“ดีเอสไอ” จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพิ่มทักษะความรู้ชำนาญ ให้พนักงานสอบสวน 161 คน ใน 3 หมวดวิชา หวังสร้งมือพระกาฬทำคดีพิเศษ
วันนี้ (17 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่โรงแรมทีเค พาเลซ ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 ชำนาญการพิเศษ โดยจัดขึ้นเพื่อเพิ่มพูนทักษะองค์ความรู้และความชำนาญการพิเศษของผู้รับการอบรมให้สูงขึ้นในการกำกับ แนะนำ ตรวจสอบการปฏิบัติงาน รวมถึงการตัดสินใจแก้ปัญหาการปฏิบัติงานในคดีพิเศษ ที่ยุ่งยากสลับซับซ้อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล โดยมีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 ชำนาญการพิเศษ จำนวน 161 คน เข้ารับการฝึกอบรมใน 3 หมวดวิชา
1.หมวดวิชาว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย การอ่านและวิเคราะห์งบการเงิน, การสืบสวนสอบสวนโดยใช้ความรู้ทางบัญชี ภาษี และการเงิน, การใช้เครื่องมืออุปกรณ์พิเศษ, การเข้าถึงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจับเท็จ, การแฝงตัว, เทคนิคการตรวจสอบพยานหลักฐานทางคอมพิวเตอร์, การตรวจพิสูจน์หลักฐานกับงานสืบสวนสอบสวน
2.หมวดวิชาด้านการบริหาร การเงิน ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการสอบสวนคดีพิเศษและการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย การบริหารงานสอบสวน ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการและประสิทธิภาพของหัวหน้าชุดปฏิบัติการ,การสอบสวนคดีพิเศษ ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีและอาชญาวิทยาว่าด้วยคดีพิเศษ, การปฏิบัติงานร่วมกับบุคลากรของหน่วยงานอื่นตามมาตรา 30, 32 และ 33 แห่ง พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547
3.หมวดวิชาด้านการเรียนรู้ร่วมกันและการนำเสนอวิสัยทัศน์กรมสอบสวนคดีพิเศษต่อผู้บริหาร ประกอบด้วย การเสริมสร้างพลังการเรียนรู้ร่วมกัน และการนำเสนอวิสัยทัศน์กรมสอบสวนคดีพิเศษ
“พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนอกจากจะมีฐานะเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งมีอำนาจในการสืบสวน จับกุม ค้นบุคคลในสถานที่สาธารณะ ค้นในที่รโหฐาน รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ยังมีอำนาจพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ได้แก่ อำนาจในการค้นบุคคล สถานที่ และยานพาหนะ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและแฝงตัวเข้าไปในองค์กรหรือกลุ่มคนใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอีกด้วย ซึ่งบุคคลที่ใช้อำนาจพิเศษเหล่านี้ หากเป็นผู้ที่ไม่ยึดถือในหลักการ หลักเกณฑ์หรือขาดความรู้ และเชี่ยวชาญวิธีปฏิบัติ ตลอดจนปราศจากซึ่งคุณธรรมจริยธรรมแล้ว ย่อมจะทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างมหาศาล” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
