ตรัง - รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง แถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาบ้า และคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ไม่เรียนหนังสือ แพทย์ระบุเด็กหญิงผู้เสียหาย ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในระยะเริ่มต้น
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ ห้อง ศปก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วดล คงพิพัฒน์กูล สารวัตรสอบสวน พ.ต.ท.หญิง อมรรัตน์ สุทธิเกิด สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง และ พ.ต.ต.อรรถพล วิภาศินนท์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองตรัง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาบ้า และคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง
ผู้ต้องในคดียาบ้า คือ นายพิทยา เทพสุวรรณ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/19 ถนนวัดนิโครธ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นน้องเมียของ นายสุชาติ ยกซื้อ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดียาบ้า จำนวน 11,360 เม็ด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยา คือ นางสาวสุทธิสา เทพสุวรรณ อายุ 21 ปี พี่สาว นายพิทยา ผู้ต้องหา
จากนั้น นายสุชาติ พี่เขยของ นายพิทยา ผู้ต้องหารายนี้ ได้ให้การเพิ่มเติมว่าที่บ้านพักของ นายพิทยา ยังคงมียาบ้าซุกซ่อนไว้อีกจำนวนหนึ่ง จึงขอหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง และสามารถจับกุมนายพิทยา ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 170 เม็ด ตามที่ นายสุชาติ ให้การไว้จริง จึงควบคุมตัว นายพิทยา มาดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ในลักษณะโทรมหญิง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายพีรพัฒน์ หวานสนิท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ที่ 4 ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง นายนุ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และ เด็กชายพล (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาวตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ คืออดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา อายุ 14 ปี ที่ได้คบหากับ นายพีรพัฒน์ มาเป็นเวลากว่า 1 ปี แล้วเลิกลากันไป
จากนั้น เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้มาพบกับกลุ่มเพื่อนของ นายพีรพัฒน์ แฟนเก่า โดยที่กลุ่มเพื่อนของนายพีรพัฒน์ ได้อาสาพาผู้เสียหายไปส่งที่บ้านพัก แต่ได้ร่วมกับเพื่ออีกจำนวน 10 คน ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนอดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ ที่บริเวณริมคอลงนางน้อย หลังโรงเรียนเพาะปัญญา ในพื้นที่ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง ก่อนที่จะปล่อยตัวให้อดีตแฟนของนายพีรพัฒน์กลับบ้านพักไป
ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 กลุ่มเพื่อนของผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ ได้ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ร่วมกันข่มขืนอดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ อีกครั้ง จนกระทั่ง ตากับยาย ของผู้เสียหายสังเกตเห็นความผิดปกติของหลานสาว จึงได้สืบสาวราวเรื่องทั้งหมด จนรู้ความจริงและได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้และกำลังขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลืออีก 10 คน ในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าได้ร่วมกันกระทำการต่อผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เสียหายมีความยินยอมโดยไม่มีการขัดขืน ก่อนที่มาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
นอกจากนี้ ทราบว่า ในเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า เด็กหญิงผู้เสียหายรายนี้ ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในระยะเริ่มต้น ซึ่งทางแพทย์สามารถช่วยเหลือ ด้วยการให้ทานยาต้านเชื้อไวรัส โดยจะสามารถช่วยรักษาให้หายได้ด้วยยาในการรักษาต่อไป
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ ห้อง ศปก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วดล คงพิพัฒน์กูล สารวัตรสอบสวน พ.ต.ท.หญิง อมรรัตน์ สุทธิเกิด สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองตรัง และ พ.ต.ต.อรรถพล วิภาศินนท์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองตรัง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดียาบ้า และคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง
ผู้ต้องในคดียาบ้า คือ นายพิทยา เทพสุวรรณ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/19 ถนนวัดนิโครธ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นน้องเมียของ นายสุชาติ ยกซื้อ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคดียาบ้า จำนวน 11,360 เม็ด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยา คือ นางสาวสุทธิสา เทพสุวรรณ อายุ 21 ปี พี่สาว นายพิทยา ผู้ต้องหา
จากนั้น นายสุชาติ พี่เขยของ นายพิทยา ผู้ต้องหารายนี้ ได้ให้การเพิ่มเติมว่าที่บ้านพักของ นายพิทยา ยังคงมียาบ้าซุกซ่อนไว้อีกจำนวนหนึ่ง จึงขอหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง และสามารถจับกุมนายพิทยา ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 170 เม็ด ตามที่ นายสุชาติ ให้การไว้จริง จึงควบคุมตัว นายพิทยา มาดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ในลักษณะโทรมหญิง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายพีรพัฒน์ หวานสนิท อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ที่ 4 ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง นายนุ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และ เด็กชายพล (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาวตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ คืออดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา อายุ 14 ปี ที่ได้คบหากับ นายพีรพัฒน์ มาเป็นเวลากว่า 1 ปี แล้วเลิกลากันไป
จากนั้น เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้มาพบกับกลุ่มเพื่อนของ นายพีรพัฒน์ แฟนเก่า โดยที่กลุ่มเพื่อนของนายพีรพัฒน์ ได้อาสาพาผู้เสียหายไปส่งที่บ้านพัก แต่ได้ร่วมกับเพื่ออีกจำนวน 10 คน ร่วมกันก่อเหตุข่มขืนอดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ ที่บริเวณริมคอลงนางน้อย หลังโรงเรียนเพาะปัญญา ในพื้นที่ตำบลนาโยงใต้ อำเภอเมืองตรัง ก่อนที่จะปล่อยตัวให้อดีตแฟนของนายพีรพัฒน์กลับบ้านพักไป
ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 กลุ่มเพื่อนของผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ ได้ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ร่วมกันข่มขืนอดีตแฟนสาวของ นายพีรพัฒน์ อีกครั้ง จนกระทั่ง ตากับยาย ของผู้เสียหายสังเกตเห็นความผิดปกติของหลานสาว จึงได้สืบสาวราวเรื่องทั้งหมด จนรู้ความจริงและได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้และกำลังขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลืออีก 10 คน ในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าได้ร่วมกันกระทำการต่อผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้เป็นการบังคับข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เสียหายมีความยินยอมโดยไม่มีการขัดขืน ก่อนที่มาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
นอกจากนี้ ทราบว่า ในเบื้องต้นแพทย์ระบุว่า เด็กหญิงผู้เสียหายรายนี้ ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในระยะเริ่มต้น ซึ่งทางแพทย์สามารถช่วยเหลือ ด้วยการให้ทานยาต้านเชื้อไวรัส โดยจะสามารถช่วยรักษาให้หายได้ด้วยยาในการรักษาต่อไป