xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ลงพื้นที่สอบพยานล่าโจรหน้ากากกันหวัดปล้นร้าน จยย.!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจเร่งแกะรอยสืบเบาะแสตามจับ 3 คนร้ายสวมหน้ากากอนามัยกันหวัด 2009 ปล้นร้าน จยย. ส่งชุดสืบตรวจสอบจุดเกิดเหตุซ้ำ สอบพยานแวดล้อมรวบรวมหลักฐานอื่นสรุปคดีอีกครั้ง ด้านผู้เสียหายสงสัยปมธุรกิจ-คนส่งของ เพราะรู้ความเคลื่อนไหวในร้านดี

วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา10.00 น. พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนร้าย จำนวน 3 คน สวมหน้ากากอนามัย พร้อมอาวุธปืนบุกเข้าไปปล้นทรัพย์สินภายในร้านขายรถจักรยานยนต์ชื่อ “สาธุเจริญยนต์” ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 53 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.เป็นเหตุให้ นายสมชาย ฉันทวัฒนกิจ อายุ 57 ปี ที่ปรึกษา กต.ตร.สน.บางโพงพาง ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน นายนรินทร์ ฉันทวัฒนกิจ อายุ 24 ปี ลูกชาย และ นางเซียมจือ แซ่ฉั่ว อายุ 64 ปี พี่สาวถูกจับมัดและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยคนร้ายสามารถรื้อค้นเงินสดกว่า 5 แสนบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันกับช่วงที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ เนื่องจากน่าจะมีพยานเห็นคนร้ายอยู่บ้าง รวมทั้งให้สอบพยานแวดล้อมต่างๆ ด้วย เพื่อนัดประชุมสรุปความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้นไว้หมดแล้ว ซึ่งนายสมชายไม่ได้เห็นหน้าคนร้ายเต็มหน้า เห็นแค่ดวงตาลักษณะคุ้นเท่านั้น ส่วนลูกชายก็ไม่เห็นหน้าเพราะถูกทำร้ายสลบไปก่อน ด้านพี่สาวก็มีอาการทางประสาท จึงทำให้ยากในการที่จะออกภาพสเกตช์หน้าคนร้าย แต่ผู้เสียหายได้ตั้งประเด็นสงสัยที่ถูกก่อเหตุไว้ว่า น่าจะมาจากเรื่องธุรกิจ และเรื่องคนส่งของเพราะรู้สึกว่าคุ้นตา และรู้ความเคลื่อนไหวคนในบ้านตอนช่วงเช้าเป็นอย่างดี

ขณะที่ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สืบสวน บก.น.5 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางผู้บังคับบัญชาได้แบ่งงานให้ทาง สน.บางโพงพาง รับผิดชอบการหาพยานแวดล้อมและการสอบสวน ส่วน กก.สืบสวน บก.น.5 รับผิดชอบด้านการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง และติดตามทรัพย์สินที่ถูกปล้นไป

ทั้งนี้ ยังได้เรียกตัวคนงานในร้านมาสอบปากคำด้วย แต่ยังไม่พบพิรุธ สำหรับผู้เสียหายซึ่งได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัยแล้ว แต่คงต้องรอให้ทุเลาดีก่อน ทางพนักงานสอบสวนจึงจะเรียกตัวไปสอบปากคำและทำการสเกตช์ภาพคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุต่อไป

พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวอีกว่า ยังมีพยานสำคัญที่รอผลการสอบสวนอยู่คือพระสงฆ์ และลูกศิษย์ติดตาม ที่ไปยืนเรียกเจ้าของร้านบริเวณหน้าบ้านให้ออกมาใส่บาตร เพราะเห็นว่าประตูเปิดอยู่ แต่คนในบ้านยังไม่ออกมาตักบาตร ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ โดยพยานทั้ง 2 คนนี้ ส่งเสียงเรียกจนทำให้คนร้ายตกใจ รีบวิ่งลงจากบ้านเพื่อหลบหนีจนทิ้งหลักฐานสำคัญๆ เอาไว้ เช่นกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด และหัวกระสุนปืนที่ใช้ยิงขู่ อีก 1 หัว ทำให้คาดการณ์ได้ว่า คนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ โดยหลักฐานต่างๆ เหล่านี้ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งมอบให้กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ถือว่าผู้เสียหายทั้งหมดยังโชคดีที่มีคนมาเรียกหน้าบ้านไม่เช่นนั้นคนร้ายอาจเปลี่ยนแผนด้วยการฆ่าหมู่แบบยกครอบครัวเพื่ออำพรางคดีเลยก็เป็นได้” พ.ต.อ.สมบัติ กล่าว

นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานได้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายเคยมีเรื่องวิวาทกับคนใกล้ตัวกลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็พอจะได้เบาะแสแล้ว ซึ่งตนยืนยันว่าคดีนี้ไม่ยากเกินความสามารถตำรวจอย่างแน่นอน โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ตนจะนำกำลังไปลงพื้นที่เพื่อหาพยานและหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้เบาะแสเกี่ยวกับตัวคนร้ายมากขึ้นจนนำไปสู่การจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

3 โจรปล้นร้านขาย จยย.กวาดทรัพย์กว่า 5 แสน
จนท.ตรวจร้านในจุดที่เกิดเหตุ
ภาพในวันเกิดเหตุ จนท.ตรวจเก็บหลักฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น