ตำรวจพญาไทตามรวบตัว “ไอ้หงอก” จยย.รับจ้างวัยดึก ลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ซ้อนท้าย จยย.ไปข่มขืนได้แล้ว เผยหลังจากเสร็จกิจทิ้งเหยื่อไว้คนเดียว จนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกฉุดขึ้นรถตู้ไปข่มขืนซ้ำแล้วล่ามโซ่ไว้ในบ้านย่าน จ.ปทุมธานี
วานนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.30 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.พญาไท ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสมศักดิ์ หรือหงอก มานะสัมภวงค์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 396/8 ซอยสามแยกเตาปูน-บางโพ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 193/2552 ลงวันที่ 30 มิ.ย.52 ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลไปเพื่อการอนาจาร โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณชุมชนหลังวัดมะกอก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากกรณีที่ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ถูกนายสถิต ผ่องโสภณ กับเพื่อนจับตัวขึ้นรถตู้ไปข่มขืนกระทำชำเราและล่ามโซ่ไว้ที่บ้านเลขที่ 1 ถนนรังสิตนครนายก 42 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.52 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยเหลือและจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ จากนั้นหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักสังคมสงเคราะห์ และพนักงานอัยการได้ทำการสอบปากคำ ด.ญ.เอ และมารดาจนทราบว่า ก่อนหน้าที่ ด.ญ.เอ จะถูกจับตัวไปข่มขืนที่ย่าน จ.ปทุมธานี ได้ถูกนายสมศักดิ์ ซึ่งขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ปากซอยพหลโยธิน 1 หลอกลวงพาไปข่มขืนมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวนายสมศักดิ์ได้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ ด.ญ.เอ ให้การว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.52 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะเดินเล่นอยู่บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วนหลังวัดมะกอก นายสมศักดิ์ได้ชักชวนให้นั่งซ้อนท้ายบอกว่าจะพาไปขี่รถเล่น แต่กลับพาเข้าไปในโรงเจหลังวัดมะกอกแล้วข่มขืนภายในห้องที่อยู่ด้านหลังโรงเจ จากนั้นก็ทิ้งให้อยู่คนเดียวในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งถูกจับตัวไปข่มขืนที่บ้านพักย่าน จ.ปทุมธานี ซ้ำอีก
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ให้การว่าตนรู้จักกับ ด.ญ.เอ มาตั้งแต่เด็กๆ และไม่เคยลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ โดยในวันเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์ไปบริเวณดังกล่าว และเห็น ด.ญ.เอ เดินอยู่ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ก่อนจะจอดรถเข้าไปสอบถาม ด.ญ.เอ ก็บอกว่าแม่เอากุญแจบ้านไป ทำให้เข้าบ้านไม่ได้และหิวข้าวจะให้ตนพาไปกินข้าวและไปส่งที่บ้าน ซึ่งตนไม่ได้พาไปข่มขืนแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มักจะหลอกพา ด.ญ.เอไปข่มขืนมาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตามจะต้องสอบปากคำ ด.ญ.เอ อีกครั้ง และนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยัน เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ หลังจากแจ้งข้อหาแล้วได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
