ดีเอสไอ ส่งสำนวน 6 ตำรวจ สภ.อุทัย พระนครศรีอยุธยา ทำร้ายร่างกาย อาสาสมัครกู้ภัย ทรมานด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อต ลูกอัณฑะ-นิ้วเท้าจนไหม้เกรียม บังคับรับสารภาพคดีวิ่งราวทรัพย์ อัยการนัดสั่งคดี 26 พ.ค.นี้
วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวน 3 แฟ้ม รวม 837 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง พ.ต.ต.มาโนช บุญส่ง, ด.ต.ปัญญา เอนอ่อน, ด.ต.วิชัย เขินอำนวย, ส.ต.ท.พิทักษ์ แจ่มจรัส, ส.ต.อ.วสันต์ มิ่งขวัญ และ ส.ต.อ.สมคิด จดสมบูรณ์ ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ ได้รับอันตรายสาหัส และเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ไปส่งให้ นายเสกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง โดย อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย.2547 โดยกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของ นายเอกวัด ศรีมันตะ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยของสมาคมอยุธยารวมใจ ซึ่งจอดอยู่ที่จุดนัดพบของหน่วยกู้ภัย บริเวณด้านข้างป้อมตำรวจวัดพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นได้ออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับ เมื่อ นายเอกวัด ไปชำระค่าปรับ ผู้ต้องหากลับอ้างว่าตรวจพบสร้อยคอทองคำอยู่ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ แล้วบังคับให้ นายเอกวัด ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ จากนั้นได้นำตัว นายเอกวัด ไปที่ สภ.อุทัย เพื่อทรมานให้รับสารภาพโดยร่วมกันทำร้ายร่างกายเอกวัดด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อตที่บริเวณลูกอัณฑะ และนิ้วเท้าจนไหม้เกรียม คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ทำการสอบสวน และมีความเห็นว่า ไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ ก่อนจะมีการโอนคดีมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษในเวลาต่อมา
วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวน 3 แฟ้ม รวม 837 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง พ.ต.ต.มาโนช บุญส่ง, ด.ต.ปัญญา เอนอ่อน, ด.ต.วิชัย เขินอำนวย, ส.ต.ท.พิทักษ์ แจ่มจรัส, ส.ต.อ.วสันต์ มิ่งขวัญ และ ส.ต.อ.สมคิด จดสมบูรณ์ ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ ได้รับอันตรายสาหัส และเป็นการกระทำโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ไปส่งให้ นายเสกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง โดย อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ นัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย.2547 โดยกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของ นายเอกวัด ศรีมันตะ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยของสมาคมอยุธยารวมใจ ซึ่งจอดอยู่ที่จุดนัดพบของหน่วยกู้ภัย บริเวณด้านข้างป้อมตำรวจวัดพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นได้ออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับ เมื่อ นายเอกวัด ไปชำระค่าปรับ ผู้ต้องหากลับอ้างว่าตรวจพบสร้อยคอทองคำอยู่ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ แล้วบังคับให้ นายเอกวัด ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ จากนั้นได้นำตัว นายเอกวัด ไปที่ สภ.อุทัย เพื่อทรมานให้รับสารภาพโดยร่วมกันทำร้ายร่างกายเอกวัดด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อตที่บริเวณลูกอัณฑะ และนิ้วเท้าจนไหม้เกรียม คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ทำการสอบสวน และมีความเห็นว่า ไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ ก่อนจะมีการโอนคดีมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษในเวลาต่อมา
