ดีเอสไอสนธิกำลัง ปดส.และตำรวจท้องที่เบตง บุกเข้าช่วย 8 สาวเวียดนาม ถูกล่อลวงค้าประเวณีร้านคาราโอเกะ พร้อมรวบแม่เล้าชาวจีน สอบขยายผลตามจับเพื่อนร่วมแก๊งต่อไป
วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น.พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงข่าวร่วมกับผู้บริหารจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี และผู้แทนจากสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เกี่ยวกับความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือแก่สตรีสัญชาติเวียดนาม จำนวน 8 คน ซึ่งถูกบังคับให้ค้าประเวณี ที่ร้านคาราโอเกะ ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตามคำร้องขอของสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ณ ห้องประชุม ชั้น 1 อาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ
สืบเนื่องจากสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานจากสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และมูลนิธิพิทักษ์สตรีในประเทศไทย ว่า มีหญิงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 7 คน อายุระหว่าง 17-21 ปี (ขอปกปิดนาม) ซึ่งถูกหลอกลวง และหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ค้าประเวณีอยู่ที่ร้านคาราโอเกะ Kiss me ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 2 ของโรงแรม Holiday Hill Hotel Betong, Thailand ถนนภักดี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จึงมอบหมายให้ พันตำรวจโท สมบัติ เตื้องวิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนการประสานงานระหว่างประเทศ และคณะประสานงานกับ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บังคับการ ปดส. พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบก. พ.ต.ท.ทินกร มั่งคั่ง ผกก.3 ปดส. พ.ต.อ.สมบัติ หวังดี ผกก.สภ.เบตง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มูลนิธิพิทักษ์สตรีในประเทศไทย ร่วมกันวางแผนเข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้หญิงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 8 คน อายุระหว่าง 17-21 ปี (ขอปกปิดนาม) และจับกุมตัวนาง LANG CHUNHUI อายุ 46 ปี สัญชาติจีน พร้อมด้วยของกลางเป็น เอกสารบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว บัญชีธนาคาร 3 เล่ม สมุดรับจ่ายเงินค่าตัว โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันค้ามนุษย์ เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอม เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของกลุ่มที่ค้ามนุษย์จะหลอกเหยื่อว่าจะให้งานทำที่ต่างประเทศ เพื่อหลอกไปร่วมค้าประเวณี ซึ่งชาวเวียดนามที่เข้ามาในประเทศไทยแล้วไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ และถูกยึดพาสปอร์ตจนไม่สามารถทำอะไรได้ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามได้จับกุมกลุ่มนายหน้าค้ามนุษย์ที่ประเทศเวียดนาม พบว่า มีการหลอกลวงหญิงชาวเวียดนามมาค้าประเวณีในประเทศไทย จึงได้มีการประสานงานผ่านสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทยเพื่อเข้าช่วยเหลือเหยื่อดังกล่าว ทั้งนี้ ขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป
