ผบ.ตร.ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบเครื่องมือตรวจหลักฐานคดีไฟใต้ ตั้ง 3 ระอุ ขัดแย้ง ยาเสพติด ยกระดับเหตุการณ์ วางแผนรับคนพื้นที่จบวิทย์ เป็นเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์
วันนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท. พล.ต.ท.ดนัยทร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สนว.ตร.) พร้อมคณะสมาคมแม่บ้านตำรวจ เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อติดตามความคืบหน้าและให้กำลังใจข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจ.ยะลา จากนั้นตรวจเยี่ยมศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา เพื่อส่งมอบเครื่องด้านนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ เครื่องตรวจดีเอ็นเอ เครื่องตรวจวัตถุระเบิด เครื่องตรวจวิถีกระสุน มูลค่ากว่า 48 ล้านบาท โดยมี พล.ต.ต.ประพัฒน์ คนตรง รอง ผบช.สนว.ตร ในฐานะหัวหน้าศูนย์เป็นตัวแทนรับมอบ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงปัญหาการทำงานตำรวจในพื้นที่ ว่า พบว่ายังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่ง ตร.จะเร่งพิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังพลที่มีอยู่มาบรรจุเจ้าหน้าที่ด้านนี้ใหม่ โดยจะเน้นเอาคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาบรรจุ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงนี้ ตร.ตั้งสมมติฐานไว้ 3 ประเด็น คือ 1.ความขัดแย้งในพื้นที่ 2.ยาเสพติด 3.พยายามยกระดับความรุนแรง ทั้งนี้ตำรวจมีหน้าที่หลักในการสืบสวนจับกุมคนร้าย ส่วนการป้องกันเป็นของทหารและพลเรือน ซึ่งการปรับนโยบายของตำรวจจะมุ่งเชิงรุกหรือไม่ต้องอยู่ที่ภาพรวมซึ่งกำกับโดย กอ.รมน.ภ.4” ผบ.ตร.กล่าว
ส่วนกรณีเหตุระเบิดที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ในวันนี้เป็นการต้อนรับ ผบ.ตร.หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่ช่วงนี้มีเหตุขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตำรวจก็ทำตามหน้าที่ แต่ต่อไปเราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสถานที่เกิดเหตุมากขึ้น ทั้งนี้ การจัดหาเครื่องตรวจดีเอ็นเอที่ทันสมัยมีศักยภาพมากมาใช้จะช่วยให้งานตรวจพิสูจน์ในพื้นที่ภาคใต้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะการตรวจดีเอ็นเอสำคัญเนื่องจากเป็นพยานที่ศาลรับฟัง
ด้าน พล.ต.ต.ประพัฒน์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2547 การตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีประโยชน์อย่างมาก โดยมีคดีที่ศาลพิพากษาแล้ว 178 คดี ในจำนวนนี้ใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นหลักฐานหลัก 20คดี คิดเป็น 11% ซึ่งการได้เครื่องมือมาเพิ่มทำให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นขณะนี้ขาดเพียงกำลังพล ซึ่งกำลังฝึกฝน
รอง ผบช.สนว.กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนได้แล้ว 8,427 ปลอก หัวกระสุนปืน 661 หัว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคดีถึง 553 คดี ทั้งนี้พบว่ามีปืนที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่ 3,100 กระบอก ใช้ก่อเหตุซ้ำ 479 กระบอก ขณะที่มีฐานข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องสงสัยก่อเหตุในพื้นที่ถึง 4,799 ตัวอย่าง ขณะที่ทั่วประเทศมีฐานข้อมูล 6 ล้านตัวอย่าง เครื่องมือดังกล่าวสามารถตรวจได้สมบูรณ์ไม่ต้องส่งมา กทม.
ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า ในที่ประชุมสรุปสถานการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ได้รายงานเรื่องปัญหาการขาดกำลังพล ทำให้ทุกวันนี้ใช้กำลังพลในพื้นที่หมุนเวียนจนเกิดภาวะตึง และกำลังพลส่วนใหญ่ต้องการย้ายออก ขณะที่ ผบ.ตร.แจ้งว่า ใน 2 สัปดาห์จะเดินทางมาอีกครั้ง พร้อมคณะกระทรวงยุติธรรม เพื่อตกลกกันเรื่องการแบ่งพื้นที่ในการเก็บหลักฐานและตรวจดีเอ็นเอจากสถานที่เกิดเหตุ ระหว่างตำรวจกับกระทรวงยุติธรรม ซึ่งประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่คัดค้านโดยให้เหตุผลว่าการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสำคัญต่อการสืบสวนสอบสวนจำเป็นต้องมีการสอดประสานที่ดี