xs
xsm
sm
md
lg

จับยกแก๊ง “โรฮิงยา” ค้ามนุษย์ พบโยงก่อการร้ายสากล

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ
รวบแก๊งโรฮิงยาลอบค้ามนุษย์ พบประวัติเกี่ยวข้องอัลกออิดะห์-พยัคฆ์ทมิฬอีแลม กลุ่มก่อการร้ายสากล ช่วยปลอมเอกสารเข้าประเทศไปก่อวินาศกรรม 911 อีกทั้งยังเป็นขบวนการจัดส่ง “ลูกแพะ” ชาติต่างๆ เช่น โรฮิงยา ศรีลังกา ปากีสถาน และ อิหร่าน ลักลอบเข้าประเทศไทย

วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ พลตรี วิศณุ ศรียะพันธ์ โฆษกกองทัพไทย พลโท เชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกดีเอสไอ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 1.นายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น ชาวโรฮิงยา ผู้ต้องหาลักลอบเข้าประเทศ โดยจับกุมได้ที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2.นายมะฮัมหมัด หมัดบาเหม หรือ บาบูจิ ชาวโรฮิงยา อายุ 39 และ นายชุบรี อาแว หรือ จิ๊บ อายุ 20 ปี ชาวโรฮิงยา ผู้ต้องหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยจับกุมได้ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลางเอกสารทางการเงิน เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การปลอมแปลงเอกสารทางราชการหลายรายการ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ โดยจากการสืบสวน พบว่า เป็นเครือข่ายค้าแรงงานและค้ามนุษย์ มีหลักฐานเชื่อมโยงกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางภาคใต้ และมีการหาผลประโยชน์ระหว่างประเทศ ซึ่ง นายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น มีข้อมูลด้านการข่าว ว่า เป็นหัวหน้ากลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติจัดส่งลูกแพะ และค้าเอกสารทางราชการปลอม รวมทั้งเป็นนายหน้าค้าอาวุธสงครามร่วมกับกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม และก่อนหน้านี้ได้อาศัยที่อ.หาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังพบว่า นายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น ได้ปลอมแปลงเอกสารให้กลุ่มอัลกออิดะห์ ให้เข้าไปก่อวินาศกรรมในเหตุการณ์ 911 จากนั้นหลบหนีเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย จนถูกจับกุมในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาอยู่ในประเทศไทยและติดต่อกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในภาคใต้ ทั้งกลุ่มค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด และกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

อย่างไรก็ตาม การจับกุมเป็นความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานประกอบด้วยศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.), สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และดีเอสไอ

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็นมีความสัมพันธุ์เป็นพี่เขยของ นายบาบูจิ ซึ่งมีอิทธิพล และกระทำความผิดประเภทปลอมแปลงเอกสารราชการ เช่น ตราประทับเข้า-ออก ราชอาณาจักรไทย ของด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อช่วยเหลือให้คนงานต่างด้าว โดยเฉพาะ ชาวโรฮิงยา ให้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งยังเป็นขบวนการจัดส่ง “ลูกแพะ” ชาติต่างๆ เช่น โรฮิงยา ศรีลังกา ปากีสถาน และอิหร่าน ลักลอบเดินทางเข้าออกประเทศไทย และไปยังประเทศที่ 3 โดยคิดราคา 200,000 บาทต่อคน และรับซื้อหนังสือเดินทางทั้งที่ถูกโจรกรรมมาจำหน่ายหรือปลอมแปลงทั้งเล่ม

ด้าน พ.อ.สุรศักดิ์ ณ ลำปาง ผบ.สำนักเทคโนโลยีและข้อมูลการตรวจสอบ กล่าวว่า เครือข่ายดังกล่าวยังมีคนในขบวนการเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งเครือข่ายที่ถูกจับกุมเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดทำงานประสานกับกลุ่มที่มีหน้าที่นำชาวโรฮิงยาเข้ามายังประเทศไทย ซึ่ง นายมะฮัมหมัด อาลี ฮุสเซ็น จะเป็นตัวกระจายชาวโรฮิงยาไปทำงานในพื้นที่ต่างๆ หากบุคคลใดมีเงินจ้างให้ทำงานใดๆก็จะทำทุกอย่าง รวมทั้งงานในพื้นที่ 3 จ.ชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่มีหลักฐานว่า ชาวโรฮิงยาทำงานให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้
กำลังโหลดความคิดเห็น