นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยระบุว่าได้ลงนามในประกาศยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว ซึ่งจะมีผลภายในเที่ยงวันนี้
นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าหลังจากนี้จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามกฎหมายที่มีอยู่ พร้อมกับจะเดินหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ขณะเดียวกัน จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้กำลังในการผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม
"เมื่อวานนี้ทั้งวันมีการสอบถามกันตลอดเวลา และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงก็ยืนยันว่าน่าจะดำเนินการได้ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นก็ได้มีการตัดสินใจและลงนามประกาศเพื่อยกเลิกภาวะฉุกเฉินร้ายแรง ตั้งแต่เที่ยงวันนี้
ขอเรียนว่า เมื่อยกเลิกแล้ว นั่นก็หมายความว่าอำนาจต่างๆ ที่ใช้ตาม พ.ร.ก.ก็จะสิ้นสุดลงไปด้วย แต่คงไม่ได้หมายความว่าการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะจุดที่อาจจะยังมีความหวั่นวิตกของพี่น้องประชาชน จะหมายถึงว่าเราไม่ทำอะไร ก็มีการประสานกันระหว่างหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีจุดไหน อย่างไร ที่จะสามารถดำเนินการได้ โดยอาศัยกฎหมายตามปกติ
เพราะฉะนั้นขอให้ความมั่นใจว่า ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป แต่จะไม่มีในเรื่องของอำนาจพิเศษ และการยกเลิกครั้งนี้ก็เป็นการส่งสัญญาณไปยังทั่วโลกว่าเราได้นำบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ผมมีเรื่องที่จะเรียนอีก 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องของการดำเนินการต่อไป สำหรับหลายท่านซึ่งอาจจะไม่ได้ฟังการอภิปรายในช่วงค่อนข้างดึกเมื่อวานนี้ เรียนว่าขณะนี้ท่านประธานรัฐสภา รวมทั้งท่านประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธาน จะร่วมกับวิป 3 ฝ่าย ในการที่จะเดินหน้า ประการแรกก็คือ ประมวลเหตุการณ์เพื่อที่จะตรวจสอบในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเรื่องของการใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐในช่วงที่มีประกาศ พ.ร.ก.
ส่วนที่ 2 ก็คือการนำเอาประเด็นปัญหา ซึ่งถือเป็นปมของความขัดแย้งต่างๆ ทางการเมือง เพื่อวางแนวทางในการที่จะคลี่คลายปมประเด็นปัญหาเหล่านั้นต่อไป
เพราะฉะนั้นส่วนนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมก็จะรอฟังความคืบหน้าของทางฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลในฝ่ายบริหารจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"
นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าหลังจากนี้จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามกฎหมายที่มีอยู่ พร้อมกับจะเดินหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ขณะเดียวกัน จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้กำลังในการผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุม
"เมื่อวานนี้ทั้งวันมีการสอบถามกันตลอดเวลา และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงก็ยืนยันว่าน่าจะดำเนินการได้ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นก็ได้มีการตัดสินใจและลงนามประกาศเพื่อยกเลิกภาวะฉุกเฉินร้ายแรง ตั้งแต่เที่ยงวันนี้
ขอเรียนว่า เมื่อยกเลิกแล้ว นั่นก็หมายความว่าอำนาจต่างๆ ที่ใช้ตาม พ.ร.ก.ก็จะสิ้นสุดลงไปด้วย แต่คงไม่ได้หมายความว่าการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะจุดที่อาจจะยังมีความหวั่นวิตกของพี่น้องประชาชน จะหมายถึงว่าเราไม่ทำอะไร ก็มีการประสานกันระหว่างหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงว่าจะมีจุดไหน อย่างไร ที่จะสามารถดำเนินการได้ โดยอาศัยกฎหมายตามปกติ
เพราะฉะนั้นขอให้ความมั่นใจว่า ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป แต่จะไม่มีในเรื่องของอำนาจพิเศษ และการยกเลิกครั้งนี้ก็เป็นการส่งสัญญาณไปยังทั่วโลกว่าเราได้นำบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ผมมีเรื่องที่จะเรียนอีก 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องของการดำเนินการต่อไป สำหรับหลายท่านซึ่งอาจจะไม่ได้ฟังการอภิปรายในช่วงค่อนข้างดึกเมื่อวานนี้ เรียนว่าขณะนี้ท่านประธานรัฐสภา รวมทั้งท่านประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธาน จะร่วมกับวิป 3 ฝ่าย ในการที่จะเดินหน้า ประการแรกก็คือ ประมวลเหตุการณ์เพื่อที่จะตรวจสอบในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเรื่องของการใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐในช่วงที่มีประกาศ พ.ร.ก.
ส่วนที่ 2 ก็คือการนำเอาประเด็นปัญหา ซึ่งถือเป็นปมของความขัดแย้งต่างๆ ทางการเมือง เพื่อวางแนวทางในการที่จะคลี่คลายปมประเด็นปัญหาเหล่านั้นต่อไป
เพราะฉะนั้นส่วนนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมก็จะรอฟังความคืบหน้าของทางฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลในฝ่ายบริหารจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"