“ธานี” เผย “พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว” ได้เข้ารายงานตัวมาช่วยราชการที่ สตช.ตามคำสั่งแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาชี้ขาดในโทษวินัยร้ายแรง “ปลดออก-ไล่ออก” ตามมติ ป.ป.ช.ชี้มูลกรณีสลายชุมนุมพันธมิตรฯ 7 ตุลาเลือด
วันนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเซ็นคำสั่งการ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อดีต ผบช.น.มาช่วยราชการที่ ตร.จากกรณีที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด วินัยร้ายแรง และความอาญามาตรา 157 ว่า วันนี้ พล.ต.ท.สุชาติ มารายงานตัวกับตนแล้ว ซึ่งเป็นการมารายงานตัวตามคำสั่ง ตามระเบียบวินัยที่ต้องยึดถือเป็นอย่างดี จากนั้นจะรอให้ ป.ป.ช.ส่งมติการชี้มูลอย่างเป็นทางการมาให้ก่อน ซึ่งกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง มีโทษ 2 สถาน คือ ปลดออก ซึ่งยังได้บำนาญ แต่ถ้าไล่ออกก็จะไม่ได้บำนาญ ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีความเห็นอย่างไร ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยมีรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิจารณาบทลงโทษ ซึ่งจะใช้เวลานานเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับว่า ป.ป.ช.จะส่งเรื่องมาเมื่อไร จากนั้นก็จะเสนอให้คณะกรรมการ แล้วประธานกรรมการจะนัดประชุมพิจารณาทันที ซึ่งที่ประชุมรอง ผบ.ตร.ในช่วงเช้าก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อเมื่อช่วงเช้า เป็นเพียงการแจ้งที่ประชุมให้ทราบว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนทำหน้าที่ รรท.ผบ.ตร.คำสั่งใดที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มีอยู่แล้วให้ถือปฎิบัติตามเดิม
เมื่อถามว่า มีการหารือ เสนอแนะข้อมูลอะไรกันหรือไม่ ในช่วงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเอง
ถามว่า จากการตัดสินของ ป.ป.ช.ทำให้ตำรวจที่บัญชาการเหตุการณ์หมดกำลังใจ ในฐานะรรท.ผบ.ตร.จะดูแลเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในวันที่ 14 กันยายน ตนจะเดินทางเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมที่ บช.น.ก็จะพูดเรื่องการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนอย่างละเอียด
ถามว่า หากการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ผู้ชุมนุมเกินความควบคุมจะใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ต้องไปเปิดแผนกรกฎ 52 ที่จะใช้ควบคุมการชุมนุมครั้งนี้ดู ซึ่งในแผนจะมีลำดับขั้นตอนว่าทำอย่างไร แผนนี้ละเอียดรอบคอบกว่าเดิม
ต่อข้อถามที่ว่า รับประกันได้หรือไม่ว่าหากตำรวจใช้ความรุนแรง ป.ป.ช.จะไม่ดำเนินการภายหลัง รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ทำไมต้องคาดการณ์อย่างนั้น ซึ่งวันที่ 14 กันยายน จะคุยกันอย่างละเอียด แผนกำหนดไว้ชัดใครทำอย่างไร ส่งกำลังบำรุงอย่างไร ทำตามขั้นตอนไหนแค่ไหน การรับมือผู้ชุมนุมเราทำงาน ซึ่งเราทำตามแผน ยึดระเบียบ ซึ่งแผนกำหนดไว้ชัดว่า ผบช.น.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในส่วนระดับ ตร.ใครมีหน้าที่อะไรที่กำหนดไว้ในแผนก็ต้องทำตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง พล.ต.อ.ธานี ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่มีกำหนด เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุชาติ ได้เข้ามารายงานตัวกับ พล.ต.อ.ธานี ที่สำนักงาน ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธานี กล่าวถึง ความชัดเจนการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบ.ตร.-ผบก.วาระประจำปี ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร.ส่วนจะแต่งตั้งในช่วง 19 วันนี้หรือไม่ ต้องดูที่เงื่อนเวลาตามมติ ก.ตร.ที่ต้องแต่งตั้งก่อนวันที่ 19 ก.ย.ถ้าเป็นไปตามเงื่อนนี้ ถึงแม้ยังไม่มี ผบ.ตร.ใหม่ก็สามารถทำได้ ตอนนี้ยังไม่เตรียมข้อมูลอะไรไว้
วันนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเซ็นคำสั่งการ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อดีต ผบช.น.มาช่วยราชการที่ ตร.จากกรณีที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด วินัยร้ายแรง และความอาญามาตรา 157 ว่า วันนี้ พล.ต.ท.สุชาติ มารายงานตัวกับตนแล้ว ซึ่งเป็นการมารายงานตัวตามคำสั่ง ตามระเบียบวินัยที่ต้องยึดถือเป็นอย่างดี จากนั้นจะรอให้ ป.ป.ช.ส่งมติการชี้มูลอย่างเป็นทางการมาให้ก่อน ซึ่งกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง มีโทษ 2 สถาน คือ ปลดออก ซึ่งยังได้บำนาญ แต่ถ้าไล่ออกก็จะไม่ได้บำนาญ ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีความเห็นอย่างไร ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยมีรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิจารณาบทลงโทษ ซึ่งจะใช้เวลานานเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับว่า ป.ป.ช.จะส่งเรื่องมาเมื่อไร จากนั้นก็จะเสนอให้คณะกรรมการ แล้วประธานกรรมการจะนัดประชุมพิจารณาทันที ซึ่งที่ประชุมรอง ผบ.ตร.ในช่วงเช้าก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อเมื่อช่วงเช้า เป็นเพียงการแจ้งที่ประชุมให้ทราบว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนทำหน้าที่ รรท.ผบ.ตร.คำสั่งใดที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี มีอยู่แล้วให้ถือปฎิบัติตามเดิม
เมื่อถามว่า มีการหารือ เสนอแนะข้อมูลอะไรกันหรือไม่ ในช่วงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเอง
ถามว่า จากการตัดสินของ ป.ป.ช.ทำให้ตำรวจที่บัญชาการเหตุการณ์หมดกำลังใจ ในฐานะรรท.ผบ.ตร.จะดูแลเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ในวันที่ 14 กันยายน ตนจะเดินทางเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมที่ บช.น.ก็จะพูดเรื่องการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนอย่างละเอียด
ถามว่า หากการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ผู้ชุมนุมเกินความควบคุมจะใช้แก๊สน้ำตาหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ต้องไปเปิดแผนกรกฎ 52 ที่จะใช้ควบคุมการชุมนุมครั้งนี้ดู ซึ่งในแผนจะมีลำดับขั้นตอนว่าทำอย่างไร แผนนี้ละเอียดรอบคอบกว่าเดิม
ต่อข้อถามที่ว่า รับประกันได้หรือไม่ว่าหากตำรวจใช้ความรุนแรง ป.ป.ช.จะไม่ดำเนินการภายหลัง รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ทำไมต้องคาดการณ์อย่างนั้น ซึ่งวันที่ 14 กันยายน จะคุยกันอย่างละเอียด แผนกำหนดไว้ชัดใครทำอย่างไร ส่งกำลังบำรุงอย่างไร ทำตามขั้นตอนไหนแค่ไหน การรับมือผู้ชุมนุมเราทำงาน ซึ่งเราทำตามแผน ยึดระเบียบ ซึ่งแผนกำหนดไว้ชัดว่า ผบช.น.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในส่วนระดับ ตร.ใครมีหน้าที่อะไรที่กำหนดไว้ในแผนก็ต้องทำตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง พล.ต.อ.ธานี ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.ภ.4 มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่มีกำหนด เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุชาติ ได้เข้ามารายงานตัวกับ พล.ต.อ.ธานี ที่สำนักงาน ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธานี กล่าวถึง ความชัดเจนการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบ.ตร.-ผบก.วาระประจำปี ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร.ส่วนจะแต่งตั้งในช่วง 19 วันนี้หรือไม่ ต้องดูที่เงื่อนเวลาตามมติ ก.ตร.ที่ต้องแต่งตั้งก่อนวันที่ 19 ก.ย.ถ้าเป็นไปตามเงื่อนนี้ ถึงแม้ยังไม่มี ผบ.ตร.ใหม่ก็สามารถทำได้ ตอนนี้ยังไม่เตรียมข้อมูลอะไรไว้
