กรรมตามสนอง ศาลจำคุก 5 ปี โจรใจบาปลักพระพุทธชินราช ภายในศาลาธรรมชินราชปัญบพิธ วัดเบญจมบพิตร สารภาพศาลปรานีลดเหลือคุก 2 ปี 6 เดือน
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิ์ บุญหนัก เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์
คดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.52 จำเลยกระทำความผิด เมื่อลักทรัพย์พระพุทธชินราช มูลค่า 10,000 บาท ที่ประดิษฐานภายในศาลาธรรมชินราชปัญบพิธ วัดเบญจมบพิตร โจทก์มีผู้ดูแลวัดเบิกความเป็นพยานว่า ขณะชงชาให้พระในวัดได้ยินเสียงคนตะโกนว่า มีขโมยลักพระจึงรีบวิ่งออกไปทันเห็นจำเลยกำลังอุ้มพระพุทธรูป จึงสั่งให้วางลง จำเลยวางลงและวิ่งหนีไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า พยานจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล และตะโกนให้ตำรวจที่อยู่หน้า บช.น.ช่วยจับจำเลย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของพยานแล้ว แม้พยานจะไม่ใช่ประจักษ์พยานที่เห็นขณะจำเลยกำลังลักขโมย แต่พยานเบิกความลำดับเหตุการณ์ ไม่ปรากฏข้อพิรุธหรือมีเหตุให้ระแวงสงสัย เชื่อว่าพยานเบิกความไปตามข้อเท็จจริงที่เห็น ประกอบกับคำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานไปตามที่ได้สอบสวน และจำเลยยังให้การรับสารภาพตั้งแต่ในชั้นสอบสวน จึงเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปอันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนโดยกระทำในวัดจริง
พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย เป็นเวลา 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน