ทีเอชเอก้นร้อน เตรียมส่งหนังสือถึง “ชุมพล” ร้องนายกรัฐมนตรี จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก และ เซ็กทัวร์ ชี้ถูกผู้บริหาร “ทุย นอร์ดิก” บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่จากยุโรป ขู่ไม่ส่งนักท่องเที่ยวให้ หากไทยยังเพิกเฉย
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จะหารือกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เพื่อจัดสัมมนาให้ความรู้แก่สมาชิกในเรื่องของการทำธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และต้องทำธุรกิจโดยไม่เกี่ยวข้องกับวงจรอุบาทว์ อันได้แก่ การใช้แรงงานเด็ก การค้าประเวณีเด็ก เซ็กทัวร์ แสดงโชว์ลามกอนาจาร(อะโกโก้) ตลอดจนปัญหาโรงแรมปล่อยน้ำเสียลงที่สาธารณะโดยไม่ผ่านการบำบัด เป็นต้น
นอกจากนั้นจะเตรียมทำหนังสือเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ช่วยประสานงานและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามปัญหาต่างๆดังกล่าวข้างต้นด้วย
ทั้งนี้เพราะคณะผู้บริหารของ บริษัท ทุย นอร์ดิก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวรายใหญ่ในยุโรป ได้เข้าพบเพื่อหารือ และขอให้ผู้ประกอบการไทย และ รัฐบาลไทยเร่งกวดขัน ปราบปรามปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นโดยเร็ว เนื่องจาก สื่อมวลชนในประเทศสวีเดน มีการตีพิมพ์บทความถึงประเทศไทยบ่อยครั้ง รวมถึงเผยแพร่ข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นปัญหาการใช้แรงงานเด็ก โดยเฉพาะในการก่อสร้างอาคารสูง โรงแรม เพียงเพราะค่าแรงถูก ข่าวเรื่องเซ็กทัวร์ และ นำเด็กมาค้าประเวณี นอกจากนั้นยังมีเรื่องของโรงแรมปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะโดยไม่ผ่านการบำบัด เป็นต้น
โดยในการเข้าพบครั้งนี้ ทุย นอร์ดิก ได้ยื่นคำขาดว่า ต่อจากนี้ไปบริษัทจะบรรจุปัญหาทั้งหมดดังกล่าวมาใส่ไว้ในสัญญาที่จะเซ็นร่วมกับคู่ค้าหรือโรงแรมที่ประเทศไทยด้วย หากโรงแรมใด หรือบริษัทนำเที่ยวใดไม่มีการปรับปรุงแก้ไข หรือไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เซ็นสัญญา และจะไม่ส่งนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย
“เขากล่าวว่า ไม่ใช่ว่าทุยนอร์ดิก ตื่นตัวกับปัญหานี้เพียงบริษัทเดียว แต่ต่อจากนี้ไป บริษัทนำเที่ยวจากยุโรป จะเป็นคู่ค้ากับประเทศที่ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วย เพราะเป็นปัญหาที่เกิดมานานแล้ว แต่กลับไม่มีการแก้ไขให้หมดไป แต่กลับมีเพิ่มมากขึ้น ”
อย่างไรก็ตาม ท้ายสุด ทุย นอร์ดิก ได้แจงให้ประเทศไทยหมดกังวลว่าไฮซีซั่นปีนี้ ยอดจองล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังคงมุ่งมาที่ประเทศไทยเป็นหลัก โดยมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะไม่ลดลงจากปีก่อนแน่นอน แต่ทั้งนี้ ประเทสไทยก็ต้องเร่งปรับปรุงในปัญหาดังกล่าวข้างต้นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศมายาวนานแล้วทั้งที่ไทยก็มีของดีที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบอยู่มากมาย
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย(ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จะหารือกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เพื่อจัดสัมมนาให้ความรู้แก่สมาชิกในเรื่องของการทำธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และต้องทำธุรกิจโดยไม่เกี่ยวข้องกับวงจรอุบาทว์ อันได้แก่ การใช้แรงงานเด็ก การค้าประเวณีเด็ก เซ็กทัวร์ แสดงโชว์ลามกอนาจาร(อะโกโก้) ตลอดจนปัญหาโรงแรมปล่อยน้ำเสียลงที่สาธารณะโดยไม่ผ่านการบำบัด เป็นต้น
นอกจากนั้นจะเตรียมทำหนังสือเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ช่วยประสานงานและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามปัญหาต่างๆดังกล่าวข้างต้นด้วย
ทั้งนี้เพราะคณะผู้บริหารของ บริษัท ทุย นอร์ดิก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวรายใหญ่ในยุโรป ได้เข้าพบเพื่อหารือ และขอให้ผู้ประกอบการไทย และ รัฐบาลไทยเร่งกวดขัน ปราบปรามปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นโดยเร็ว เนื่องจาก สื่อมวลชนในประเทศสวีเดน มีการตีพิมพ์บทความถึงประเทศไทยบ่อยครั้ง รวมถึงเผยแพร่ข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นปัญหาการใช้แรงงานเด็ก โดยเฉพาะในการก่อสร้างอาคารสูง โรงแรม เพียงเพราะค่าแรงถูก ข่าวเรื่องเซ็กทัวร์ และ นำเด็กมาค้าประเวณี นอกจากนั้นยังมีเรื่องของโรงแรมปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะโดยไม่ผ่านการบำบัด เป็นต้น
โดยในการเข้าพบครั้งนี้ ทุย นอร์ดิก ได้ยื่นคำขาดว่า ต่อจากนี้ไปบริษัทจะบรรจุปัญหาทั้งหมดดังกล่าวมาใส่ไว้ในสัญญาที่จะเซ็นร่วมกับคู่ค้าหรือโรงแรมที่ประเทศไทยด้วย หากโรงแรมใด หรือบริษัทนำเที่ยวใดไม่มีการปรับปรุงแก้ไข หรือไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เซ็นสัญญา และจะไม่ส่งนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย
“เขากล่าวว่า ไม่ใช่ว่าทุยนอร์ดิก ตื่นตัวกับปัญหานี้เพียงบริษัทเดียว แต่ต่อจากนี้ไป บริษัทนำเที่ยวจากยุโรป จะเป็นคู่ค้ากับประเทศที่ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วย เพราะเป็นปัญหาที่เกิดมานานแล้ว แต่กลับไม่มีการแก้ไขให้หมดไป แต่กลับมีเพิ่มมากขึ้น ”
อย่างไรก็ตาม ท้ายสุด ทุย นอร์ดิก ได้แจงให้ประเทศไทยหมดกังวลว่าไฮซีซั่นปีนี้ ยอดจองล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังคงมุ่งมาที่ประเทศไทยเป็นหลัก โดยมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปจะไม่ลดลงจากปีก่อนแน่นอน แต่ทั้งนี้ ประเทสไทยก็ต้องเร่งปรับปรุงในปัญหาดังกล่าวข้างต้นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศมายาวนานแล้วทั้งที่ไทยก็มีของดีที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบอยู่มากมาย