เสี่ยเจ้าของโรงปั่นด้ายส่งออก พลัดตกจากตึกลงมาตาย ยังไม่รู้ฆ่าตัวตายเอง หรือมีปัญหากับใคร ตำรวจระบุ อาจมีปัญหาธุรกิจขาดทุน
วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ภูมิยศ เหล็กกล้า พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุชายพลัดตกจากที่สูงลงมาเสียชีวิตบริเวณด้านหน้าลานจอดรถตึกไอทีเอฟ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตบางรัก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถสูง 8 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณทางเท้าหน้าร้านกาแฟชื่อ ฮักเบเกอรี่ แอนด์ แกลเลอรี่ คาเฟ่ ซึ่งติดกับถนนใหญ่ พบศพ นายกิตติ วงศ์จริงตรง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 778 หมู่ 15 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าของ บริษัท ทรงชัยปั่นทอ จำกัด ทำธุรกิจด้ายทอส่งออก โดยสำนักงานตั้งอยู่บนชั้น 14 ของอาคารที่เกิดเหตุ สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผูกเนกไทสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ใส่รองเท้าหนังสีดำ มีบาดแผลแตกที่บริเวณศีรษะด้านหลัง แขนและขาหัก เจ้าหน้าที่นำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อทำการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายหิรัญ พลายชุมพล อายุ 43 ปี คนขับรถส่วนตัวของผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถประจำตำแหน่งไปรับผู้ตายที่บ้านพัก แล้วมุ่งหน้ามาถึงบริษัท เวลาประมาณ 07.30 น.จากนั้นตนก็นำรถไปตรวจเช็กที่ศูนย์ก่อนจะย้อนกลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้ง กระทั่งในช่วงบ่าย ก็เห็นผู้ตายออกมายืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงลานจอดรถชั้น 7 ในลักษณะมวนต่อมวน โดยมีก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงที่พื้นประมาณ 6-7 มวน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะผู้ตายเป็นคนสูบบุหรี่จัดเสมอ จนกระทั่งสักพักได้ยินเสียงวัตถุตกลงไปกระแทกพื้น เมื่อวิ่งไปชะโงกหน้าลงมาดูก็เห็นร่างผู้ตายนอนอยู่บนพื้นด้านล่างแล้ว
“สำหรับสาเหตุที่ทำเจ้านายฆ่าตัวตายนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ ว่า เจ้านายพลัดตกลงไปเอง หรือมีปัญหาส่วนตัวกับใครหรือไม่ เพราะไม่เคยยุ่งเรื่องของเจ้านาย แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ผมขับรถไปรับเจ้านายมาส่งที่ออฟฟิศ ยังเห็นเขายิ้มแย้มแจ่มใสดี ไม่มีทีท่าว่าจะตัดสินใจฆ่าตัวตายเลย” นายหิรัญ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ภูมิยศ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่พบว่าผู้ตายเคยมีปัญหาอะไรกับใคร ครอบครัวก็มีความสุขดี ทราบเพียงว่า ในช่วงปีนี้ธุรกิจขาดทุน ไม่เหมือนกับเมื่อปีที่แล้ว ที่ได้กำไรมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม จะเรียกคนใกล้ชิดมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุตายก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ภูมิยศ เหล็กกล้า พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุชายพลัดตกจากที่สูงลงมาเสียชีวิตบริเวณด้านหน้าลานจอดรถตึกไอทีเอฟ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตบางรัก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถสูง 8 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณทางเท้าหน้าร้านกาแฟชื่อ ฮักเบเกอรี่ แอนด์ แกลเลอรี่ คาเฟ่ ซึ่งติดกับถนนใหญ่ พบศพ นายกิตติ วงศ์จริงตรง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 778 หมู่ 15 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าของ บริษัท ทรงชัยปั่นทอ จำกัด ทำธุรกิจด้ายทอส่งออก โดยสำนักงานตั้งอยู่บนชั้น 14 ของอาคารที่เกิดเหตุ สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผูกเนกไทสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน ใส่รองเท้าหนังสีดำ มีบาดแผลแตกที่บริเวณศีรษะด้านหลัง แขนและขาหัก เจ้าหน้าที่นำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อทำการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายหิรัญ พลายชุมพล อายุ 43 ปี คนขับรถส่วนตัวของผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถประจำตำแหน่งไปรับผู้ตายที่บ้านพัก แล้วมุ่งหน้ามาถึงบริษัท เวลาประมาณ 07.30 น.จากนั้นตนก็นำรถไปตรวจเช็กที่ศูนย์ก่อนจะย้อนกลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้ง กระทั่งในช่วงบ่าย ก็เห็นผู้ตายออกมายืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงลานจอดรถชั้น 7 ในลักษณะมวนต่อมวน โดยมีก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงที่พื้นประมาณ 6-7 มวน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะผู้ตายเป็นคนสูบบุหรี่จัดเสมอ จนกระทั่งสักพักได้ยินเสียงวัตถุตกลงไปกระแทกพื้น เมื่อวิ่งไปชะโงกหน้าลงมาดูก็เห็นร่างผู้ตายนอนอยู่บนพื้นด้านล่างแล้ว
“สำหรับสาเหตุที่ทำเจ้านายฆ่าตัวตายนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ ว่า เจ้านายพลัดตกลงไปเอง หรือมีปัญหาส่วนตัวกับใครหรือไม่ เพราะไม่เคยยุ่งเรื่องของเจ้านาย แต่เมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ผมขับรถไปรับเจ้านายมาส่งที่ออฟฟิศ ยังเห็นเขายิ้มแย้มแจ่มใสดี ไม่มีทีท่าว่าจะตัดสินใจฆ่าตัวตายเลย” นายหิรัญ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ภูมิยศ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่พบว่าผู้ตายเคยมีปัญหาอะไรกับใคร ครอบครัวก็มีความสุขดี ทราบเพียงว่า ในช่วงปีนี้ธุรกิจขาดทุน ไม่เหมือนกับเมื่อปีที่แล้ว ที่ได้กำไรมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม จะเรียกคนใกล้ชิดมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุตายก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป