xs
xsm
sm
md
lg

จ่อเรียก! “ขวัญชัย-พีทีวี” สอบ-ตรวจฮาร์ดดิสก์ 11 พนง.หาต้นตอแพร่คลิป

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แผ่นซีดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี
ตรวจฮาร์ดดิสก์ 11 พนักงานเอสซีแอสเสท คาด 1 สัปดาห์รู้ผล ต้นตอแพร่คลิปนายกฯ พบหลักฐานสาวไปถึง หลังนายเวร ผบช.ก.ได้รับฟอร์เวิร์ดไฟล์เสียง ด้านหญิงสาวปริศนาที่สองพนักงานบริษัทอ้างถึงยังไม่พบตัว สอบวิน จยย.ไม่ให้ความร่วมมือ สั่งภาค 4 สอบผู้บริหารพีทีวี และวิทยุชุมชนคนรักอุดร

วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผช.ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.), กองบังคับการปราบปราม และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ท.สถาพร กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้ได้แบ่งการทำงานออกเป็น2 ส่วน คือ การตรวจสอบอีเมล์ของผู้เกี่ยวข้องกับการฟอร์เวิร์ดเมล ซึ่งพบว่ามีการส่งต่อไปกว่า 200 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะต้องเรียกบุคคลเหล่านี้เข้ามาให้ปากคำ ซึ่งในส่วนนี้ บก.ป.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่ง ล่าสุดทาง บก.ป.ได้ไปตรวจค้นที่บริษัทแล้ว และจับกุมผู้กระทำผิดเป็นพนักงานบริษัทดังกล่าวมา 2 คน มีการขยายผลโดยการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อง โดยการโคลนนิงฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ 11 เครื่อง เป็นของผู้กระทำผิด 2 เครื่อง และผู้ที่เกี่ยวข้องในบริษัท 6 เครื่อง และเครื่องส่วนตัว 3 เครื่อง ซึ่งจะให้ทางศูนย์คอมพิวเตอร์ของ ตร.เข้าไปช่วยในการตรวจสอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์

พล.ต.ท.สถาพร กล่าวต่อว่า ส่วนที่สองจะตรวจสอบการเผยแพร่คลิปเสียงที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านทางคลื่นวิทยุชุมชนคนรักอุดร ของนายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งมีการเชื่อมโยงสัญญาณจากพีทีวีมาออกอากาศ ซึ่งตรงนี้จะให้ บช.ภ.4 เป็นผู้ดำเนินการว่า มีการนำไปเผยแพร่อีกหรือไม่ นอกจากนี้ ได้มอบหมาย พฐ.ร่วมกับ บช.ก.ช่วยกันดูรายละเอียดว่าคลิปเสียงมีการตัดต่อมาจากที่ใดบ้าง เบื้องต้นพบว่ามีที่มาจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ และตรวจสอบซีดีที่มีการแจกจ่ายไปตามที่ต่างๆ โดยให้เจ้าหน้าที่นำซีดีมาตรวจพิสูจน์ว่ามาจากคอมพิวเตอร์เครื่องใด เพื่อที่จะสาวไปหาต้นตอของการเผยแพร่และตัดต่อ

พล.ต.ท.สภาพร กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนเตรียมเชิญนายขวัญชัย และผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวีมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวหรือไม่ สำหรับนายขวัญชัยมีความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาท ถือเป็นความผิดส่วนตัว ขึ้นอยู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าจะแจ้งความเอาผิดหรือไม่ ส่วนความผิดทางคอมพิวเตอร์ ฐานเผยแพร่ได้มอบหมายให้ ทาง บช.ภ.4 รวบรวมหลักฐานมาใหม่ เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่สมบูรณ์ และให้ทาง สทส.ช่วยทำการตรวจสอบด้วย เนื่องจากมีความชำนาญด้านความผิดทางคอมพิวเตอร์

พล.ต.ท.กล่าวถึงกรณีที่พนักงานบริษัท เอสซีแอสเสท อ้างว่าได้รับซีดีมาจากผู้หญิงคนหนึ่งจากวินรถตู้ย่านห้าแยกปากเกร็ดว่า ให้เจ้าหน้าที่ไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นใคร แต่ไม่พบภาพ และพยานที่เป็นวินจักรยานยนต์ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าไหร่นัก แต่เราก็ต้องพิสูจน์ต่อไปว่าเป็นการกล่าวอ้างหรือเป็นเรื่องจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พนักงานสอบสวนจงใจที่จะไปตรวจสอบบริษัท เอสซีแอสเสท หรือไม่ พล.ต.ท.สถาพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของ บช.ก.ที่ไปดำเนินการก่อนหน้านี้ ก่อนที่ตนเองจะเข้ามารับหน้าที่เป็น หน.พนักงานสอบสวนซึ่งก็ทราบมาว่าทางนายเวรของ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศตรู ผบช.ก.ได้รับอีเมลไฟล์เสียงดังกล่าวก่อนที่จะมีการเผยแพร่ออกไป ซึ่ง ผบช.ก.ได้สั่งให้ไปตรวจสอบและจากการสืบสวนสอบสวนพบข้อมูลเชื่อมโยงกับการจับ กุมพนักงานเอสซีแอสเสท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือจงใจที่จะมุ่งไปบริษัทดังกล่าว

“ผมเองก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ดำเนินการตามกฎหมาย ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เพื่อจะให้เกิดความสงบสุขอย่างแท้จริง หากประชาชนคนใดมีข้อมูลให้แจ้งมาที่ตนเองได้ และขอเตือนว่าประชาชนที่ได้รับฟอร์เวิร์ดเมลอย่าส่งต่อเพราะเป็นความผิดทางคอมพิวเตอร์” พล.ต.ท.สถาพร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น