ศาลอาญาตัดสินจำคุก 3 แม่เล้า 10 ปี หลอกสาวไทยไปทำงานที่แอฟริกาใต้ ถูกกักขังบังคับให้ค้าประเวณี จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้ 1 ใน 4 คงเหลือจำคุก 7 ปี 6 เดือน
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.20 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.3043/2551 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.จิราพร หรือนุ้ย บุตนัย อายุ 32 ปี, นางบังอร หรือเอ็ม ซิบโบลด์ อายุ 35 ปี และนางวันเพ็ญ หรือหมี โนว์เดีย หรือพรมทัต อายุ 32 ปี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี, พ.ร.บ.มาตราการในการป้องกัน และปราบปรามการค้าประเวณี
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างต้นเดือน ต.ค. - 25 พ.ย.49 ต่อเนื่องกันตลอดมา วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันเป็นธุระจัดหา โดยการหลอกลวง น.ส.หญิง และ น.ส.หน่อย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ชักชวนให้เดินทางไปทำงานบาร์เบียร์ที่ประเทศแอฟริกาใต้ อ้างว่ามีรายได้ดี แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการเป็นเงิน 30,000 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จำเลยทั้งสาม จึงพาผู้เสียหายไปยังประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนถูกบังคับให้ไปค้าประเวณี เฉลี่ยแล้ววันละ 4 ครั้ง นอกจากนี้ยังถูกกักขังไม่ให้ออกไปไหน เมื่อผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้ จึงไปขอความช่วยเหลือจากทางสถานทูตไทย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปดส. จับกุมจำเลยที่ 1 ได้ที่จังหวัดชลบุรี ส่วนจำเลยที่ 2-3 จับกุมได้ที่จังหวัดระยอง เหตุเกิดที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก, เมืองวิทแบงด์ และเมืองปิโตรเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พฤติกรรมของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษ ในความผิดฐาน เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร อันเป็นบทที่ลงโทษหนักที่สุด พิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยทั้ง 3 คนละ 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ในชั้นสอบสวน มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก จำเลยไว้เป็นเวลา 7 ปี 6 เดือน พร้อมกับให้จำเลย ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียจำนวน 300,000 บาท