ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยังไม่รู้ว่าจะงัดกฎหมายข้อไหนมาเล่นงานเหล่าบรรดาแกนนำผู้ก่อการดีอีก หลังจากที่ทั้งหมดเดินทางไปสโมสรตำรวจในวัน เวลา ที่ตำรวจนัดให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อการร้าย แต่เมื่อไปถึง กลับไม่ยอมเข้ารับข้อกล่าวหา และยังทำเรื่องโต้แย้งข้อกล่าวหาของตำรวจอีก จึงจำต้องกลับไปประชุมปรึกษาหารือกันอีกทั้งคณะ!
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายระดับ ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับข้อโต้แย้งจากทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว และจะส่งให้ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ปรึกษาหารือกันในเบื้องต้น ในส่วนของข้อกฎหมาย และในเรื่องของความเป็นไปได้ และข้อเท็จจริงต่างๆ ว่า จะทำอย่างไร เมื่อได้ข้อยุติแล้ว ก็จะมาประชุมร่วมกันในส่วนของคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด พร้อมกับปรึกษาไปยังฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ส่วนจะมีความเป็นไปได้กี่แนวทางนั้น ยังไม่ได้ประชุม และยังระบุไม่ได้ว่าทั้งหมดกี่แนวทาง
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวถึงการที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด เดินทางมาแล้ว แต่ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น จะถือว่าเป็นกรณีแรกหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ และจะถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงานอีกหรือไม่นั้น ต้องพิจารณากันอีกครั้ง ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะยังไม่ได้พิจารณา โดยการตัดสินใจดังกล่าว ขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดที่จะประชุมร่วมกัน ทั้งนี้ การทำงานของคณะพนักงานสอบสวน ที่ถูกตั้งขึ้นมานั้น มีหน้าที่ต้องรายงานเรื่องคดีให้ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้ว ส่วนจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการกี่วันนั้น ขอความกรุณาอย่าจำกัดเวลา เพราะตนมีภาระกิจส่วนอื่นด้วย แต่ขอรับรองว่า จะไม่ให้เกิดความล่าช้า
เมื่อถามถึงความหนักใจในกรณีที่พันธมิตรฯได้ฟ้องนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายนั้น พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า คงไม่หนักใจ ส่วนจะเสียหน้าหรือไม่นั้น ในความรู้สึกของตน ไม่รู้สึกเสียหน้า เพราะตำรวจเป็นข้าราชการที่ต้องรับใช้ประชาชน ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม
“ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเมื่อมีหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามา ยังไม่ได้กล่าวหาว่า บุคคลนั้นเป็นผู้กระทำความผิด ต้องมีการสอบสวน สุดท้ายต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องก็ได้” พล.ต.ท.วุฒิ กล่าว
ผู้ช่วย ผบ.ตร.ผู้นี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อนผู้ถูกกล่าวหารายอื่นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนหน้านี้ ว่า นายกษิต จะเป็นผู้ชี้แจงเหตุผลต่อไป หากมีการพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ต้องพิจารณาให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่รับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะมีการออกหมายเรียกซ้ำอีกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของคณะพนักงานสอบสวนที่จะต้องพิจารณา และเสนอในการประชุมอีกครั้ง แต่ในบ่ายวันนี้คงไม่ทัน เพราะทางฝ่ายพันธมิตรฯมีข้อโต้แย้งมาให้คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้ง” พล.ต.ท.วุฒิ กล่าว
พล.ต.ท.วุฒิ ยังได้ตอบข้อซักถามถึงผลกระทำของการขึ้นไปบนเวทีพันธมิตรฯที่บริเวณหน้าสโมสรตำรวจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยว่า เรื่องการทำงานได้บอกกับคณะพนักงานสอบสวนเรียนไปแล้วว่า เหตุในปัจจุบันกับในอดีตจะเป็นผลในอนาคตข้างหน้า ส่วนตนคิดว่า ถ้าทำสิ่งนี้แล้วเป็นผลกระทบ ก็พร้อมที่จะรับผลกระทบ ที่ขึ้นไปพูดก็เพื่อผลประโยชน์ของความยุติธรรม เพื่อประโยชน์ของความเข้าใจของคนในชาติ ซึ่งต้องขออภัยทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ทั้งพันธมิตรฯ ประชาชนชคนอื่น และตำรวจ เพราะว่าที่พูดไป จะมีคนถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ผลกระทบเกิดจากตัวตนแน่ แต่เมื่อตัดสินใจพูดไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลกระทบนั้น
เมื่อถูกซักว่า เมื่อเห็นด้วยกับพันธมิตรฯว่าเป็นผู้ก่อการดี แต่ทำไมในสำนวน จึงตั้งข้อหาก่อการร้าย พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า สำนวนการสอบสวน เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งจะต้องฟังความเห็นของส่วนใหญ่ แต่จะมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งตนไม่ได้แสดงความเห็นในชั้นลงมติเลย ส่วนที่มองว่า เป็นผู้ก่อการดีนั้น เป็นเพราะตนมองว่า เจตนาเริ่มต้นของผู้ชุมนุมทุกกลุ่มนั้น เกิดจากมีคนต้องการเรียกร้อง มีคนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นเจตนาดีที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไทำได้ ซึ่งได้ย้ำกับคณะพนักงานสอบสวนไปว่า อย่าได้คิดว่า เป็นศัตรู หรือมองว่า เป็นคู่กรณี แต่ให้คิดว่าเป็นผู้เดือดร้อน ซึ่งหลังจากนี้ จะขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวนที่จะต้องเดินไปทางใดทางหนึ่ง ตนคงไปแก้ไขให้พิสดารไปไม่ได้ กรณีนี้ขอให้เผื่อเวลาไว้ให้มากๆ
ตร.เริ่มเสียงอ่อย รับ “ก่อการร้าย” ข้อหาใหม่ - ทัพพันธมิตรฯ พร้อม!
“วุฒิ” ชี้พันธมิตรฯ แสดงตัวตามหมายเรียก แต่ไม่รับข้อกล่าวหาได้!
ผบ.ตร.ชี้ พธม.ฟ้องกลับได้ตามสิทธิ เชื่อแจ้งข้อหาตามจริง
ทนายพันธมิตรฯ เล็งฟ้อง ตร.ยัดข้อหา “ก่อการร้าย” แรงเกินจริง!
ตั้งข้อหา พธม.ก่อการร้ายบุกสนามบิน “กษิต-ปฐมพงษ์” โดนด้วย
วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายระดับ ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับข้อโต้แย้งจากทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว และจะส่งให้ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ปรึกษาหารือกันในเบื้องต้น ในส่วนของข้อกฎหมาย และในเรื่องของความเป็นไปได้ และข้อเท็จจริงต่างๆ ว่า จะทำอย่างไร เมื่อได้ข้อยุติแล้ว ก็จะมาประชุมร่วมกันในส่วนของคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด พร้อมกับปรึกษาไปยังฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย ส่วนจะมีความเป็นไปได้กี่แนวทางนั้น ยังไม่ได้ประชุม และยังระบุไม่ได้ว่าทั้งหมดกี่แนวทาง
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวถึงการที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด เดินทางมาแล้ว แต่ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น จะถือว่าเป็นกรณีแรกหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ และจะถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงานอีกหรือไม่นั้น ต้องพิจารณากันอีกครั้ง ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะยังไม่ได้พิจารณา โดยการตัดสินใจดังกล่าว ขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดที่จะประชุมร่วมกัน ทั้งนี้ การทำงานของคณะพนักงานสอบสวน ที่ถูกตั้งขึ้นมานั้น มีหน้าที่ต้องรายงานเรื่องคดีให้ผู้บังคับบัญชาทราบอยู่แล้ว ส่วนจะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการกี่วันนั้น ขอความกรุณาอย่าจำกัดเวลา เพราะตนมีภาระกิจส่วนอื่นด้วย แต่ขอรับรองว่า จะไม่ให้เกิดความล่าช้า
เมื่อถามถึงความหนักใจในกรณีที่พันธมิตรฯได้ฟ้องนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายนั้น พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า คงไม่หนักใจ ส่วนจะเสียหน้าหรือไม่นั้น ในความรู้สึกของตน ไม่รู้สึกเสียหน้า เพราะตำรวจเป็นข้าราชการที่ต้องรับใช้ประชาชน ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความยุติธรรม
“ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเมื่อมีหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามา ยังไม่ได้กล่าวหาว่า บุคคลนั้นเป็นผู้กระทำความผิด ต้องมีการสอบสวน สุดท้ายต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องก็ได้” พล.ต.ท.วุฒิ กล่าว
ผู้ช่วย ผบ.ตร.ผู้นี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อนผู้ถูกกล่าวหารายอื่นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนหน้านี้ ว่า นายกษิต จะเป็นผู้ชี้แจงเหตุผลต่อไป หากมีการพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ต้องพิจารณาให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่รับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะมีการออกหมายเรียกซ้ำอีกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของคณะพนักงานสอบสวนที่จะต้องพิจารณา และเสนอในการประชุมอีกครั้ง แต่ในบ่ายวันนี้คงไม่ทัน เพราะทางฝ่ายพันธมิตรฯมีข้อโต้แย้งมาให้คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้ง” พล.ต.ท.วุฒิ กล่าว
พล.ต.ท.วุฒิ ยังได้ตอบข้อซักถามถึงผลกระทำของการขึ้นไปบนเวทีพันธมิตรฯที่บริเวณหน้าสโมสรตำรวจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยว่า เรื่องการทำงานได้บอกกับคณะพนักงานสอบสวนเรียนไปแล้วว่า เหตุในปัจจุบันกับในอดีตจะเป็นผลในอนาคตข้างหน้า ส่วนตนคิดว่า ถ้าทำสิ่งนี้แล้วเป็นผลกระทบ ก็พร้อมที่จะรับผลกระทบ ที่ขึ้นไปพูดก็เพื่อผลประโยชน์ของความยุติธรรม เพื่อประโยชน์ของความเข้าใจของคนในชาติ ซึ่งต้องขออภัยทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ทั้งพันธมิตรฯ ประชาชนชคนอื่น และตำรวจ เพราะว่าที่พูดไป จะมีคนถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ผลกระทบเกิดจากตัวตนแน่ แต่เมื่อตัดสินใจพูดไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลกระทบนั้น
เมื่อถูกซักว่า เมื่อเห็นด้วยกับพันธมิตรฯว่าเป็นผู้ก่อการดี แต่ทำไมในสำนวน จึงตั้งข้อหาก่อการร้าย พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า สำนวนการสอบสวน เป็นการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งจะต้องฟังความเห็นของส่วนใหญ่ แต่จะมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งตนไม่ได้แสดงความเห็นในชั้นลงมติเลย ส่วนที่มองว่า เป็นผู้ก่อการดีนั้น เป็นเพราะตนมองว่า เจตนาเริ่มต้นของผู้ชุมนุมทุกกลุ่มนั้น เกิดจากมีคนต้องการเรียกร้อง มีคนไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นเจตนาดีที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไทำได้ ซึ่งได้ย้ำกับคณะพนักงานสอบสวนไปว่า อย่าได้คิดว่า เป็นศัตรู หรือมองว่า เป็นคู่กรณี แต่ให้คิดว่าเป็นผู้เดือดร้อน ซึ่งหลังจากนี้ จะขึ้นอยู่กับคณะพนักงานสอบสวนที่จะต้องเดินไปทางใดทางหนึ่ง ตนคงไปแก้ไขให้พิสดารไปไม่ได้ กรณีนี้ขอให้เผื่อเวลาไว้ให้มากๆ
ตร.เริ่มเสียงอ่อย รับ “ก่อการร้าย” ข้อหาใหม่ - ทัพพันธมิตรฯ พร้อม!
“วุฒิ” ชี้พันธมิตรฯ แสดงตัวตามหมายเรียก แต่ไม่รับข้อกล่าวหาได้!
ผบ.ตร.ชี้ พธม.ฟ้องกลับได้ตามสิทธิ เชื่อแจ้งข้อหาตามจริง
ทนายพันธมิตรฯ เล็งฟ้อง ตร.ยัดข้อหา “ก่อการร้าย” แรงเกินจริง!
ตั้งข้อหา พธม.ก่อการร้ายบุกสนามบิน “กษิต-ปฐมพงษ์” โดนด้วย
