นายกฯ ยืนตามกฤษฎีกาสั่งตั้งกรรมการสอบ “พัชรวาท” ทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างประชาสัมพันธ์ “สตช.” แต่ยังเล่นเกมยื้อโยน “เทพเทือก” ตั้งกรรมการดองต่อ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลา 13.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลถามความเห็นกฤษฎีกาเกี่ยวกับการสอบทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างบริษัทเอกชนทำประชาสัมพันธ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ถูกกล่าวหาว่า ตอนนี้กฤษฎีกาได้ตอบมาแล้ว และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานมาแล้วว่ากฤษฎีกามีความเห็นจะต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เสนอมาที่ตนและตนเห็นชอบไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องมีคำสั่งให้มาช่วยราชการในส่วนข้าราชการที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ นายอภสิทธิ์กล่าวว่า อันนั้นเป็นอีกขั้นหนึ่ง ตอนนี้เป็นเรื่องที่นายสุเทพต้องไปดำเนินการตั้งคณะกรรมการและรายงานมาให้ตนทราบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าวางกรอบหรือยังใครจะเป็นประธานการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า นายสุเทพจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะมีเงื่อนไขตามกฎหมายของตำรวจอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะได้ตัวกรรมการเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้สั่งและเห็นชอบไปแล้ว ซึ่งนายสุเทพได้รับมาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.และเสนอมาว่าควรจะตั้งกรรมการตนก็เห็นชอบไปในวันนี้ เพิ่งส่งกลับไป ต้องไปถามนายสุเทพ
เมื่อถามว่าหลังการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.เสนอว่าต้องย้ายคนที่เกี่ยวข้องมาช่วยราชการตรงนี้ได้พิจารณาแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุเทพจะรายงานขึ้นมาว่าเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการแล้ว โดยหลักของกฎหมายคือจะมีปัญหาอุปสรรคต่อการทำงานของคณะกรรมการหรือไม่
เมื่อถามว่า การตั้งคณะกรรมการสอบเหมือนกับเป็นการพิจารณา สมัยที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการ จำเป็นจะต้องทำ เหมือนที่นายสมชายทำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุเทพจะเป็นผู้นำเสนอมาอีกครั้ง และตนต้องรอให้มีการตั้งคณะกรรมการที่ชัดเจน ส่วนจะใช้เวลานานหรือไม่ ต้องถามนายสุเทพ ซึ่งตนได้เห็นชอบไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่านายสุเทพอาจจะยื้อเวลาในการตั้งกรรมการสอบสวนออกไปจนกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะเกษียณอายุราชการ ประกอบกับพฤติกรรมของนายสุเทพก่อนหน้านี้ได้ออกมาปกป้อง พล.ต.อ.พัชรวาท ตลอดเวลา
ทั้งนี้ หากมีตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในทางปฏิบัติที่ผ่านมาจะมีการย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกจากสังกัด เพื่อเปิดทางให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเดินหน้าได้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในกรณีที่บุคคลที่ถูกตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงาน เพราะหากไม่มีการย้ายออกจากตำแหน่งอาจจะทำให้การสืบสวนข้อเท็จจริงถูกแทรกแซงได้ และคณะกรรมการก็จะไม่สามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้
