สืบฯ ลาดพร้าวตามรวบผู้กำกับหนัง “เปิงมาง” หลอกแม่บุญธรรม “น้องเพชร” ทายาทพุ่มพวง เปิดบริษัทตัดต่อภาพยนตร์สูญ 3 แสน แถมยังส่งSMS ขู่หากแจ้งความจะเดือดร้อน ด้านเจ้าตัวยังปากแข็งปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ จันทรพัชร สว.สส.สน.ลาดพร้าว นำกำลังจับกุม นายณัฐพีระ หรือเชนทร์ ชมศรี อายุ 31 ปี ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์” อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.ประสาท 4 ถ.เทศประสาท อ.บ้านบึง ต.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 366/2552 ลงวันที่ 20 ก.พ.52 ข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่อาคารบัดดี้แมนชั่น ซ.รามคำแหง 81/4 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2552 นางสุพรรณี สุประการ อายุ 49 ปี แม่บุญธรรมของนายสรภพ นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือเพชร ทายาทพุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ให้ดำเนินคดีต่อนายณัฐพีระ หลังก่อเหตุฉ้อโกง โดยทำทีชวนลงทุนเปิดบริษัทตัดต่อภาพยนตร์อยู่ย่านหัวหมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2551 นางสุพรรณีได้โอนเงินให้ผู้ต้องหาเพื่อซื้ออุปกรณ์จำนวน 3 แสนบาท หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ปิดบริษัทหนี
ต่อมาเมื่อวัน 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นางสุพรรณีพร้อมด้วยน้องเพชร เข้าพบ ร.ต.ท.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ถูกผู้ไม่หวังดีส่ง sms ข่มขู่ทางโทรศัพท์มือถือว่า “ดวงแม่สูไม่ดี ให้สะสางด่วน จากผู้ข่มขู่” โดยส่งมาจากโทรศัพท์มือถือหมายเลข 08-7508-0035 เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของน้องเพชร 2 ครั้ง ในเวลา 10.22 น.และเวลา 11.14 น.หลังจากนั้น ก็มีข้อความเขียนว่า “แม่สูเกิดวันพฤหัสที่ 25 พ.ศ.2502 ใช่ไหม อย่าล้อเล่นเป็นหม้ายใช่ไหม” ถูกส่งมาจากโทรศัพท์หมายเลขเดิมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ โทร.กลับไปที่หมายเลขดังกล่าว กลับไม่มีคนรับสาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการกระทำของนายณัฐพีระ สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
จากนั้น นางสุพรรณี พร้อมด้วยนายสรภพ และ น.ส.ธิดารัตน์ อรรถรัตน์ หรืออ้อย ลูกสาวนางสุพรรณีและแฟนสาวน้องเพชร เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหาที่ สน.ลาดพร้าว และมีการด่าทอกันเล็กน้อย โดยเพชรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่ารู้จักกับผู้ต้องหาตอนกำกับหนังเรื่องเปิงมางเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไรมากมาย
ด้าน น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวว่า รู้จักกับผู้ต้องหาเมื่อครั้งเปิดสตูดิโอถ่ายภาพ ทางผู้ต้องหาพร้อมกลุ่มเพื่อนมาทำความรู้จักจนสนิทสนมกันเรื่อยมา ผู้ต้องหาและกลุ่มเพื่อนก็ช่วยหางานมาให้ที่สตูดิโอ จนสตูดิโอปิดกิจการไปเมื่อปี 2548 ก็ห่างหายการติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหา จนกระทั่งเพชรเข้าวงการบันเทิง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ต้องหากำกับการแสดงเรื่องเปิงมางพอดี จึงมาสนิทสนมกันอีกครั้ง ผู้ต้องหามาทำความสนิทสนมกับแม่และเล่าแผนงานที่จะทำในวงการบันเทิงให้แม่ฟังในลักษณะอ้อนวอนให้ช่วยเหลือและเพื่อจะได้เกื้อหนุนเพชรด้วย ซึ่งก็มาชักชวนให้ทำบริษัทตัดต่อ แม่ได้โอนเงินสดไปให้ 2.5 แสน รวมค่าเช่าตึกและอุปกรณ์ประมาณ 3 แสนกว่า จากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้า อุปกรณ์ตัดต่อก็ไม่ได้สั่งซื้อ เมื่อถามไปทางบริษัทที่ขายอุปกรณ์ตัดต่อก็บอกว่าผู้ต้องหามาดูเท่านั้นไม่ได้สั่งซื้อแต่อย่างใด เมื่อติดต่อไปยังผู้ต้องหาก็บ่ายเบี่ยงตลอด จนแน่ใจว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ขณะที่เพชรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่ารู้จักกับผู้ต้องหาตอนกำกับหนังเรื่องเปิงมางเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไรมากมาย
ด้าน พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้สามารถยอมความได้หากผู้ต้องหาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย
สำหรับ นายณัฐพีระ ผู้ต้องหา จบจากมหาวิทยาลัยศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา เอกภาพยนตร์, จบการเขียนบทภาพยนตร์จากบริษัท นาคาเซีย จำกัด, จบการกำกับภาพยนตร์จาก กันตนาเอ็นดูเทนเมนท์ อินเตอร์เนชั่นเนล จากนั้นปี 2540 ทำงานเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ รายการทไวไลท์โชว์ ปี 2546 เขียนสคริปต์ให้บริษัท ไอริม ปี 2547 ครีเอทีฟโฆษณา บริษัท แอ๊ดมีเดีย จำกัด (ฟรีแลนซ์), เขียนสคริปต์โปรดักต์ บริษัท เดโม่พาว์เวอร์ จำกัด (ฟรีแลนซ์), เอเจนซีโฆษณา บริษัท สตาร์เซ็นเตอร์ จำกัด (ฟรีแลนซ์), กำกับโฆษณาเมเจอร์โบว์ล ปี 2548 กำกับโฆษณาของ ปตท., กำกับโฆษณาเซเว่น ของสิงคโปร์ และเขียนบทและกำกับฯ “เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์”