ปส.ขยายผลจับ 5 สมุนเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ “อุสมาน สะแลแมง” ที่เพิ่งค้นพบเงินสดเกือบ 10 ล้านในรถของกลาง พร้อมยาบ้าเกือบแสนเม็ด เงินสดกว่า 4 ล้าน ทรัพย์สินอื่นอีกมูลค่า 30 ล้าน เผยจับเครือข่ายนายอุสมานได้แล้ว 13 ราย ยังเหลืออีก 5 ส่วนนายอุสมานตัวการใหญ่หลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เร่งประสานช่วยติดตามจับกุมแล้ว
วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปติพัลลภ ผบช.ปส. พล.ต.อติเทพ ปัญญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายฮาซัน บินยูนุ อายุ 31 ปี นายมาสรี มะเย็ง อายุ 39 ปี นายมายากี มะเย็ง อายุ 34 ปี นายอายุ ยูโซ๊ะ อายุ 30 ปี และนายสรอรรถ อ่อนเจริญ อายุ 52 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5 มัด รวม 102,000 เม็ด เงินสดจำนวน 4,700,000 บาท และทรัพย์สินอื่นอีกมูลค่าประมาณ 20 บ้านบาท
พล.ต.ต.อติเทพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 48 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.หนองคาย สามารถจับกุมชาวลาว 3 คน และชาวไทยอีก 1 คน ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 270,000 เม็ด ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าทั้งหมดเป็นสมาชิกในเครือข่ายของนายอุสมาน สะแลแมง ที่เจ้าหน้าที่เพิ่งพบเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ในยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ศส-9187 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ออกหมายจับนายอุสมานไว้ในข้อหาร่วมสมคบและร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และสมคบและร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
เมื่อนายอุสมานรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับก็ได้หลบหนีออกไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทำธุรกิจหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นปลูกสวนยาง รีสอร์ต พร้อมกับสร้างเครือข่ายค้ายาเสพติดอยู่ในประเทศดังกล่าวเพื่อส่งยาบ้าเข้ามาขายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของไทย ซึ่งจะมีนายฮาซันที่ประกอบกิจการร้านค้าเสื้อผ้าและร้านอาหารอยู่ใน จ.อุดรธานี บังหน้า เป็นตัวกลางในการติดต่อกับลูกค้าให้
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ร่วมมือกับหลายหน่วยงานประกอบด้วย ป.ป.ส., ตชด. 24, ศปก.ทบ., หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (นรส.) และ DEA ทำการสืบสวนจนทราบว่านายฮาซันจะจัดยาบ้ามาให้นายมารสรี นักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จึงเฝ้าติดตามจนพบว่านายมาสรีได้พานายมายากี และนายอายุ ลูกน้องอีก 2 คน นั่งรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ศต-7382 กทม. มาติดต่อซื้อยาบ้าจากนายฮาซัน ก่อนจะลำเลียงยาบ้าทั้งหมดใส่ในรถ และสั่งให้นายสรอรรถ อดีต ตชด.ที่ถูกไล่ออกไปจากข้อหาค้ามนุษย์ เป็นผู้ขับรถลำเลียงส่งมายังภาคใต้ ส่วนนายมาสรีกับลูกน้องอีกสองคนจะนั่งเครื่องบินกลับไปรอรับยาที่ภาคใต้
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนายสรอรรถได้ที่บริเวณด่านตรวจตำรวจทางหลวง ต.ห้วยเก้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ขณะกำลังขับรถคันดังกล่าวลำเลียงยาบ้าจำนวน 102,000 เม็ดไปส่งที่ภาคใต้ ก่อนกำลังอีกชุดจะเข้าจับกุมนายมาสรี และลูกน้องอีก 2 คน ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะกำลังจะนั่งเครื่องต่อไปรอรับยาที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านของนายฮาซันที่ จ.อุดรธานี ก็พบเงินสดค่ามัดจำยาบ้า จำนวน 4,700,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์ พร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินจากบ้านกลุ่มผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จ.นราธิวาส และจ.สงขลา รวม 6 จุด พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ 10 คัน จักรยานยนต์ 7 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 2 แปลง โฉนดที่ดิน 13 แปลง ทองรูปพรรณน้ำหนัก 65 บาท รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาทอีกด้วย
พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวด้วยว่า สำหรับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ยกฟ้องนายทรงศักดิ์ น้อยสร้าง และนายกิตติศักดิ์ ดอรอเอ็ง ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเจ้าของเงินจำนวน 30 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนในท่อพีวีซีที่เคยเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2548 จะเกี่ยวข้องกับเครื่อข่ายของนายอุสมาน หรือไม่นั้น จากข้อมูลการข่าวของ บช.ปส. และ ป.ป.ส.นั้น พบว่า ทั้งสองเครือข่ายมีตัวละครที่เกี่ยวข้องอยู่หลายร้อยตัว และมีบางตัวที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป โดยเครือข่ายของนายอุสมานนั้น มีอยู่ด้วยกัน 21 คน ก่อนหน้านี้จับกุมไปได้แล้ว 8 คน จับครั้งนี้อีก 5 คน ยังเหลืออีก 8 คนที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว และกำลังติดตามจับกุมอยู่
ด้าน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับนายอุสมาน ที่หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านนั้น ขณะนี้ทาง ป.ป.ส.และตำรวจกำลังดำเนินติดตามจับกุมตัวอยู่ นอกจากนี้ตนจะช่วยดำเนินการในระดับระหว่างประเทศเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัวอีกทางหนึ่ง