ปธ.มรรยาททนายความ เผยเตรียมสรุปผลสอบข้อเท็จจริงอดีตทนายแม้ว ประพฤติผิดมรรยาท หิ้วถุงขนม 2 ล้านให้เจ้าหน้าที่ศาลคดีที่ดินรัชดาเสนอที่ประชุม กก.ชุดใหญ่ คาดรู้ผล 2 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการสอบสวนข้อเท็จจริงนายพิชิฏ ชื่นบาน อดีตทนายความ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส. ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา 3 อดีตผู้ต้องโทษคดีละเมิดอำนาจศาลที่นำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท มอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดข้อบังคับว่าด้วยมรรยาททนายความ
วันนี้ (13 ส.ค.) นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ กล่าวว่าขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ สรุปความเห็นส่งให้คณะกรรมการมรรยาทชุดใหญ่ ซึ่งตนมอบหมายให้หนึ่งในคณะกรรมการมารยาทนำสำนวนและรายงานสรุปความเห็นไปตรวจพิจารณาเพื่อทำความเห็นว่า เห็นด้วย หรือเห็นต่างกับข้อสรุปคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในประเด็นใดบ้าง ก่อนส่งให้คณะกรรมการมรรยาทชุดใหญ่พิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนปฏิบัติอีกครั้ง ซึ่งกรรมการมรรยาทที่ได้รับมอบหมายขอเวลาในการสรุปผลส่งคณะกรรมการมรรยาทชุดใหญ่เพื่อประชุมและมีมติชี้ขาดได้ภายในวันที่ 2 ก.ย.นี้
“การมีมติของคณะกรรมการมรรยาทชุดใหญ่ จะพิจารณาทั้งความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯ ที่ได้รวบรวมคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา และพยานหลักฐานต่างๆ ไปพร้อมๆ กับความเห็นของกรรมการมรรยาทที่ตรวจสำนวน หากที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาทชุดใหญ่ มีมติอย่างไรแล้วก็ถือเป็นที่ยุติ ซึ่งการมีมติจะใช้หลักเสียงข้างมาก 8 เสียงขึ้นไป จากองค์ประชุมทั้งหมด 15 คน โดยถ้ามีมติลงโทษแล้วทนายความผู้นั้น ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นทนายความทันที แต่ทนายความผู้นั้นยังใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ รมว.ยุติธรรม ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์ สภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ ได้ ตาม พ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 ภายใน 30 วัน หรือการใช้ช่องทางตามกฎหมายยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง” นายสิทธิโชคกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว สภาทนายความเปิดโอกาสให้ทนายความทั้งสาม นำพยานบุคคลเข้าให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายมนตรี ยิ่งยง เป็นประธานตั้งแต่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่โทษการกระทำผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 มีการบัญญัติโทษไว้ตาม มาตรา 52 พ.ร.บ.สภาทนายความ พ.ศ.2528 ว่ามีโทษ 3 สถาน (1) ภาคทัณฑ์ (2) ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกิน 3 ปี (3) ลบชื่ออกจากทะเบียนทนายความ หรือถ้าเป็นการประพฤติผิดมรรยาททนายความเล็กน้อย และเป็นความผิดครั้งแรกอาจสั่งงดการลงโทษ โดยเพียงกล่าวตักเตือนหรือทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือก็ได้
