รองนายกฯ มอบนโยบายเร่งรัดแก้ปัญหายาเสพติดให้สำเร็จตามเป้าหมาย ก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้ มี นายอำเภอ ผกก.และ ผอ.การเขต เข้าร่วมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ด้านรองเลขาฯป.ป.ส.เผย 5 เดือนที่ผ่านมา ยาเสพติดระบาดน้อยลง
วันนี้ (9 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอศักยภาพ เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติตาม “ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน” เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส.และ กอ.รมน.และกระทรวงมหาดไทย โดยมีตัวแทนนายอำเภอ ผกก.สถานีตำรวจ และผู้อำนวยการเขตต่างๆ เข้าร่วมประมาณ 350 คน
รองนายกฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเห็นความสำคัญของปัญหายาเสพติด จึงมอบหมายให้ตนรับผิดชอบแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สำเร็จ ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสังคม โดยจะเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติด ควบคู่กับการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นกลไกหลักในการรับนโยบายและแผนการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด ไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายของรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า หากหน่วยงานราชการในพื้นที่ ระดับนายอำเภอ และ ผกก.สถานีตำรวจ ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เชื่อว่า จะสามารถลดปัญหายาเสพติดได้มาก และหากพื้นที่ใดทำงานอย่างเต็มที่แล้วแต่มีอุปสรรคด้านเครื่องมือ หรืองบประมาณก็ให้ประสานมายังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ป.ป.ส.และ กอ.รมน.โดยจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แและดำเนินการด้วยความรวดเร็ว เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด และลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ด้าน นายพิทยา จินาวัฒน์ รองเลขาฯ ป.ป.ส.กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ในระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.52) พบว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดของรัฐบาลในช่วงเริ่มต้นมีความล่าช้า เนื่องจากช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลมีปัญหาเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนยังพบการแพร่ระบาดอยู่บ้าง เนื่องจากยังคงมีการลักลอบผลิตยาเสพติดในฝั่งตรงข้ามตามแนวชายแดน นอกจากนี้แล้ว ยังมีปัญหาเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ และเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนยาเสพติดประเภทยาไอซ์ มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน แม้การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่แม้จะมีความเข้มงวดมากขึ้น แต่ประชาชนบางส่วนยังกังวลไม่มั่นใจกับการแก้ปัญหายาเสพติด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัดการปฏิบัติงานและตอบสนองความต้องการของประชาชนและชุมชนต่างๆด้วยความรวดเร็วสอดคล้องกับสถานการณ์ วันนี้จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการประชุมเพื่อเร่งรัดการปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ระยะที่ 1 ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้