xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ตะครุบโจรลักเก๋งฮอนด้าเพิ่ม ยังลอยนวลอีก 2

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศปจร.บช.น.รวบแก๊งโจรกรรมรถเก๋งฮอนด้าซิตี้- แจ๊ซ จากสืบขยายผลใช้แผนล่อจับเพิ่ม ยอมรับเคยเป็นคนขับแท๊กซี่ หากินลำบากเลยมารับจ้างขับรถที่ขโมยไปส่งลูกค้าแลกค่าเสี่ยงภัย 5 พัน ทำมาแล้ว 10 คัน ส่วนเพื่อนร่วมทีมบอกเคยเปิดเต็นท์รถมือสองเจ๊งเลยมาเปิดขายเสื้อผ้าแล้วมาเจอกันและมาเป็นนายหน้ากินเปอร์เซนต์ไม่กี่พัน กำลังตามอีก 2 ราย

วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.หน.ศปจร.บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 รอง หน.ศปจร.บช.น. พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 ผู้ช่วย หน.ศปจร.บช.น.และ พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.หน.ชป.ศปจร.บช.น.ร่วมกันแถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมตัว นายกรกฎ หรือ “เบียร์” ยิ่งล้ำ อายุ 41 ปี ชาว จ.สระบุรี และ นางสมควร ศรีชู อายุ 43 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเลขที่ ชษ 3710 กทม.โดยจับกุมตัว นายกรกฎ ได้ที่หน้าปากซอยเทพารักษ์ 8 ท้องที่ จ.สมุทรปราการ ส่วน นางสมควร ถูกขยายผลตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ย่าน จ.ปทุมธานี

พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุมตัว นายระยอง ไชโย ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถได้พร้อมของกลางรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเลขที่ ษอ 2003 กทม.และเมื่อทำการสืบสวนขยายผลทราบว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกเป็นจำนวนมาก จึงวางแผนให้ผู้ต้องหาที่เหลือ นำรถเก๋งฮอนด้ารุ่นซิตี้ ของกลางไปส่งให้ที่ปากซอยเทพารักษ์ 8 เมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่า พบ นายกรกฎ เป็นผู้ขับรถไปส่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขออนุญาตตรวจค้น พบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา โดยมีทะเบียนจริง เลขที่ ชฬ 9785 กทม.จึงรีบควบคุมตัว นายกรกฎ ไปสอบสวนที่ ศปจร.บช.น.

จากการสอบสวน นายกรกฎ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ เคยเป็นโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ แต่หากินลำบากจึงรับการว่าจ้างจากเพื่อนชื่อ นายสรกฤช หรือ “หรั่ง” บุญประดิษฐ์ อายุ 35 ปี และ นายณัฐเกียรติ หรือ “เจี๊ยบ” ชูก้าน อายุ 32 ปี ให้ขับรถคันดังกล่าว มาส่งให้ลูกค้า ในราคา 5,000 บาท โดยมี นางสมควร ทำหน้าที่ติดต่อเป็นนายหน้าให้แต่เมื่อไปถึงตามนัดหมายกลับถูกตำรวจซ้อนแผนจับกุม ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยรับจ้างขับรถส่งให้ลูกค้า มาแล้ว 10 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ และรุ่นแจ๊ส ได้ค่าเสี่ยงภัยคันละ 3-5 พันบาท แล้วแต่สภาพความใหม่หรือเก่าของรถ โดยตนรู้ดีว่ารถทุกคันเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา

ด้าน นางสมควร ให้การว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ พ.ศ.2535 เคยเปิดเต็นท์รถมือสอง อยู่ใน จ.นครราชสีมา แต่ธุรกิจล้มเหลว จึงหันมาเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ที่ตลาดรังสิต และก็ยังมีการติดต่อกับพวกพ่อค้ารถมือสองอยู่ จนกระทั่งได้มารู้จักกับนายกรกฎ และ นายกรกฎ ก็ให้ตนช่วยหาลูกค้ารับซื้อรถโจรกรรมให้ด้วยจากนั้นตนจึงตัดสินใจติดต่อไปหาคนชื่อศักดิ์ เพื่อตกลงขายรถให้ในราคาคันละ 100,000 บาท โดยตนได้เปอร์เซ็นต์นายหน้าคันละไม่กี่พันบาท ที่ผ่านมาตนติดต่อซื้อขายให้ไปจำนวน 2 คันแล้ว

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.อรรถพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นางสมควร ผู้ต้องหารายนี้พบว่า มีหมายจับคดีฉ้อโกงทรัพย์และยักยอกทรัพย์ ในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง ติดตัวอยู่ด้วย ส่วน นายสรกฤช และ นายณัฐเกียรติ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีก็ถือว่ามีประวัติโชกโชน โดยเฉพาะนายสรกฤช นั้นมีคดีโจรกรรมรถติดตัวอยู่หลายคดี ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วถูกตำรวจ กก.สืบสวน บก.น.6 จับข้อหาโจรกรรมรถ แต่ก็หนีประกันไป อีกทั้งวิธีการก่อเหตุยังเป็นผู้กระทำผิดเองแบบครบขั้นตอนทั้ง ตระเวนทุบกระจก ต่อสายตรง ขับหนี และนำไปปลอมเอกสารสำเนารถด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ ปลอมแผ่นป้ายทะเบียน ก่อนติดต่อส่งขายให้ลูกค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็วต่อ

รวบ “แก๊ง 28 ขวบ” ตระเวนลักฮอนด้าแจ๊ซขายต่อทางเน็ต
พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.หน.ศปจร.บช.น. แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถฮอนด้า
นายสรกฤช หรือ “หรั่ง” บุญประดิษฐ์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี
นายณัฐเกียรติ หรือ “เจี๊ยบ” ชูก้าน อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาทียังหลบหนี
กำลังโหลดความคิดเห็น