คดี 6 ตำรวจ สภ.อุทัย พระนครศรีอยุธยา ช็อตไข่ผู้ต้องหาส่อเค้าพลิก อัยการเลื่อนนัดสั่งฟ้องเหตุต้องสอบเพิ่มเติมหลังผู้เสียหายเปลี่ยนใจส่งหนังสืออ้างชี้ตัวเจ้าหน้าที่ผิด “รุจ เขื่อนสุวรรณ” อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ระบุแม้ผู้เสียหายแจ้งชี้ตัวผิด ต้องรอตรวจสอบหนังสือจริงหรือปลอม ยันไม่ส่งผลกระทบสั่งคดี
วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 นัดสั่งคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจช็อตอวัยวะเพศผู้ต้องหาใน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเดือน พ.ย.47 ที่ พ.ต.ต.มาโนช บุญส่ง, ด.ต.ปัญญา เอนอ่อน ,ด.ต.วิชัย เขินอำนวย, ส.ต.ท.พิทักษ์ แจ่มจรัส, ส.ต.อ.วสันต์ มิ่งขวัญ และ ส.ต.อ.สมคิด จดสมบูรณ์ ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายเอกวัด จนเป็นเหตุให้ ได้รับอันตรายสาหัส และเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
โดย นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 กล่าวว่า การนัดฟังคำสั่งต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งบางคนระบุว่าไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุ ไม่ได้ร่วมทำร้ายร่างกายนายเอกวัด ศรีมันตะ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยของสมาคมอยุธยารวมใจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์และผู้เสียหายคดีนี้ โดยการร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม ขณะที่นายเอกวัด ผู้เสียหาย ได้ส่งหนังสือแจ้งอัยการ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาระบุว่า ในการชี้ตัวคดีที่ถูกทำร้ายร่างกายนายเอกวัด เข้าใจผิดจึงได้ชี้ตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคลาดเคลื่อนไป ดังนั้นในการพิจารณาสำนวนคดีนี้ อัยการจึงจำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน โดยต้องตรวจสอบหนังสือที่นายเอกวัดส่งมาว่านายเอกวัดได้เขียนขึ้นและลงลายมือชื่อเองหรือไม่ เพราะหากการชี้ตัวของนายเอกวัด เป็นการเข้าใจผิด อัยการต้องนำมาพิจารณาว่า ข้อเท็จจริงแล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำร้ายร่างกายหรือไม่ ใครบ้าง
ส่วนหนังสือที่นายเอกวัดส่งให้อัยการนั้นจะมีผลต่อการพิจารณาสั่งคดีทำร้ายร่างกายนายเอกวัดอีกสำนวนที่มี พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผินแสง, ด.ต.วินัย คำแพง, ด.ต.ประนอม มีช่อ, นายสมโชค สุขสมวัฒน์, นายสามารถ ผอบจันทร์ และนายปราโมทย์ สุมังคละกุล ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าตำรวจและตำรวจชุมชน สภ.พระนครศรีอยุธยา ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-6 ที่ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทำร้ายร่างกาย นายเอกวัดหรือไม่
“พฤติการณ์แห่งคดีที่มี พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผินแสง กับพวกตกเป็นผู้ต้องหานั้น ตามสำนวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนละช่วงเวลา โดยผู้ต้องหาชุดนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมนายเอกวัด เนื่องจากสงสัยว่ากระทำผิดคดีชิงทรัพย์ ซึ่งมีการกล่าวหาว่าได้ทำร้ายร่างกายนายเอกวัดด้วย แต่ไม่ใช่วิธีการใช้ไฟฟ้าช็อตอวัยวะเพศ โดยการใช้ไฟฟ้าช็อตนั้นเกิดขึ้นหลังนายเอกวัด ถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตามรายละเอียดในหนังสือของนายเอกวัด ที่ส่งให้อัยการ ไม่ได้ระบุถึงการชี้ตัวผู้ต้องหาคดีนี้ไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น การพิจารณาสำนวนคดีของอัยการจึงต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในแต่ละสำนวน เป็นรายคดีไป โดยหนังสือที่นายเอกวัดส่งมาอัยการจะนำมาฟังได้หรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงชัดเจนก่อนเพื่อการสั่งคดีที่เป็นธรรม” นายรุจ กล่าวว่า