“ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” รอง ผบ.ตร.เดินหน้าสางคดียิง “สนธิ” ประสานดีเอสไอ นำรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน สศ 1785 ที่สงสัย “ส.ต.ท.วรวุฒิ” ใช้หลบหนี ทำการตรวจสอบ พร้อมสั่ง ปส.ตรวจสอบการปฎิบัติงาน ขณะที่ ทนาย “จ.ส.อ.ปัญญา” ระบุญาติและลูกความยังไม่ติดต่อ เชื่อหากตำรวจต้องการจับ คงไม่เกินความสามารถ
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นสี่ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถใช้ในราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ประจำศูนย์ข่าว บช.ปส. ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำมาใช้ในช่วงหลบหนี มาส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน ก่อนจะมีหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นำรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน สศ 1785 กรุงเทพมหานคร มาตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธานี มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส.ตรวจสอบการปฏิบัติราชการของ ส.ต.อ.วรวุฒิ ในช่วงที่ผ่านมาว่า ไปช่วยราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยหรือไม่
ส่วนความคืบหน้าในส่วนของ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกออกหมายจับและทำการยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ธานี โดยที่ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ทำตามอำนาจของกฎหมายในการเสนอออกหมายจับนั้น ล่าสุดวันนี้ นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความของ จ.ส.อ.ปัญญา เปิดเผยว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากญาติ และ จ.ส.อ.ปัญญา แต่อย่างใด ส่วนจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ต่อข้อถามที่ว่า จ.ส.อ.ปัญญา รู้จักกับ ส.ต.ท.วรวุฒิ หรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า จากการสอบถาม จ.ส.อ.ปัญญา บอกว่าไม่รู้จัก และก็ไม่ได้สอบถามว่า จ.ส.อ.ปัญญา รู้จักกับ พ.อ.สุนัย ประภูชะเน หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับคดีนี้ โดยนายบัญญัติบอกเพียงว่า ตนทราบเพียงข่าวที่สื่อลงไปเท่านั้น พร้อมกับย้ำว่า ตนเป็นทนายความ เมื่อลูกความมาปรึกษาและว่าจ้างให้ทำคดีก็ทำไปตามหน้าที่ เพราะมองว่า คดีนี้เป็นเพียงคดีอาญาทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์เป็นที่น่าสังสัยว่า นายบัญญัติพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ จ.ส.อ.ปัญญา โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเก่งอยู่แล้ว หากจะติดตามจับกุมตัวคงไม่เกินความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรจึงจับกุมไม่ได้
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นสี่ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถใช้ในราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ประจำศูนย์ข่าว บช.ปส. ช่วยราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำมาใช้ในช่วงหลบหนี มาส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน ก่อนจะมีหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นำรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน สศ 1785 กรุงเทพมหานคร มาตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธานี มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส.ตรวจสอบการปฏิบัติราชการของ ส.ต.อ.วรวุฒิ ในช่วงที่ผ่านมาว่า ไปช่วยราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยหรือไม่
ส่วนความคืบหน้าในส่วนของ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกออกหมายจับและทำการยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ธานี โดยที่ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้ทำตามอำนาจของกฎหมายในการเสนอออกหมายจับนั้น ล่าสุดวันนี้ นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความของ จ.ส.อ.ปัญญา เปิดเผยว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากญาติ และ จ.ส.อ.ปัญญา แต่อย่างใด ส่วนจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ต่อข้อถามที่ว่า จ.ส.อ.ปัญญา รู้จักกับ ส.ต.ท.วรวุฒิ หรือไม่ นายบัญญัติกล่าวว่า จากการสอบถาม จ.ส.อ.ปัญญา บอกว่าไม่รู้จัก และก็ไม่ได้สอบถามว่า จ.ส.อ.ปัญญา รู้จักกับ พ.อ.สุนัย ประภูชะเน หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับคดีนี้ โดยนายบัญญัติบอกเพียงว่า ตนทราบเพียงข่าวที่สื่อลงไปเท่านั้น พร้อมกับย้ำว่า ตนเป็นทนายความ เมื่อลูกความมาปรึกษาและว่าจ้างให้ทำคดีก็ทำไปตามหน้าที่ เพราะมองว่า คดีนี้เป็นเพียงคดีอาญาทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การให้สัมภาษณ์เป็นที่น่าสังสัยว่า นายบัญญัติพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ จ.ส.อ.ปัญญา โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเก่งอยู่แล้ว หากจะติดตามจับกุมตัวคงไม่เกินความสามารถ แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรจึงจับกุมไม่ได้