นครศรีธรรมราช - รวบทันควันมือมีดแทงน้องชายคุณหญิงสุพัตรา อ้างกำลังจะเข้ามอบตัว สิงห์คุกเก่าอ้างถูกหยามศักดิ์ศรี ประกาศลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ ตร.ล่าคนขับรถ จยย.เพื่อนร่วมก๊วน
จากกรณีที่ 2 คนร้ายเข้าไปนั่งดื่มกินและร้องเพลงในร้าน “เลิฟคาราโอเกะ” เลขที่ 2222/ 1 ซอยป่าโล่ง ถนนราชดำเนิน ต.ท่าวัง อ.เมือง และสร้างความไม่พอใจนายจตุพันธ์ มาศดิตถ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/114 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช น้องชายของคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราชและนายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จึงใช้อาวุธมีดแทงนายจตุพันธ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะออกจากร้านเพื่อขับรถเก๋งกลับบ้าน หลังก่อเหตุมือมีดได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 1 ก.ย. 2552 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด (2 ก.ย.) พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับบุกเข้าจับกุม นายวิชาญ พรุแจ้ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1529/209 ซอย 14 ชุมชนสถานีรถไฟ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยจับกุมได้โดยละม่อมในขณะที่นายวิชาญ ผู้ต้องหานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ อยู่ภายในบ้านในช่วงค่ำของวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.โชดดี ศรีเมือง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายคนหนึ่งซึ่งนั่งโต๊ะเดียวกับมือมีดร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ โดยขณะเกิดเหตุพยานปากดังกล่าวเมาฟุบหลับคาโต๊ะ มาสอบสวนปากคำ จนทราบว่ามือมีดคือนายวิชาญ พรุแจ้ง อายุ 30 ปี ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์พานายวิชาญ หลบหนี คือ นายจีรเดช ชัยมงคล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1523 ถนนยมราช ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และบุกจับกุมตัวนายวิชาญ มือมีดได้คาบ้าน ส่วนนายจีรเดช ชัยมงคล ทราบว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้วอยู่ระหว่างการติดตามตัว
ในขณะที่ นายวิชาญ พรุแจ้ง มือมีดผู้ต้องหายอมรับว่า หลังเกิดเหตุเมื่อหลบหนีกลับมาถึงบ้าน โดยไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหนและกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยตนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกในข้อหาปล้นทรัพย์ ปัจจุบันยึดอาชีพเร่ขายน้ำมะพร้าวอ่อน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อน รวม 3 คน ได้ไปดื่มเหล้าและร้องเพลงในร้ายคาราโอเกะที่เกิดเหตุ จนกระทั้งมีนายจตุพันธ์ ผู้บาดเจ็บพร้อมเพื่อนอีก 1 คนเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างๆ
เมื่อดื่มกินไปได้สักพักนายจตุพันธ์ก็พูดจาเสียงดังในลักษณะวางอำนาจ และยังพูดจากข่มขู่ในลักษณะเหยียดหยามศักดิ์ศรีตนเอง สร้างความไม่พอใจให้ตนและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก จนกระทั่งนายจตุพันธ์เรียกเก็บเงินและจะเดินออกไปนอกร้าน ตนจึงหันไปมองหน้านายจตุพันธ์ กลับตวาดใส่ว่าหากมีปัญหาเจอกันที่ไหนก็ได้
“ผมและนายจีรเดชโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เพราะตนยึดถือคติลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ จึงเดินตามออกมาหน้าร้าน ในขณะที่เพื่อนของผมอีกคนเมาเหล้าฟุบหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เมื่อออกมาหน้าร้านตนถูกนายจตุพันธ์ใช้มีดพกยาวกว่า 10 นิ้วฟันที่แขนขวา แต่เนื่องจากมีดไม่คมจึงเป็นแผลเล็กน้อยยาวประมาณ 2 ซม. นายวิชาญมือมีดให้การพร้อมถลกแขนเสื้อให้ดูบาดแผลที่อ้างว่าถูกนายจตุพันธ์ใช้มีดฟัน ตนจึงป้องกันตัวโดยชักอาวุธมีดปอกผลไม้ที่ห่อกระดาษพกติดตัวกะซวกแทงนายจตุพันธ์อย่างจังจนจมมิดด้าม
นายจตุพันธ์ ล้มฟุบจมกองเลือด ตนจึงเดินไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่นายจีรเดช เพื่อนติดเครื่องรออยู่กลับบ้าน โดยไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนนายจีรเดชทราบว่าเกรงกลัวความผิดจึงหลบหนีไปโดยตนไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน แม้ตำรวจไม่มาจับกุมที่บ้าน ตนก็กำลังจะเข้ามอบตัวสู้คดีอยู่แล้ว โดยตนต้องการให้ทุกคนทราบว่าแม้ตนจะเป็นคนยากจนแต่ก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้” นายวิชาญ กล่าว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวิชาญในข้อหาพยายามฆ่า ส่ง พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และติดตามตัวนายจีรเดช ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พานายวิชาญหลบหนีไปเพื่อมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
จากกรณีที่ 2 คนร้ายเข้าไปนั่งดื่มกินและร้องเพลงในร้าน “เลิฟคาราโอเกะ” เลขที่ 2222/ 1 ซอยป่าโล่ง ถนนราชดำเนิน ต.ท่าวัง อ.เมือง และสร้างความไม่พอใจนายจตุพันธ์ มาศดิตถ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/114 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช น้องชายของคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราชและนายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จึงใช้อาวุธมีดแทงนายจตุพันธ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะออกจากร้านเพื่อขับรถเก๋งกลับบ้าน หลังก่อเหตุมือมีดได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 1 ก.ย. 2552 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด (2 ก.ย.) พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับบุกเข้าจับกุม นายวิชาญ พรุแจ้ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1529/209 ซอย 14 ชุมชนสถานีรถไฟ ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยจับกุมได้โดยละม่อมในขณะที่นายวิชาญ ผู้ต้องหานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ อยู่ภายในบ้านในช่วงค่ำของวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.โชดดี ศรีเมือง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายคนหนึ่งซึ่งนั่งโต๊ะเดียวกับมือมีดร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ โดยขณะเกิดเหตุพยานปากดังกล่าวเมาฟุบหลับคาโต๊ะ มาสอบสวนปากคำ จนทราบว่ามือมีดคือนายวิชาญ พรุแจ้ง อายุ 30 ปี ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์พานายวิชาญ หลบหนี คือ นายจีรเดช ชัยมงคล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1523 ถนนยมราช ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และบุกจับกุมตัวนายวิชาญ มือมีดได้คาบ้าน ส่วนนายจีรเดช ชัยมงคล ทราบว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้วอยู่ระหว่างการติดตามตัว
ในขณะที่ นายวิชาญ พรุแจ้ง มือมีดผู้ต้องหายอมรับว่า หลังเกิดเหตุเมื่อหลบหนีกลับมาถึงบ้าน โดยไม่ได้คิดจะหลบหนีไปไหนและกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยตนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกในข้อหาปล้นทรัพย์ ปัจจุบันยึดอาชีพเร่ขายน้ำมะพร้าวอ่อน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อน รวม 3 คน ได้ไปดื่มเหล้าและร้องเพลงในร้ายคาราโอเกะที่เกิดเหตุ จนกระทั้งมีนายจตุพันธ์ ผู้บาดเจ็บพร้อมเพื่อนอีก 1 คนเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างๆ
เมื่อดื่มกินไปได้สักพักนายจตุพันธ์ก็พูดจาเสียงดังในลักษณะวางอำนาจ และยังพูดจากข่มขู่ในลักษณะเหยียดหยามศักดิ์ศรีตนเอง สร้างความไม่พอใจให้ตนและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก จนกระทั่งนายจตุพันธ์เรียกเก็บเงินและจะเดินออกไปนอกร้าน ตนจึงหันไปมองหน้านายจตุพันธ์ กลับตวาดใส่ว่าหากมีปัญหาเจอกันที่ไหนก็ได้
“ผมและนายจีรเดชโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เพราะตนยึดถือคติลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้ จึงเดินตามออกมาหน้าร้าน ในขณะที่เพื่อนของผมอีกคนเมาเหล้าฟุบหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เมื่อออกมาหน้าร้านตนถูกนายจตุพันธ์ใช้มีดพกยาวกว่า 10 นิ้วฟันที่แขนขวา แต่เนื่องจากมีดไม่คมจึงเป็นแผลเล็กน้อยยาวประมาณ 2 ซม. นายวิชาญมือมีดให้การพร้อมถลกแขนเสื้อให้ดูบาดแผลที่อ้างว่าถูกนายจตุพันธ์ใช้มีดฟัน ตนจึงป้องกันตัวโดยชักอาวุธมีดปอกผลไม้ที่ห่อกระดาษพกติดตัวกะซวกแทงนายจตุพันธ์อย่างจังจนจมมิดด้าม
นายจตุพันธ์ ล้มฟุบจมกองเลือด ตนจึงเดินไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่นายจีรเดช เพื่อนติดเครื่องรออยู่กลับบ้าน โดยไม่ได้หลบหนีไปไหน ส่วนนายจีรเดชทราบว่าเกรงกลัวความผิดจึงหลบหนีไปโดยตนไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน แม้ตำรวจไม่มาจับกุมที่บ้าน ตนก็กำลังจะเข้ามอบตัวสู้คดีอยู่แล้ว โดยตนต้องการให้ทุกคนทราบว่าแม้ตนจะเป็นคนยากจนแต่ก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้” นายวิชาญ กล่าว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายวิชาญในข้อหาพยายามฆ่า ส่ง พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และติดตามตัวนายจีรเดช ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พานายวิชาญหลบหนีไปเพื่อมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
