ตำรวจบางขุนเทียน จับทันควันหลานสารเลว เมายาบ้าแทงพรุนทั่วร่างปู่ผู้มีพระคุณ วัย 73 ปี ไม่ยั้ง 17 แผล ยังไม่หนำใจตามกระหน่ำแทงเพื่อนปู่ วัย 72 ปี 11 แผลเสียชีวิต เจ้าตัวบอกอยู่บ้านกับผู้ตายมานาน เพราะพ่อเสียชีวิตแล้ว เหตุต้องฆ่าทิ้ง เนื่องจากทั้งคู่ขับไล่ให้ไปพักที่อื่น
วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สายชล แสนสุข พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตายภายในบ้านเลขที่ 71/19 ถนนบางบอน 1 ซอย 9 แยก 7 หรือซอยธีระ 2 แขวงและเขตบางบอน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9, พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา จากการตรวจสอบบริเวณลานหน้าบ้านใกล้กับประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่พบศพชายชรา 2 ศพ นอนจมกองเลือดอยู่อย่างน่าเวทนา โดยศพแรก คือ นายเลี้ยง แซ่ตั้ง อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง และหน้าอก รวม 17 แผล ใกล้กันพบศพ นายเซี้ยง แซ่ตั้ง อายุ 73 ปี เพื่อนสนิทของนายเลี้ยง สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาลแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่แผ่นหลัง และหน้าอก รวม 11 แผล
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบมือมีด คือ นายพชรพล แซ่ตั้ง อายุ 31 ปี หลานชายของผู้ตายทั้ง 2 คน ได้แอบเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้าน จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธมีดทำครัวปลายแหลม ยาวประมาณ 9 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม จากนั้นพนักงานสอบสวน จึงตัดสินใจควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวว่าจะถูกชาวบ้านตามมารุมประชาทัณฑ์ในภายหลัง ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบปากคำ นายพชรพล ซึ่งยังอยู่ในอาการเหมือนคนเมาสารเสพติด ให้การว่า ตนอยู่ที่บ้านหลังนี้กับผู้ตายทั้งคู่มานานแล้ว เนื่องจากพ่อตนเสียชีวิต โดยนายเลี้ยงซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของปู่จึงรับมาอยู่ด้วย ส่วนนายเซี้ยง นั้นเป็นเพื่อนสนิทของนายเลี้ยง ที่ย้ายรกรากจากประเทศจีนเข้ามาอยู่ในเมืองไทยด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ สำหรับสาเหตุที่ลงมือนั้นเพราะทั้งคู่พยายามที่จะขับไล่ตนให้ไปพักที่อื่น ตนกลัวไม่มีที่อาศัยจึงต้องฆ่าทิ้งทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มีครอบครัวมาแล้ว และเคยติดยาด้วย
ด้าน นายจำนงค์ คชประภา อายุ 71 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงนายเลี้ยง ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบเดินออกมาดูพบว่า นายพชรพล กำลังนั่งคร่อมร่าง และใช้มีดกระหน่ำแทงหน้าอกของนายเลี้ยงไม่ยั้ง ส่วนนายเซี้ยงนั้นถูกแทงจนตายไปแล้ว พอ นายพชรพล เห็นตนก็รีบวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในบ้านทันที ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
นายจำนงค์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ผู้ตายทั้ง 2 คน อุปการะเลี้ยงดู นายพชรพล เป็นอย่างดี คอยไปขอเงินหลานสาวอีกคนที่พักอยู่ย่านสะพานควายมาซื้อข้าว ตลอดจนเดินขออาหารจากชาวบ้านมาให้กินทุกมื้อ เนื่องจากนายพชรพล มีประวัติเสพยาจนประสาทหลอน และทุกวันนี้ก็ยังดมกาวอยู่จึงไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายพชรพล ก็มักจะหาเรื่องทำร้ายทุบตีผู้ตายทั้ง 2 คนอยู่เสมอ จนชาวบ้านสงสารช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะนายเลี้ยงนั้น เคยถูก นายพชรพล ทุบตีจนปากแหว่งมาแล้ว
ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 ได้นำตัว นายพชรพล ผู้ต้องหารายนี้ไปแถลงข่าวที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย นายพชรพล ยังให้การวกวนไปมาอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเลี้ยง พยายามจะจ้างคนมาฆ่าตน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจึงได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด และดมกาวไปอีก 1 กระป๋อง เพื่อย้อมใจ ก่อนจะลงมือฆ่าผู้ตายทั้ง 2 รายแล้วโดนจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากนั้น พล.ต.ต.กรีรินทร์ ได้ทำการมอบเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท ตามโครงการจับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง ให้กับ ร.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ แก้วนวล รอง สวป.สน.บางขุนเทียน ที่สามารถนำกำลังเข้าจับกุมตัว นายพชรพล ไว้ได้ทันทีหลังก่อเหตุก่อนที่จะหลบหนี
วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สายชล แสนสุข พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตายภายในบ้านเลขที่ 71/19 ถนนบางบอน 1 ซอย 9 แยก 7 หรือซอยธีระ 2 แขวงและเขตบางบอน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9, พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา จากการตรวจสอบบริเวณลานหน้าบ้านใกล้กับประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่พบศพชายชรา 2 ศพ นอนจมกองเลือดอยู่อย่างน่าเวทนา โดยศพแรก คือ นายเลี้ยง แซ่ตั้ง อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง และหน้าอก รวม 17 แผล ใกล้กันพบศพ นายเซี้ยง แซ่ตั้ง อายุ 73 ปี เพื่อนสนิทของนายเลี้ยง สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาลแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่แผ่นหลัง และหน้าอก รวม 11 แผล
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบมือมีด คือ นายพชรพล แซ่ตั้ง อายุ 31 ปี หลานชายของผู้ตายทั้ง 2 คน ได้แอบเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้าน จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธมีดทำครัวปลายแหลม ยาวประมาณ 9 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม จากนั้นพนักงานสอบสวน จึงตัดสินใจควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวว่าจะถูกชาวบ้านตามมารุมประชาทัณฑ์ในภายหลัง ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบปากคำ นายพชรพล ซึ่งยังอยู่ในอาการเหมือนคนเมาสารเสพติด ให้การว่า ตนอยู่ที่บ้านหลังนี้กับผู้ตายทั้งคู่มานานแล้ว เนื่องจากพ่อตนเสียชีวิต โดยนายเลี้ยงซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของปู่จึงรับมาอยู่ด้วย ส่วนนายเซี้ยง นั้นเป็นเพื่อนสนิทของนายเลี้ยง ที่ย้ายรกรากจากประเทศจีนเข้ามาอยู่ในเมืองไทยด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ สำหรับสาเหตุที่ลงมือนั้นเพราะทั้งคู่พยายามที่จะขับไล่ตนให้ไปพักที่อื่น ตนกลัวไม่มีที่อาศัยจึงต้องฆ่าทิ้งทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มีครอบครัวมาแล้ว และเคยติดยาด้วย
ด้าน นายจำนงค์ คชประภา อายุ 71 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงนายเลี้ยง ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบเดินออกมาดูพบว่า นายพชรพล กำลังนั่งคร่อมร่าง และใช้มีดกระหน่ำแทงหน้าอกของนายเลี้ยงไม่ยั้ง ส่วนนายเซี้ยงนั้นถูกแทงจนตายไปแล้ว พอ นายพชรพล เห็นตนก็รีบวิ่งหนีเข้าไปหลบอยู่ในบ้านทันที ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ
นายจำนงค์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ผู้ตายทั้ง 2 คน อุปการะเลี้ยงดู นายพชรพล เป็นอย่างดี คอยไปขอเงินหลานสาวอีกคนที่พักอยู่ย่านสะพานควายมาซื้อข้าว ตลอดจนเดินขออาหารจากชาวบ้านมาให้กินทุกมื้อ เนื่องจากนายพชรพล มีประวัติเสพยาจนประสาทหลอน และทุกวันนี้ก็ยังดมกาวอยู่จึงไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายพชรพล ก็มักจะหาเรื่องทำร้ายทุบตีผู้ตายทั้ง 2 คนอยู่เสมอ จนชาวบ้านสงสารช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะนายเลี้ยงนั้น เคยถูก นายพชรพล ทุบตีจนปากแหว่งมาแล้ว
ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.น.9 ได้นำตัว นายพชรพล ผู้ต้องหารายนี้ไปแถลงข่าวที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 โดย นายพชรพล ยังให้การวกวนไปมาอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเลี้ยง พยายามจะจ้างคนมาฆ่าตน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจึงได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด และดมกาวไปอีก 1 กระป๋อง เพื่อย้อมใจ ก่อนจะลงมือฆ่าผู้ตายทั้ง 2 รายแล้วโดนจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากนั้น พล.ต.ต.กรีรินทร์ ได้ทำการมอบเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท ตามโครงการจับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง ให้กับ ร.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ แก้วนวล รอง สวป.สน.บางขุนเทียน ที่สามารถนำกำลังเข้าจับกุมตัว นายพชรพล ไว้ได้ทันทีหลังก่อเหตุก่อนที่จะหลบหนี
