บก.น.1 จับอดีตตำรวจจราจร ถูกให้ออกจากราชการ ก่อเหตุลักทรัพย์ทุกรูปแบบ หัวหมอแต่งชุดออกกำลังกายตระเวนตามสวนสาธารณะ ลานจอดรถ หารถเป้าหมาย เจอแล้วใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ ขโมยทรัพย์สิน หรือใช้วิธีทุบกระจกรถ เมื่อได้ทรัพย์สินที่เป็นโน๊ตบุ๊ค และมือถือจะไปขายที่ตะวันนาหาเงินเสพยาบ้า
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงผลเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 นำโดย พ.ต.ท.ประยูร ศาลาทอง รอง ผกก.สส.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จับกุม นายประยูร หรือ ยูร บุตรป่า อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 68/369 ซ.พหลโยธิน 1 ถนนพหลโยธิน แเขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.และเคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ จ.ส.ต.สังกัดจราจร สน.ดินแดง พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง อาวุธปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก และทรัพย์สินอื่นๆ กว่า 50 รายการ อาทิ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พระเครื่อง สร้อยคอทองคำ โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซ.ประชาสงเคราะห์ 22 แขวงและเขตดินแดง กทม.และแจ้งข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ในพื้นที่ บก.น.1 และ บก.น.2 เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถโจรกรรมทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวให้ได้ผลอย่างจริงจังโดยเร็ว กระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ จึงติดตามจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนที่จะขยายผลได้ของกลางจำนวนมาก
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายประยูร ผู้ต้องหา เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดจราจร สน.ดินแดง แต่ถูกให้ออกจากราชการหลังก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ลานจอดรถที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จับกุม คดีอยู่ระหว่างการประกันตัว แต่เมื่อออกจากราชการไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และยังคงตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2551 ถูกจับในลักษณะเดียวกัน หลังก่อเหตุลักทรัพย์ที่ลานจอดรถบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร คดีอยู่ระหว่างการประกันตัวเช่นเดียวกัน โดยการจับกุมล่าสุดได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.สุทธิสาร
“นอกจากนี้ ยังได้ทุบรถ พ.ต.ต.สมบัติ มีมงคล สว.แผนก3 กก.5 บก.ป. เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2552 ที่จอดรถไว้ที่บริเวณข้างสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยได้ปืนและทรัพย์สินไปหลายรายการ นอกจากนี้ ยังได้ก่อเหตุทุบรถ นายคม แสงแก้ว เจ้าหน้าที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2552 ที่บริเวณลานจอดรถห้างไอทีสแควร์ ย่านหลักสี่ ได้ของกลางเป็นปืนและทรัพย์สินอีกหลายรายการ ซึ่งจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามนำของกลางทั้งหมดกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ส่วนอาวุธปืนทราบว่ามีอีกหลายกระบอก จะติดตามกลับคืนมาให้ได้เช่นกัน เนื่องจากเกรงว่าปืนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ก่อเหตุอาชญกรรมอื่นๆ อีก”
นายประยูร ผู้ต้องหารับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำเนื่องจากมีปัญหาทางการเงิน โดยได้ก่อเหตุลักทรัพย์มากว่า 20 ครั้ง ตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยครั้งที่มาทุบรถในลานจอดรถ บช.น.เนื่องจากมาติดต่อราชการ และได้จอดรถที่ลานจอดรถ เมื่อจะเดินทางกลับจึงได้ก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งที่อยู่ในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งถูกจับได้และได้ออกจากราชการ
“เมื่อถูกออกจากราชการ ได้ใช้วิธีแต่งชุดออกกำลังกาย ตระเวนไปตามสวนสาธารณะ ลานจอดรถ และริมทางสาธารณะ เพื่อหารถเป้าหมาย เมื่อสบโอกาสจะใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ เพื่อขโมยทรัพย์สินที่อยู่ในรถ หรือใช้วิธีทุบกระจกรถ เมื่อได้ทรัพย์สินที่เป็นโน้ตบุ๊ก และมือถือจะไปขายที่ตะวันนา เพื่อนำเงินไปเสพยาบ้า”
วันนี้ (14 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงผลเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 นำโดย พ.ต.ท.ประยูร ศาลาทอง รอง ผกก.สส.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จับกุม นายประยูร หรือ ยูร บุตรป่า อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 68/369 ซ.พหลโยธิน 1 ถนนพหลโยธิน แเขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.และเคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ จ.ส.ต.สังกัดจราจร สน.ดินแดง พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง อาวุธปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 2 กระบอก และทรัพย์สินอื่นๆ กว่า 50 รายการ อาทิ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พระเครื่อง สร้อยคอทองคำ โดยสามารถจับกุมได้ที่ ซ.ประชาสงเคราะห์ 22 แขวงและเขตดินแดง กทม.และแจ้งข้อหาลักทรัพย์ หรือรับของโจร
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ในพื้นที่ บก.น.1 และ บก.น.2 เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถโจรกรรมทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวให้ได้ผลอย่างจริงจังโดยเร็ว กระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ จึงติดตามจับกุมได้ดังกล่าว ก่อนที่จะขยายผลได้ของกลางจำนวนมาก
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายประยูร ผู้ต้องหา เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดจราจร สน.ดินแดง แต่ถูกให้ออกจากราชการหลังก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ลานจอดรถที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จับกุม คดีอยู่ระหว่างการประกันตัว แต่เมื่อออกจากราชการไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และยังคงตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2551 ถูกจับในลักษณะเดียวกัน หลังก่อเหตุลักทรัพย์ที่ลานจอดรถบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร คดีอยู่ระหว่างการประกันตัวเช่นเดียวกัน โดยการจับกุมล่าสุดได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.สุทธิสาร
“นอกจากนี้ ยังได้ทุบรถ พ.ต.ต.สมบัติ มีมงคล สว.แผนก3 กก.5 บก.ป. เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2552 ที่จอดรถไว้ที่บริเวณข้างสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยได้ปืนและทรัพย์สินไปหลายรายการ นอกจากนี้ ยังได้ก่อเหตุทุบรถ นายคม แสงแก้ว เจ้าหน้าที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2552 ที่บริเวณลานจอดรถห้างไอทีสแควร์ ย่านหลักสี่ ได้ของกลางเป็นปืนและทรัพย์สินอีกหลายรายการ ซึ่งจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามนำของกลางทั้งหมดกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ส่วนอาวุธปืนทราบว่ามีอีกหลายกระบอก จะติดตามกลับคืนมาให้ได้เช่นกัน เนื่องจากเกรงว่าปืนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ก่อเหตุอาชญกรรมอื่นๆ อีก”
นายประยูร ผู้ต้องหารับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำเนื่องจากมีปัญหาทางการเงิน โดยได้ก่อเหตุลักทรัพย์มากว่า 20 ครั้ง ตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยครั้งที่มาทุบรถในลานจอดรถ บช.น.เนื่องจากมาติดต่อราชการ และได้จอดรถที่ลานจอดรถ เมื่อจะเดินทางกลับจึงได้ก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งที่อยู่ในเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งถูกจับได้และได้ออกจากราชการ
“เมื่อถูกออกจากราชการ ได้ใช้วิธีแต่งชุดออกกำลังกาย ตระเวนไปตามสวนสาธารณะ ลานจอดรถ และริมทางสาธารณะ เพื่อหารถเป้าหมาย เมื่อสบโอกาสจะใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ เพื่อขโมยทรัพย์สินที่อยู่ในรถ หรือใช้วิธีทุบกระจกรถ เมื่อได้ทรัพย์สินที่เป็นโน้ตบุ๊ก และมือถือจะไปขายที่ตะวันนา เพื่อนำเงินไปเสพยาบ้า”
