xs
xsm
sm
md
lg

ล้วงตับ “เชษฐา-ดีเอสไอ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ลายคนใจจด ใจจ่อ อยู่กับความคืบหน้าวันต่อวัน ในการคลี่คลายคดีลอบสังหาร“นายสนธิ ลิ้มทองกุล” แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า จะมีวันใดที่ 2 ผู้ต้องหาชุดแรก คือ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ จะถูกจับกุม หรือเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ขณะที่ผู้ต้องหาอีกชุดใหญ่ ตามข้อมูลที่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” และ “พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ช่วย ผบ.ตร.พูดตรงกัน ว่า มีทหาร 13 ตำรวจ 1 นั้น จะมีการเสนอศาลขออนุมัติหมายจับกุมในวันใด

แต่สำหรับความจริงที่เกิดขึ้น สำหรับ 2 ผู้ต้องหา ทั้ง “จ่าปัญญา” และ “หมู่วรวุฒิ” ถือว่า เขาได้มีการเคลื่อนไหวให้ได้รับรู้ว่า บุคคลทั้ง 2 ยังมีชีวิตอยู่ และบ่งบอกว่ามีผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ เริ่มจาก “จ่าปัญญา” ที่กล้าหาญปรึกษาทนายความ ดำเนินการฟ้อง"พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และพ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวน บช.น.ต่อศาลอาญา แม้ถัดมาอีก 1 วัน ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง ก็ตามที

“จ่าปัญญา” เขาคิดผิด หรือคิดถูก และคุ้มค่ากับการออกมาเปิดประเด็นใหม่ ที่ตีแผ่ไว้ในคำฟ้อง ให้สังคมได้รับรู้หรือไม่...โดยเฉพาะข้ออ้างของเขาที่ ยกเป็นข้อต่อสู้ว่า เขาไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถุกล่าวหา คือ กรณี “ยืนยันว่า วันก่อนเกิดเหตุลอบยิง นายสนธิ ได้เป็นกรรมการงานทอดผ้าป่าสามัคคีที่วัดดินแดง อ.เขาสมิง จ.ตราด ที่มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธาน”

ขณะที่ก่อนหน้านี้ (17 ก.ค.) หลังวันที่ชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ลงพื้นที่ล่าตัว “จ่าปัญญา” พร้อมค้นหาหลักฐานที่บริษัท กฤษณาฟ้าสยาม จำกัด เลขที่ 2/1 หมู่ที่ 10 บลประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด ที่มี นางอรทัย ฐานะจาโร อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ลูกสะใภ้ เป็นกรรมการบริษัทเพียงคนเดียว “พล.อ.เชษฐา” ยืนยันเสียงแข็งว่า “ทุกวันนี้ไม่เคยเจอกับทหารคนนี้ (จ่าปัญญา) และจะไม่เปิดแถลงข่าวในเรื่องนี้ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ผมคุ้นเคยกับเค้าในฐานะลูกน้องกับผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ก็มีไปมาหาสู่ระหว่างลูกน้องกับเจ้านาย แต่ตั้งแต่เป็นข่าวก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย ผมเชื่อว่า จะหลุดจากวงโคจรพวกนี้แน่”

อย่างไรก็ตาม สำหรับวายร้ายตัวแรก “จ่าปัญญา” เขาจะมีความเกี่ยวข้อง และไปร่วมทอดผ้าป่า กับ “พล.อ.เชษฐา” หรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ อดีตนาย และลูกน้องต้องไปเคลียร์กันเอาเอง และถือเป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ “พล.อ.เชษฐา” เสียหายแบบเต็มๆ

มาถึงวายร้ายตัวที่สอง “ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ” โดยสิ่งที่บ่งบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ คือ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง เปิดเผยกับสื่อว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ได้รับจดหมายจาก ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ โดยจดหมายลงวันที่ 22 ก.ค.ต้นทางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นจดหมายขอความเป็นธรรม เนื้อหาแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ไม่ได้ทำความผิด แต่ไม่ได้พูดว่าจะมามอบตัวหรือไม่ โดย พล.ต.ท.อัศวิน ยืนยันว่า ถ้าติดต่อมาถึงตนไม่ตายแน่นอน พร้อมกับเชื่อว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ กลัวถูกเก็บ หนีอย่างระมัดระวังตัวพอสมควร

อย่างไรก็ตาม สำหรับตัว “ส.ต.ท.วรวุฒิ” เขาได้รับการช่วยเหลือจากใคร และใครแนะนำแนวทางในการต่อสู้ ด้วยวิธีร้องขอความเป็นธรรม ถือเป็นประเด็นที่หลายคนอยากรู้ ประกอบกับ ทางข่าวที่เกี่ยวข้องกับ “วรวุฒิ” ได้ถูกโยงไปที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่มี"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง"นั่งเป็นอธิบดีอยู่....

ดังนั้น หากย้อนทางข่าว “วรวุฒิ-ดีเอสไอ” ที่สื่อทุกสำนัก ต่างนำเสนอ ถือว่า “วรวุฒิ” มีสายสัมพันธ์ กับบุคคลระดับสูงในดีเอสไอ อยู่ไม่ใช่น้อย

ส.ต.ท.วรวุฒิ เข้ารับราชการสังกัด บช.ปส.ตั้งแต่ 1 มี.ค.2545 ทำหน้าที่ติดต่อหาข้อมูลข่าวตามศูนย์ข่าว รวมถึงการสืบราชการลับ จากนั้นได้ขอโอนไปช่วยราชการที่ดีเอสไอ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2551 โดยหลังเหตุลอบยิง “สนธิ” เมื่อ 17 เม.ย.พบว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ดีเอสไอ โดยมีหลักฐานในการร่วมทำคดีสำคัญหลายคดี เป็นเครื่องยืนยัน

ส่วนตัวบุคคลที่น่าจะรู้จักกับ “วรวุฒิ” ถือว่าน่าสนใจ....เริ่มจากพ.ต.อ.ทวี สอดส่องเบอร์ 1 กรมดีเอสไอ แม้วันนี้ เขาจะเก็บตัวเงียบ ไม่พูดตอบโต้ และบอกว่า เขาไม่รู้จัก “วรวุฒิ” ขณะที่ทางข่าว “ทวี สอดส่อง” เขามีชื่อไปสอดคล้องต้องกันกับ “พ.ต.อ.(ท)” ที่ถูกสื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้มีการโทรศัพท์ถึงตัว “พ.ต.อ.(ท)” และติดต่อไปยังบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ ในช่วงเกิดเหตุยิง “สนธิ” ภายใต้ความสัมพันธ์ สนิทสนมกับ น้องสาว ผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนจะจริง เท็จ อย่างไร “พ.ต.อ.(ท)” จะคนเดียวกับ “ทวี สอดส่อง” หรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อว่า “ทวี” จะคิดทำเช่นนั้น แต่สำหรับชีวิตจริง “ทวี สอดส่อง” เขาคือเด็กปั้นของ “พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย” รอง ผบ.ตร.ผู้ที่มีความมั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้ ขึ้นแท่น ผบ.ตร.คนต่อไป แทน “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ที่จะอำลาชีวิตสีกากี ในเร็ววันนี้...ดังนั้น “วรวุฒิ” ร้องขอความเป็นธรรม เพื่อหวังยื้อการเข้ามอบตัว เพื่อรอการเปลี่ยนหัว ผบ.ตร.หรือไม่ และหากเป็น “จุมพล มั่นหมาย” ขึ้นนั่งตามที่คาดหวัง อะไรจะเกิดขึ้น...

ถัดมา“พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ”รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เขาคือบุคคลที่ถูกสื่อโยงว่า เป็นผู้กำหนดชีวิต “วรวุฒิ” เริ่มจากประวัติ “วรวุฒิ” ที่คนในดีเอสไอ เล่าขานกันว่า เดิมทีเขาคือเด็กเดินยาเสพติดในพื้นที่คลองเตย ที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ จับกุมได้บ่อยครั้ง สมัยอยู่ บช.ปส.และเห็นว่า เด็กคนนี้น่าจะเป็นสายให้ตำรวจได้ จึงนำมาเป็นสาย ประกอบกับ “วรวุฒิ” เป็นคนที่มีความชำนาญเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์ แต่ทักษะยังไม่เพียงพอในการสืบราชการลับ หรือทำงานใต้ดิน จึงส่งไปฝึกฝนในสำนักงานค่ายโทรศัพท์ของทักษิณ ก่อนที่จะลาออกและส่งเข้าเป็นตำรวจ เริ่มจากตำแหน่งพลขับประจำรถ “พล.ต.ท.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” ผบช.ปส.ในขณะนั้น

จากนั้นหลัง พ.ต.อ.ดุษฎี มาอยู่ดีเอสไอ คุมสำนักคดีเทคโนโลยีฯ ครั้งนั้น พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ จึงได้ขอตัว “วรวุฒิ” มาช่วยงานดีเอสไอ โดยไม่ได้ทำเป็นหลักฐานขอตัวอย่างเป็นทางการ อ้างว่า ทำงานลับเป็นครั้งคราว พร้อมกับได้เสนอเปลี่ยนชื่อ นามสกุล เป็น “นายอรรถพล ปาทาน” โดยอ้างว่าต้องการให้ง่ายต่อการสืบคดียาเสพติดในภาคใต้ และนับจากวันที่ “วรวุฒิ” ถูกออกหมายจับ จนถึงวันนี้ “พ.ต.อ.ดุษฎี” ยังคงเก็บตัวเงียบ

คนต่อมา“พ.อ.สุรศักดิ์ ณ ลำปาง” ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ ที่พบว่าเป็นผู้ลงนามอนุมัติแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กรณีการเบิกใช้รถยนต์ ทะเบียน สษ 1785 กทม.ที่มีหลักฐานปรากฏว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ น่าจะนำไปร่วมในขบวนวางแผนฆ่า “สนธิ”

โดยที่ประเด็นเรื่อง รถยนต์ อาวุธปืน รวมทั้งเครื่องมือการดักฟัง ทางดีเอสไอ ทำหนังสือยืนยัน ไปยัง รมว.ยุติธรรม ว่า ดีเอสไอ ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น...

แต่เมื่อไปดูประวัติของ พ.อ.สุรศักดิ์ ถือว่าไม่ธรรมดา โดยที่เขาเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักสะกดรอย ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ แทน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ ที่ขยับเป็นรองอธิบดี พ.อ.สุรศักดิ์ มีความเชี่ยวชาญด้านการข่าว ก่อนโอนย้ายสังกัดดีเอสไอ เคยรับราชการอยู่ที่ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ

ส่วน“พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย”รองอธิบดีดีเอสไอ ถือเป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือนายเป็นหลัก ด้วยภารกิจออกโรงแถลงข่าวแก้ต่าง ปัดความรับผิดให้พ้น ดีเอสไอ ไปวัน วัน ซึ่งจากข้อมูล เชื่อว่า เขาไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับขบวนการ “เจ้าภาพกฐิน” รับงานฆ่า “สนธิ” ตามที่ “สนธิ” ตั้งข้อสังเกตไว้...

ดังนั้น ท้ายสุดแล้วคดียิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” ทำไมชุดสืบสวนยังไม่สามารถติดตามจับกุม “จ่าปัญญา และ หมู่วรวุฒิ” ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้....ใคร คือ ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ให้การช่วยเหลือบุคคลทั้ง 2 ไว้ “พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร” บุคคลที่ถูกระบุชื่อในคำฟ้อง จะรู้เห็นความเคลื่อนไหวของอดีตลูกน้องหรือไม่ ...และหน่วยงาน ดีเอสไอ ที่ถูกสื่อโยงชื่อเข้าไปมีความสัมพันธ์ กับ “วรวุฒิ” จะได้กลิ่นความเคลื่อนไหวของ สายลับรายนี้ บ้างหรือไม่...ถือเป็นเรื่องราวที่ต้องติดตาม วันต่อวัน!!!
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร กับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา
พ.ต.อ.ทวี สองส่อง กับ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย กับพ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ
กำลังโหลดความคิดเห็น