ดร.องสุตบทบวร เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม (วัดญวน) (คิ่งซิ่งหยี่) ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า เมื่อประมาณเวลา 15.00 น. ขณะกำลังจะทำพิธีสึกให้สามเณรที่มาบวชภาคฤดูร้อน ได้มีสองผัวเมียเดินทางมาที่กุฏิวัดโดยถือกล่องอุปกรณ์ช่างมาด้วย 2 กล่อง และบอกว่าจะมาซ่อมนาฬิกาให้ และยังบอกว่าเมื่อก่อนนาฬิกาโบราณทั้ง 3 เรือนนั้นเป็นของเขา แต่มีคนไปซื้อมาเพื่อนำมาถวายให้วัดญวนแห่งนี้ แต่ได้บอกทั้งสองไปว่าไม่ต้องซ่อมเพราะนาฬิกายังใช้ได้ดีอยู่ ไม่ได้เสีย
ดร.องสุตบทบวร เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม (วัดญวน) (คิ่งซิ่งหยี่) เล่าต่อไปว่า หลังจากได้บอกทั้งสองแล้ว ผู้หญิงก็ได้เดินไปกราบไว้พระพุทธรูปที่อยู่ใกล้กัน และผู้ชายก็ได้เดินลงไปจากกุฏิ ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงได้ออกไปทำพิธีสึกให้สามเณรต่อ
“แต่หลังจากที่อาตมาทำพิธีสึกให้กับสามเณรเป็นที่เรียบร้อย อาตามาก็เดินทามี่กุฏิตามปกติ และได้หันไปมองที่นาฬิกาทั้ง 2 เรือน ปรากฏว่าเห็นนาฬิกาที่ตั้งอยู่ขวามือถูกคนร้ายเปลี่ยนเอาลูกตุ้มถ่วงลานนาฬิกาที่เป็นของปลอมมาสับเปลี่ยนกับลูกตุ้มที่เป็นทองเหลืองซึ่งเป็นของแท้ไปจำนวน 3 ตุ้ม อาตมารู้เลยว่าโดนคนร้ายสองผัวเมียขโมยไปอย่างแน่นอน
จากนั้นอาตมาจึงได้เดินไปที่ศาลา จปร.หรือศาลา 100 ปี ซึ่งมีนาฬิกาโบราณอยู่อีก 1 เรือน เมื่อไปถึงก็พบว่านาฬิกาโบราณถูกคนร้ายงัดเอาตัวนาฬิกาโบราณไปทั้งหมด
หลังจากนั้นอาตมาก็สอบถามสามเณรที่อยู่บนศาลากว่า 30 รูป ทราบว่ามีผู้ชายแต่งตัวดีอ้างว่าอาตมาเป็นคนให้มาเอานาฬิกาไปซ่อมเนื่องจากนาฬิกาเรือนดังกล่าวนั้นเสีย ซึ่งสามเณรทุกรูปก็ไม่ได้เอาะใจแต่อย่างใด
หลังจากนั้นอาตมาก็รู้เลยว่าโดนคนร้ายขโมยไปอย่างแน่นอน จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งนาฬิกาทั้ง 3 เรือนนั้นมีโยมนำมาถวายให้กับเจ้าอาวาสองค์ก่อน เมื่อปี พ.ศ.2502 ซึ่งตอนนั้นอาตมายังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งราคาของนาฬิกาโบราณที่ถูกคนร้ายขโมยไปนั้นน่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณกว่า 60,000 บาท”
ด้าน ร.ต.ท.พันธิ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ ร้อยเวร เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากที่ทราบรายละเอียดจากเจ้าอาวาส ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีใครจำหมายเลขทะเบียนรถยนต์เก๋งของคนร้ายได้ ทราบแต่เพียงว่า เป็นรถยนต์เก๋งยี่ฮ้อ โตโยต้า สีน้ำเงินเท่านั้น หมายเลขทะเบียน จังหวัดแพร่ เท่านั้น
ส่วนรูปร่างหน้าตาของคนร้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และจะสเก็ตภาพของคนร้าย เพื่อประกาศนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป