xs
xsm
sm
md
lg

อัยการยื่นฟ้อง “ปริญญา-วีระชัย” อดีต กกต.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

อัยการสั่งฟ้อง “ปริญญา นาคฉัตรีย์ - วีระชัย แนวบุญเนียร” อดีต กกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มาตรา 157 กรณีออกระเบียบขึ้นเงินเดือนตัวเองแล้ว ก่อนได้ประกันตัวโดยศาลตีราคาประกันคนละ 1.2 แสนบาท พร้อมนัดพยานตรวจหลักฐาน 12 ต.ค.นี้ ส่วน “อดีต ปธ.กกต.-จารุภัทร” อัยการระบุอยู่ระหว่างแจ้งหมายให้ ป.ป.ช.เอาตัวมาส่งฟ้องอีกครั้ง

วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปริญญา นาคฉัตรีย์ อายุ 65 ปี และ นายวีระชัย แนวบุญเนียร อายุ 60 ปี อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา ม.157 ประกอบ ม.83 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ม.4

ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต.และ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีต กกต.ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง นายจรัล บูรณะพันธุ์ศรี อดีต กกต.ซึ่งเสียชีวิตแล้ว และจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นกรรมการในหน่วยงานของรัฐตาม ม.4 พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.พ.ศ.2541 ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต โดยเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2547 จำเลยกับพวกร่วมกันประชุม กกต.แล้วมีมติเห็นชอบร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษของประธาน กรรมการ และ กกต.พ.ศ.2547 และให้ พล.ต.อ.วาสนา ประธาน กกต.ขณะนั้นออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของ กกต. พ.ศ.2547 กำหนดเงินค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือนให้กับจำเลยกับพวกเดือนละ 20,000 บาท โดยให้ใช้บังคับย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2547 เป็นต้นไป ทั้งที่จำเลยทั้งสองกับพวกไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย

ต่อมาวันที่ 3 ก.ย.2547 พล.ต.อ.วาสนา ประธาน กกต.ได้ลงนามออกในระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของ กกต.พ.ศ.2547 ฉบับลงวันที่ 3 ก.ย.47 อันเป็นการมีมติออกระเบียบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันที่ 6 ก.ย.2547 จำเลยกับพวกยังได้ประชุมแก้ไขระเบียบดังกล่าวในข้อ 2 จากเดิม “ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2547 เป็นต้นไป” แก้เป็น “ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2547 เป็นต้นไป” จากนั้นในวันที่ 13 ก.ย.2547 พล.ต.อ.วาสนา ยังได้ลงนามออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของ กกต.พ.ศ.2547 ฉบับลงวันที่ 13 ก.ย.2547 โดยแก้ไขข้อความในระเบียบเดิม กระทั่งวันที่ 28 ก.ย.2547 จำเลยกับพวกได้อาศัยระเบียบดังกล่าวรับเงินค่าตอบแทนไปจากสำนักงาน กกต.คนละ 20,000 บาท ร่วมเป็นเงิน 100,000 บาท เหตุเกิดที่สำนักงาน กกต.อาคารศรีจุลทรัพย์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.โดยจำเลยกับพวกทั้งหมด ได้ส่งเงินคืนต่อสำนักงาน กกต. ขณะที่ชั้นไต่สวนของ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ โดยโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง และนับโทษจากคดีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสองในคดีทุจริตจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 รวม 2 สำนวน รวม 6 ปี

โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นหมายเลขดำที่ อ.3015/2552 และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ต่อมาญาติ นายปริญญา และญาติ นายวีระชัย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 120,000 บาท ขอประกันตัว ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 120,000 บาท

ส่วน พล.ต.อ.วาสนา อดีตประธาน กกต. และ พล.อ.จารุภัทร อดีต กกต. และกลุ่มอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมรวม 13 คน ชุดที่มีนายกระมล ทองธรรมชาติ เป็นประธานและคณะผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา 3 คน ชุดที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร เป็นประธาน ซึ่งอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องด้วยนั้น

นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า อัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีหนังสือแจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบ และแจ้งหมายให้ผู้ถูกกล่าวทั้งหมดทราบเพื่อรายงานตัวต่ออัยการในการยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาแล้ว อย่างไรก็ดี ขณะนี้อัยการยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะยื่นฟ้องเมื่อใด เนื่องจากต้องรอว่า ป.ป.ช.ดำเนินกระบวนการแจ้งหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบก่อน ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะใช้เวลาภายในกี่วันในการอส่งตัวผู้ถูกกล่าวหา

นายเศกสรรค์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับเหตุที่คดีของอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีต กกต. และผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหมือนคดีที่ ป.ป.ช.ชุดที่มี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รวม 9 คน เป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 157 ที่ออกระเบียบขึ้นเงินเดือนตัวเองเมื่อปี 2548 นั้น เนื่องจากตามกฎหมายระบุว่านอกจาก ป.ป.ช.แล้ว องค์กรที่กระทำผิดให้ยื่นฟ้องคดีศาลอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งให้ฟ้องดังกล่าว อัยการมีความเห็นตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และพิจารณาจากแนวทางคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้จำคุกประธานและกรรม ป.ป.ช.ทั้งคณะ 9 คน ชุดที่มี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ เป็นประธาน เป็นเวลาคนละ 2 ปี ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แต่โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 2 ปี ซึ่งคดีดังกล่าวถึงที่สุดตามคำพิพากษา อย่างไรก็ดี ความผิดตาม มาตรา 157 นั้น มีอัตราโทษจำคุก 1-10 หรือ ปรับ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายปริญญา นาคฉัตรีย์
นายวีระชัย แนวบุญเนียร
กำลังโหลดความคิดเห็น