00...แปลกแต่จริง! กับพาดหัวข่าวแรกหน้าอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรม ของเช้าวันที่ 3 ส.ค. “จ่าปัญญา” ผู้ต้องหายิงสนธิ ส่งทนายฟ้อง “ธานี” กลั่นแกล้งให้รับโทษอาญา! โดยในเนื้อหาข่าวให้รายละเอียดคร่าวๆ ว่า “จ่าปัญญา ศรีเหรา” ทหารหน่วยรบพิเศษผู้ต้องหาทีมลอบยิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” ได้ส่งทนาย ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวน บช.น. ที่ศาลอาญา เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำการอันมิชอบเพื่อจะกลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม ยันมีหลักฐานเป็นกรรมการทอดผ้าป่า ในวันเกิดเหตุ พร้อมจะเข้ามอบตัวก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง
นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ ผู้ที่อ้างตัวว่าได้รับมอบอำนาจจาก “จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา” กล่าวว่า จ่าปัญญาได้ติดต่อตนผ่านญาติขอให้มาช่วยเป็นทนายความ โดยตนได้พบกับโจทก์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น และยืนยันว่าจะขอมอบตัวพนักงานสอบสวนแน่นอนก่อนวันไต่สวนมูลฟ้อง นอกจากนี้ จ.ส.อ.ปัญญา ได้ยืนยันว่าวันก่อนเกิดเหตุลอบยิงนายสนธิ ได้เป็นกรรมการงานทอดผ้าป่า ที่มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธาน ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้ามอบตัว เพราะกลัวปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัย และเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ ทั้งนี้ ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องจะนำพยานเข้าเบิกความ 3-4 ปาก มี จ.ส.อ.ปัญญา กับนายทหารที่อยู่ในวันที่ทำบุญ มีภาพถ่าย แผ่นวีซีดี เป็นหลักฐาน มาประกอบการพิจารณาด้วย ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2673/2552 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ข่าวที่ผู้ต้องหายังหลบหนีหมายจับ คดียิง “สนธิ” ใช้สิทธิเล่นนอกกติกาฟ้องร้องคู่กรณีก่อน ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่จู่ๆ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับกลับมีสิทธิมอบอำนาจให้ทนายฟ้องร้องเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ในคดีดังกล่าว ซึ่งแทนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี จะมอบอำนาจทนายความฟ้องร้องในทุกกระทงความที่ตนเองถูกกล่าวหาก็ตาม จากการเฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ในข่าวดังกล่าวพบว่า ประชาชนร้อยทั้งร้อย ได้แสดงความคิดเห็นไว้ท้ายข่าวนี้ว่า......
“มันมอบอำนาจให้ทนายได้ไง...แล้วทะลึ่งบอกไม่รู้อยู่ไหน จับทนายนั่นแหละเข้าคุกซะ..”
“ผู้ต้องสงสัยกับนักโทษ มาฟ้องตำรวจ กับผู้เสียหาย มีที่นี่ที่เดียวประเทศไทย ไม่มีใครทำตามกฎหมาย ไม่กลัวโทษทัณฑ์ คนรวย มีอำนาจ ไม่เคยจับได้ ขังได้ คุกมีไว้ขังคนจนจริงๆ”
“มาแนวเดียวกับไอ้เหลี่ยมเลย ตัวไม่มา แต่ส่งทนายมาฟ้อง แล้วทนายมันเอาลายเซ็นมาจากไหนวะ ไหนนายมันบอกว่าไม่รู้อยู่ที่ไหน”
“ตอนแรกไม่เชื่อข่าวที่ว่า ผบ.ทบ. อตร. รมว.กลาโหม อยู่เบื้องหลังฆ่าสนธิ แต่ตอนนี้เชื่อว่าจริง ผู้ต้องหาหลบหนีคดีพยายามฆ่าคนตาย ฟ้องตำรวจคดีหมิ่น มีที่ประเทศไทยที่เดียว แบบนี้ต้องมีผู้มีอำนาจให้การสนับสนุน ถึงเวลาเสนอกฎหมายใหม่ได้แล้ว”
“ผู้หลบหนีคดี ผู้หนีคุก หนีหมายจับ ไม่มีสิทธิฟ้องผู้อื่น ไม่งั้นคนดีๆ ที่อยู่เป็นหลักแหล่งโดนกลั่นแกล้งได้ง่าย แม้ผู้ฟ้องจะฟ้องเท็จ แจ้งความเท็จ ก็ไม่อาจเอาตัวมาลงโทษได้ แต่คนดีๆ เดือดร้อนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แบบนี้มันไม่ยุติธรรม ขณะนี้รัฐบาลยังมีเสียงข้างมากอยู่ รีบแก้กฎหมายนี้เสีย”
“บ้านเมืองมันจะวิบัติกันไปถึงใหน ผู้ต้องหาออกมาแจ้งความได้ ขั้นตอนของศาลจะพิสูจน์ได้ว่าคุณถูกหรือผิด จากนั้นการฟ้องกลับสามารถทำได้ แต่นี่แปลกมาฟ้องกลับก่อน บ้านเมืองเรามันเพี้ยนไปอย่างนี้เชียวหรือ”
“สภาทนายความกรุณาถอนใบอนุญาตด้วยครับทนายที่รับว่าความโดยไม่รู้ว่าลูกความอยู่ตรงไหน อย่าปล่อยให้ลอยนวล ไร้จรรยาบรรณครับ”
“จ่าปัญญา...ไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่า...“กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม”...และยิ่งคำว่า...“กลัวไม่ได้รับความปลอดภัย”...แกเป็นมือปืนรับจ้างฆ่า...งานของแกมันก็ไม่มีความปลอดภัยให้เหยื่ออยู่แล้ว...แล้วแกคิดว่าแกสมควรได้รับความปลอดภัยหรือ...ไอ้โหด”
“มอบอำนาจต้องมีบัตร มีลายเซ็นด้วยสิ แล้วไปเอามาจากไหน?”
“เลียบแบบน ช.ทักษิณ หนีไปด้วยฟ้องไปด้วย เจอมันที่ไหน “จับตายดีกว่า”
“เลียนแบบพ่อแม้วมันเลยละ”
“ไม่มอบตัวสู้คดี แต่ส่งทนายมาฟ้องเจ้าพนักงาน ตกลงมันใหญ่กว่าตำรวจใช่ไหม ไอ้ทนายที่รับงานมาจบที่ไหนเนี่ย”
00...มาแนวเดียวกัน!! “อัศวิน” เชื่อ “วรวุฒิ” เตลิดหนีกลัวถูกเก็บ-ข้อมูลทีมสังหารตรง “สนธิ!” โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง" ตัดพ้อถูกคณะกรรมการชุดที่ “เทพเทือก” ตั้งเรียกไปให้ปากคำ ใครเป็น “ตอ” ขวางคดียิง “สนธิ” โดยยืนยันไม่มีตอ ไม่มีใครข่มขู่หรือดึงเกม เผยแม้พล.ต.อ.ธานี ก็ถูกเรียกสอบด้วยในประเด็นเดียวกัน ขณะเดียวกัน “หมู่วรวุฒิ” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ร่อนจดหมายถึง รอง ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรม ระบุไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี “เดอะวิน” เชื่อเจ้าตัวหนีหัวซุกหัวซุน ด้วยเกรง “ถูกเก็บ” แต่รับรองความปลอดภัย หากมอบตัว ไม่ตายแน่ ย้ำข้อมูล “สนธิ” มีทหาร 13 ตำรวจ 1 ร่วมสังหารตรงกัน!
รายละเอียดเนื้อข่าวดังกล่าว พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ได้เร่งติดตามจับตัว 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดียิง “สินธิ” คือ “จ่าปัญญา-หมู่วรวุฒิ” มาดำเนินคดีโดยเร็ว ขณะเดียวกัน “พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” ได้รับจดหมายจาก ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้บังคับหมู่สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หนึ่งในผู้ต้องหา โดยจดหมายลงวันที่ 22 ก.ค. ต้นทางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นจดหมายขอความเป็นธรรม เนื้อหาแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ไม่ได้ทำความผิด แต่ไม่ได้พูดว่าจะมามอบตัวหรือไม่ นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัศวิน บอกด้วยว่า ในเนื้องความของจดหมาย ส.ต.ท.วรวุฒิ ยังติดต่อผ่านคนกลางมาถึงตนด้วย ซึ่งอยากให้เข้ามาคุยกับเลย มาติดต่อโดยตรง ผ่านคนอื่นนั้นยังไม่รู้เรื่อง พร้อมยืนยันถ้าติดต่อมาถึงตนไม่ตายแน่นอน แต่เชื่อว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ กลัวถูกเก็บ หนีอย่างระมัดระวังตัวพอสมควร
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในคดีสำคัญ คดีเข็ญฆ่าผู้อื่นอย่างเจตนา จะกล้าหาญท้าทายอำนาจรัฐ ถึงเพียงนี้ ในเรื่องนี้หากฝ่ายที่ควบคุมกฎหมายไม่ออกมาแสดงความชัดเจนในบรรทัดฐานแล้ว จะส่งผลเสียหายตามมาอีกมากมาย สำหรับคอมเม้นต์ที่คัดเลือกมาย้ำถึงความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้ต้องหา และไม่เชื่อมั่นเหล่าบรรดาผู้นำประเทศที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงได้แสดงผ่านเอเอสทีวีผู้จัดการว่า...
“วรวุฒิ” ถ้าไม่ผิดแล้วหนีหมายจับทำไม
“10 ปีผ่านไป จาก ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ได้รับความดีความชอบเป็น พ.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ”
“ฆาตกรจงรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนเสียโดยเร็ว ก่อนที่จะถูกเจ้านายชั่วชาติมันตามตัวเจอแล้วฆ่าตัดตอนไปเสียก่อน อย่างน้อยก็ออกมาเปิดโปงความจริงให้คนทั้งชาติทราบ ยังจะมีความดีติดตัวอยู่บ้างและประชาชนบางส่วนก็จะให้อภัยได้เพื่อเอาคนสั่งการตัวการจริงๆ เข้าคุก”
“ละครเรื่องนี้ก็ต้องเล่นกันต่อไป และต่อไป และต่อไป ยืดไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ”
“ผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วหนีทำไม งง”
“สุเทพ หนอสุเทพ ทำตัวเป็นตอ สีดำๆ เขียวๆ”
“ใช่ไอ้หมอนี่เก็บข้อมูลไว้เยอะมาก และเป็นกุญแจสำคัญในการโยงถึงตัวบงการ ไม่รู้ว่ามันอยู่ในเขมรถูกหลอกไปเก็บยังบอกว่าจะพาหนีหรือพาไปยิงทิ้งก็ไม่รู้”
“เบื่อพวกนักการเมือง ไม่เคยพึ่งได้ ไม่เคยยืนอยู่บนความถูกต้อง ไม่เคยเสียสละเพื่อประเทศ ไม่เคยทำความดี ผิดหวังและหมดศรัทธากับท่านนายก ตั้งแต่เขารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ท่านไม่มีภาวะผู้นำที่กล้าตัดสินใจบนความถูกต้องอีกต่อไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ล่มสลายหมดไว้วางใจจากคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ต่อไปนี้ จะไม่เลือกพรรคการเมืองที่มีอยู่ในเมืองไทย จะเลือกแค่พรรคเดี่ยวคือพรรคการเมืองใหม่”
“ตอตัวจริง คือ ตอตัวดำ เพราะออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวน หาทางเล่นงานพนักงานสอบสวน ให้ถอดใจ ไม่กล้าทำงานต่อ เป็นวิธีสกปรก ขัดขวางการทำงานทางอ้อม โดยไม่มีความผิด ใช้กฎหมาย ระเบียบราชการ ในทางมิชอบ ชัดเลย ตอดำ ตอใหญ่”
00...กับเพียงแค่ความคิดเห็นที่ยกขึ้นมาให้ทราบกันพอเป็นน้ำจิ้มเท่านั้น ประชาชนที่เฝ้าติดตามคดียิง “สนธิ” และติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังรอความหวังที่จะได้เห็นฝีมือ พิสูจน์ให้เห็นได้โดยเร็วในการไล่จับ “จ่าปัญญา-หมู่วรวุฒิ” มาดำเนินคดี ที่สำคัญควรนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาต่อสู้ในชั้นพยานหลักฐาน ในกระบวนการยุติธรรม หากกลัวตาย ก็ควรรีบมอบตัว มิใช่หัวหมอส่งทนายชิมลางฟ้อง หรือส่งจดหมายน้องร้องขอความเป็นธรรม เพียงเพื่อต่อลมหายใจให้ตัวเองวันต่อวัน!!
นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความ ผู้ที่อ้างตัวว่าได้รับมอบอำนาจจาก “จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา” กล่าวว่า จ่าปัญญาได้ติดต่อตนผ่านญาติขอให้มาช่วยเป็นทนายความ โดยตนได้พบกับโจทก์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น และยืนยันว่าจะขอมอบตัวพนักงานสอบสวนแน่นอนก่อนวันไต่สวนมูลฟ้อง นอกจากนี้ จ.ส.อ.ปัญญา ได้ยืนยันว่าวันก่อนเกิดเหตุลอบยิงนายสนธิ ได้เป็นกรรมการงานทอดผ้าป่า ที่มี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธาน ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้ามอบตัว เพราะกลัวปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัย และเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ ทั้งนี้ ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องจะนำพยานเข้าเบิกความ 3-4 ปาก มี จ.ส.อ.ปัญญา กับนายทหารที่อยู่ในวันที่ทำบุญ มีภาพถ่าย แผ่นวีซีดี เป็นหลักฐาน มาประกอบการพิจารณาด้วย ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2673/2552 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ข่าวที่ผู้ต้องหายังหลบหนีหมายจับ คดียิง “สนธิ” ใช้สิทธิเล่นนอกกติกาฟ้องร้องคู่กรณีก่อน ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่จู่ๆ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับกลับมีสิทธิมอบอำนาจให้ทนายฟ้องร้องเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ในคดีดังกล่าว ซึ่งแทนที่ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า “นช.ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ พิพากษาจำคุก 2 ปี จะมอบอำนาจทนายความฟ้องร้องในทุกกระทงความที่ตนเองถูกกล่าวหาก็ตาม จากการเฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ในข่าวดังกล่าวพบว่า ประชาชนร้อยทั้งร้อย ได้แสดงความคิดเห็นไว้ท้ายข่าวนี้ว่า......
“มันมอบอำนาจให้ทนายได้ไง...แล้วทะลึ่งบอกไม่รู้อยู่ไหน จับทนายนั่นแหละเข้าคุกซะ..”
“ผู้ต้องสงสัยกับนักโทษ มาฟ้องตำรวจ กับผู้เสียหาย มีที่นี่ที่เดียวประเทศไทย ไม่มีใครทำตามกฎหมาย ไม่กลัวโทษทัณฑ์ คนรวย มีอำนาจ ไม่เคยจับได้ ขังได้ คุกมีไว้ขังคนจนจริงๆ”
“มาแนวเดียวกับไอ้เหลี่ยมเลย ตัวไม่มา แต่ส่งทนายมาฟ้อง แล้วทนายมันเอาลายเซ็นมาจากไหนวะ ไหนนายมันบอกว่าไม่รู้อยู่ที่ไหน”
“ตอนแรกไม่เชื่อข่าวที่ว่า ผบ.ทบ. อตร. รมว.กลาโหม อยู่เบื้องหลังฆ่าสนธิ แต่ตอนนี้เชื่อว่าจริง ผู้ต้องหาหลบหนีคดีพยายามฆ่าคนตาย ฟ้องตำรวจคดีหมิ่น มีที่ประเทศไทยที่เดียว แบบนี้ต้องมีผู้มีอำนาจให้การสนับสนุน ถึงเวลาเสนอกฎหมายใหม่ได้แล้ว”
“ผู้หลบหนีคดี ผู้หนีคุก หนีหมายจับ ไม่มีสิทธิฟ้องผู้อื่น ไม่งั้นคนดีๆ ที่อยู่เป็นหลักแหล่งโดนกลั่นแกล้งได้ง่าย แม้ผู้ฟ้องจะฟ้องเท็จ แจ้งความเท็จ ก็ไม่อาจเอาตัวมาลงโทษได้ แต่คนดีๆ เดือดร้อนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แบบนี้มันไม่ยุติธรรม ขณะนี้รัฐบาลยังมีเสียงข้างมากอยู่ รีบแก้กฎหมายนี้เสีย”
“บ้านเมืองมันจะวิบัติกันไปถึงใหน ผู้ต้องหาออกมาแจ้งความได้ ขั้นตอนของศาลจะพิสูจน์ได้ว่าคุณถูกหรือผิด จากนั้นการฟ้องกลับสามารถทำได้ แต่นี่แปลกมาฟ้องกลับก่อน บ้านเมืองเรามันเพี้ยนไปอย่างนี้เชียวหรือ”
“สภาทนายความกรุณาถอนใบอนุญาตด้วยครับทนายที่รับว่าความโดยไม่รู้ว่าลูกความอยู่ตรงไหน อย่าปล่อยให้ลอยนวล ไร้จรรยาบรรณครับ”
“จ่าปัญญา...ไม่มีสิทธิ์ใช้คำว่า...“กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม”...และยิ่งคำว่า...“กลัวไม่ได้รับความปลอดภัย”...แกเป็นมือปืนรับจ้างฆ่า...งานของแกมันก็ไม่มีความปลอดภัยให้เหยื่ออยู่แล้ว...แล้วแกคิดว่าแกสมควรได้รับความปลอดภัยหรือ...ไอ้โหด”
“มอบอำนาจต้องมีบัตร มีลายเซ็นด้วยสิ แล้วไปเอามาจากไหน?”
“เลียบแบบน ช.ทักษิณ หนีไปด้วยฟ้องไปด้วย เจอมันที่ไหน “จับตายดีกว่า”
“เลียนแบบพ่อแม้วมันเลยละ”
“ไม่มอบตัวสู้คดี แต่ส่งทนายมาฟ้องเจ้าพนักงาน ตกลงมันใหญ่กว่าตำรวจใช่ไหม ไอ้ทนายที่รับงานมาจบที่ไหนเนี่ย”
00...มาแนวเดียวกัน!! “อัศวิน” เชื่อ “วรวุฒิ” เตลิดหนีกลัวถูกเก็บ-ข้อมูลทีมสังหารตรง “สนธิ!” โดยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง" ตัดพ้อถูกคณะกรรมการชุดที่ “เทพเทือก” ตั้งเรียกไปให้ปากคำ ใครเป็น “ตอ” ขวางคดียิง “สนธิ” โดยยืนยันไม่มีตอ ไม่มีใครข่มขู่หรือดึงเกม เผยแม้พล.ต.อ.ธานี ก็ถูกเรียกสอบด้วยในประเด็นเดียวกัน ขณะเดียวกัน “หมู่วรวุฒิ” หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ร่อนจดหมายถึง รอง ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรม ระบุไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี “เดอะวิน” เชื่อเจ้าตัวหนีหัวซุกหัวซุน ด้วยเกรง “ถูกเก็บ” แต่รับรองความปลอดภัย หากมอบตัว ไม่ตายแน่ ย้ำข้อมูล “สนธิ” มีทหาร 13 ตำรวจ 1 ร่วมสังหารตรงกัน!
รายละเอียดเนื้อข่าวดังกล่าว พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ได้เร่งติดตามจับตัว 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดียิง “สินธิ” คือ “จ่าปัญญา-หมู่วรวุฒิ” มาดำเนินคดีโดยเร็ว ขณะเดียวกัน “พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” ได้รับจดหมายจาก ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้บังคับหมู่สังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หนึ่งในผู้ต้องหา โดยจดหมายลงวันที่ 22 ก.ค. ต้นทางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นจดหมายขอความเป็นธรรม เนื้อหาแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ไม่ได้ทำความผิด แต่ไม่ได้พูดว่าจะมามอบตัวหรือไม่ นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัศวิน บอกด้วยว่า ในเนื้องความของจดหมาย ส.ต.ท.วรวุฒิ ยังติดต่อผ่านคนกลางมาถึงตนด้วย ซึ่งอยากให้เข้ามาคุยกับเลย มาติดต่อโดยตรง ผ่านคนอื่นนั้นยังไม่รู้เรื่อง พร้อมยืนยันถ้าติดต่อมาถึงตนไม่ตายแน่นอน แต่เชื่อว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ กลัวถูกเก็บ หนีอย่างระมัดระวังตัวพอสมควร
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในคดีสำคัญ คดีเข็ญฆ่าผู้อื่นอย่างเจตนา จะกล้าหาญท้าทายอำนาจรัฐ ถึงเพียงนี้ ในเรื่องนี้หากฝ่ายที่ควบคุมกฎหมายไม่ออกมาแสดงความชัดเจนในบรรทัดฐานแล้ว จะส่งผลเสียหายตามมาอีกมากมาย สำหรับคอมเม้นต์ที่คัดเลือกมาย้ำถึงความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของผู้ต้องหา และไม่เชื่อมั่นเหล่าบรรดาผู้นำประเทศที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงได้แสดงผ่านเอเอสทีวีผู้จัดการว่า...
“วรวุฒิ” ถ้าไม่ผิดแล้วหนีหมายจับทำไม
“10 ปีผ่านไป จาก ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ได้รับความดีความชอบเป็น พ.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ”
“ฆาตกรจงรีบเข้าพบพนักงานสอบสวนเสียโดยเร็ว ก่อนที่จะถูกเจ้านายชั่วชาติมันตามตัวเจอแล้วฆ่าตัดตอนไปเสียก่อน อย่างน้อยก็ออกมาเปิดโปงความจริงให้คนทั้งชาติทราบ ยังจะมีความดีติดตัวอยู่บ้างและประชาชนบางส่วนก็จะให้อภัยได้เพื่อเอาคนสั่งการตัวการจริงๆ เข้าคุก”
“ละครเรื่องนี้ก็ต้องเล่นกันต่อไป และต่อไป และต่อไป ยืดไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ”
“ผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้ทำ แล้วหนีทำไม งง”
“สุเทพ หนอสุเทพ ทำตัวเป็นตอ สีดำๆ เขียวๆ”
“ใช่ไอ้หมอนี่เก็บข้อมูลไว้เยอะมาก และเป็นกุญแจสำคัญในการโยงถึงตัวบงการ ไม่รู้ว่ามันอยู่ในเขมรถูกหลอกไปเก็บยังบอกว่าจะพาหนีหรือพาไปยิงทิ้งก็ไม่รู้”
“เบื่อพวกนักการเมือง ไม่เคยพึ่งได้ ไม่เคยยืนอยู่บนความถูกต้อง ไม่เคยเสียสละเพื่อประเทศ ไม่เคยทำความดี ผิดหวังและหมดศรัทธากับท่านนายก ตั้งแต่เขารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ท่านไม่มีภาวะผู้นำที่กล้าตัดสินใจบนความถูกต้องอีกต่อไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ล่มสลายหมดไว้วางใจจากคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ต่อไปนี้ จะไม่เลือกพรรคการเมืองที่มีอยู่ในเมืองไทย จะเลือกแค่พรรคเดี่ยวคือพรรคการเมืองใหม่”
“ตอตัวจริง คือ ตอตัวดำ เพราะออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวน หาทางเล่นงานพนักงานสอบสวน ให้ถอดใจ ไม่กล้าทำงานต่อ เป็นวิธีสกปรก ขัดขวางการทำงานทางอ้อม โดยไม่มีความผิด ใช้กฎหมาย ระเบียบราชการ ในทางมิชอบ ชัดเลย ตอดำ ตอใหญ่”
00...กับเพียงแค่ความคิดเห็นที่ยกขึ้นมาให้ทราบกันพอเป็นน้ำจิ้มเท่านั้น ประชาชนที่เฝ้าติดตามคดียิง “สนธิ” และติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังรอความหวังที่จะได้เห็นฝีมือ พิสูจน์ให้เห็นได้โดยเร็วในการไล่จับ “จ่าปัญญา-หมู่วรวุฒิ” มาดำเนินคดี ที่สำคัญควรนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาต่อสู้ในชั้นพยานหลักฐาน ในกระบวนการยุติธรรม หากกลัวตาย ก็ควรรีบมอบตัว มิใช่หัวหมอส่งทนายชิมลางฟ้อง หรือส่งจดหมายน้องร้องขอความเป็นธรรม เพียงเพื่อต่อลมหายใจให้ตัวเองวันต่อวัน!!
