xs
xsm
sm
md
lg

พบ “คฤหาสน์หรู” สู้แล้วรวย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

00...สู้แล้วรวย...วันก่อนได้ยิน ได้ฟังจากปากข้าราชการระดับสูงเลือดใต้แท้คนหนึ่ง..ว่า วันนั้นขณะตรวจราชการในพื้นที่ ได้รับคำบอกเล่าจากประชาชนว่า ขณะนี้มี ส.ส.ท่านหนึ่งกำลังปลูกสร้างบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ ชนิดเห็นแล้ว ต้องร้องโอ้โห!!! เพราะใหญ่มากๆ ครับท่าน...

ชาวบ้านแจ้งอีกว่า....ไม่ทราบว่าเป็นบ้านของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อแม้วหรือไม่

เพราะเคยมีอยู่วันหนึ่ง ชาวบ้านแถวนั้นได้ไปจอดรถขวางบริเวณหน้าบ้านหลังที่กำลังก่อสร้างหลังนั้น จู่ๆ ก็พบร่างตัวเป็นๆ ของนายประชาออกมาโวยวายว่าห้ามจอดขวางประตู พร้อมกับบอกให้เลื่อนรถให้พ้นหน้าบ้านไป จึงทำให้ชาวบ้านต่างมึนงง และพูดกันปากต่อปากว่า...บ้านดังกล่าวเป็นบ้านของ ส.ส.ประชา ที่สู้แล้วรวยหรือ?

ทันทีที่ทราบเรื่องนี้ ทีมข่าวอาชญากรรม เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์ จึงไม่รอช้า ได้จัดส่งสายข่าวคนพื้นเพแถวนั้นไปตรวจสอบความมีอยู่จริง...

โดยพบว่า บริเวณพื้นที่กระเพาะหมู เลยซอยทางเข้าวัดบางน้ำผึ้ง ถนนเพชรหงส์ ตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พบบ้านหลังหนึ่งอยู่ระหว่างทำการก่อสร้างในเนื้อที่ประมาณ 2-3 ไร่ เห็นจะได้

โดยการก่อสร้างแบบบ้านปูนทั้งหลัง ได้ขึ้นรูปร่างเห็นถนัดตาว่า มันคือ “คฤหาสน์หรู” นี่เอง

ส่วนจะเป็นบ้านของนายประชาหรือไม่....จะไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง รวมทั้งหลักฐานภาพถ่าย มารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไปนะครับ...

00...“ใบสั่งปลอม” ??? ว่ากันว่าเศรษฐกิจฝึดเคือง! ส่งผลกระทบโดยตรงกับเหลือบสีกากีที่ออกปฏิบัติการสะสมแต้มใบสั่ง หัวหมอออกใบสั่งลอย หรือใบสั่งปลอมวางแปะบนหน้าปัดกระจกรถที่จอดผิดกฎจราจร และขายใบสั่งให้คนอื่นเอาไปหากิน เพื่อเอาเงินเข้าเป๋าตุงส่วนตัว

เรื่องนี้ร้อนถึง “พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล” รองผบช.น.ฐานะดูแลงานการจราจร เมื่อประชาชนตาดำๆ หาเช้ากินค่ำร่อนหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับ “ใบสั่งปลอม” ว่า มันมีทั้งรูปแบบการปลอมทั้งฉบับจากบุคคลภายนอก รวมทั้งใบสั่งจริง แต่มีเจ้าหน้าที่บางคนนำใบสั่งไปจำหน่าย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับห้างร้าน หรือผู้ประกอบการต่างๆ

ส่วนกรณีใบสั่งจริงที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ออก แต่ผู้ได้รับทำหาย และถูกผู้อื่นนำไปแอบอ้าง หรือใช้ ซึ่งประชาชนทั่วไปจะเข้าใจว่า เมื่อได้รับใบสั่งแล้วจะไม่ถูกออกใบสั่งซ้ำอีก

“พล.ต.ต.ภาณุ” แถลงไขว่าได้สั่งให้เช็กข้อเท็จจริง และสั่งตรวจสอบที่มาของใบสั่ง พร้อมสอบเจ้าหน้าที่จราจรที่มีรหัสเลขที่ปรากฏบนใบสั่งแล้ว ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการนำเลขที่ใบสั่งทั้งหมดที่ถูกอ้างว่า เป็นใบสั่งปลอมมาตรวจสอบ พร้อมเรียกผู้กำกับการสถานีตำรวจทางด่วน 2 ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่อยู่ในใบสั่งมาสอบสวน นับหลังจากนี้ไปกับความเอาจริง เอาจังตรวจสอบการทำงานตำรวจนอกรีตจะถึงขึ้นต้องลงโทษทางวินัย หรือเปล่า ต้องติดตามกันต่อไป

00...ตร.ชุ่ยสั่งปรับฝ่าไฟแดงผิดคัน ??? นี่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่คนเค้าวิพากษ์การทำงานตำรวจไทย กันอย่างโจ้นขานในความสัพเพร่า แถมทำให้ตำรวจต้องหน้าแตกซ้ำ หมอไม่รับเย็บกรณี “น้องจอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ที่อยู่ดีๆ ก็ได้รับใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับฐานขับรถฝ่าไฟแดง เรื่องนี้เจ้าตัวบอกไม่ย๊อม ไม่ยอม เพราะไม่เคยขับรถโตโยต้า VITZ (ยาริส) สีแดง ผ่านไปแถวที่กล้องวงจรปิดแยก นิด้า ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จับภาพขณะขับฝ่าไฟแดงเอาไว้ได้ จำเป็นต้องแจ้งความ เพื่อให้ความจริงกระจ่าง จึงต้องวิ่งไปพึ่งตำรวจ สน.วังทองหลาง ให้ช่วยประสานตรวจสอบความถูกต้อง และแล้วความจริงก็ปรากฏเมื่อพบว่า รถคันที่กล้องจับได้ กับรถน้องจอย มีข้อแตกต่างตั้ง 5 จุดสังเกต ที่แท้ตำรวจออกหมายจับปรับผิดคัน

แต่ยังไม่วายที่ “พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล” ผบก.จร. เต้นแจงว่า น่าเชื่อได้ว่าทะเบียนรถ “คุณจอย” ถูกแก๊งสวมทะเบียนรถนำไปใช้กับรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม หรือหนีภาษี และยอมรับแต่โดยดีว่าตำรวจผิดไปแล้ว ถือเป็นอุทาหรณ์ให้ระวัง รอบคอบ แนะหากใครสงสัยว่าอาจมีการออกหมายเรียกผิดพลาด ก็ให้มาตรวจสอบได้ที่ บก.จร. ความหมายของท่านก็คือว่า ถ้าใครไม่ไปเสียเวลาตรวจสอบก่อนมีหวังวันดี คืนซวย ได้รับใบสั่งถึงบ้านแจ้งให้ไปจ่ายเงินที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรง ทั้งที่ขับรถเคารพกฎจราจรมาตลอด ดันมาต้องจ่ายเข้ารัฐฟรีๆๆๆ เป็นแน่แท้ เฮ้อ บทเรียนกรณีศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไทย

00...“สื่อปากน้ำฉาว จิ๊กสมุดเสียค่าปรับหวังสวมรอยนำไปหากิน” ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้จับกุม นายประจักษ์ สุทธิ อายุ 42 ปี พร้อมของกลางสมุดใบเสร็จเงินค่าปรับ สภ.เมืองสมุทรปราการ 1 เล่ม ค้นไปค้นมาเจอบัตรประจำตัวสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ บัตรเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ชค.3 ปส.บัตรผู้สื่อข่าวนิตยสารศิรินทร์ 39 กองสารนิเทศ

เหตุมันมีอยู่ว่า นายประจักษ์ ทำทีเข้าไปเสียค่าปรับ เมื่อเจ้าหน้าที่เผลอแอบหยิบสมุดใบเสร็จเงินค่าปรับยัดใส่กระเป๋า กล้องวงจรปิดของโรงพักทำงานแทนตำรวจจริงตลอด โฟกัสจับภาพขณะปฏิบัติการเอาไว้ได้ ตำรวจออกแรงนิดหน่อยตามจับตัวขณะกบดานอยู่สำนักงานสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัด เมื่อถูกจับแล้วนายประจักษ์ ยังตาใส แถต่อว่า ก็แค่ต้องการนำสมุดดังกล่าวไปอ่านว่าเจ้าหน้าที่ปรับข้อหาอะไรบ้าง ไม่ได้ตั้งใจขโมยไปใช้ส่วนตัว

แต่ตำรวจไม่หลงกลเชื่อ คาดว่านายประจักษ์คงคิดจะนำสมุดดังกล่าวไปเพื่อรับเปรียบเทียบค่าปรับใบสั่งจราจรสวมรอยแทนเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่าทำมาแล้วหลายครั้ง

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.ฐานะดูแลงานการจราจร
ภาพเป็นเพียงตัวอย่างใบสั่งเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
นายประจักษ์ สุทธิ อายุ 42 ปี  ถูกตำรวจสมุทรปราการจับฐานขโมยสมุดใบเสร็จเงินค่าปรับยัดใส่กระเป๋า
กำลังโหลดความคิดเห็น