xs
xsm
sm
md
lg

ได้ภาพสเกตช์ 1 ใน 5 ปล้นทอง ตั้งค่าหัว 3 แสน เชื่อเกลือเป็นหนอน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพสเกตซ์ 1 ใน 5 คนร้าย ที่ร่วมแก๊งปล้นรถขนทองมูลค่า 15 ล้าน
ตร.ได้ภาพสเกตช์ 1 ใน 5 คนร้าย ปล้นรถขนทองคำ 15 ล้านแล้ว สั่งแจกจ่ายภาพคนร้ายไปยังสถานีต่างๆ พบกล้องวงจรปิดจับภาพรถคนร้ายได้ แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อผู้ครอบครอง ปักใจเชื่อ คนก่อเหตุน่าเป็นคนในบริษัทที่รู้ความเคลื่อนไหว ด้าน “คำรณวิทย์” กำชับสอบปากคำ 2 พนักงานขับรถเพิ่ม หลังให้การข้อมูลไม่ตรงกัน พร้อมตั้งรางวัลนำจับโจรค่าหัว 3 แสน

จากกรณี 5 คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนปล้นรถขนทองคำของบริษัท บางกอกเอสเสย์ ออฟฟิตจำกัด ขณะที่ 2 พนักงานนำทองคำแท่งไปส่งให้ลูกค้าที่เยาวราช เหตุเกิดบริเวณช่องยูเทิร์นบริเวณใต้สะพานข้ามคลองมหาชื้น ด้านหน้าห้างโลตัสสาขาซิตี้ปาร์คเมืองใหม่บางพลี ก่อนจับมัดมือปิดตามัดมือและนำมาปล่อยที่ริมถนนบางนาตราด กม.22 ให้โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นทองคำแท่งหนัก 15 กิโลกรัม ทองคำขาว 48 กรัม เครื่องเงิน 2 กิโลกรัม หนีไป เมื่อวานนี้

วันนี้ (23 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.40 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ได้ประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดี 5 คนร้าย โดยความคืบหน้าของคดี ตำรวจได้สเกตช์ภาพของ 1 ใน 4 คนร้ายแล้วที่ไม่ได้สวมหมวกไหมพรมคลุมใบหน้าขณะลงมือก่อเหตุ และได้แจกจ่ายภาพสเกตช์ไปตามสถานีตำรวจต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง และจากการตรวสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ละแวกเกิดเหตุ รวมไปถึงกล้อง CCTV หน้าร้านสะดวกซื้อ ย่านเคหะบางพลี เมืองใหม่ ตำรวจพบว่ารถยนต์ต้องสงสัยที่อาจจะเป็นรถยนต์ของคนร้ายแล้ว จำนวน 1 คัน เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีขาว รุ่นอีคาร์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า รถคันดังกล่าวใครเป็นผู้ครอบครอง แต่ก็ยังพบปัญหาว่ากล้องวงจรปิดที่จับภาพได้อยู่ในระยะที่ไกล จึงไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดของรถได้ชัดเจน

นอกจากนี้ ตำรวจยังสงสัยว่าคนก่อเหตุจะเป็นคนใน เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของบริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจสอบรายละเอียดพนักงานที่เคยลาออกไปก่อนหน้านี้ เพราะจากการลงมือของคนร้ายในครั้งนี้รู้ความเคลื่อนไหวของภายในบริษัทเป็นอย่างดีว่าจะมีการนำทองรูปพรรณไปส่งให้ลูกค้าเวลาใด ประกอบกับคนในพื้นที่ใกล้เคียงไม่มีใครทราบว่าบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการอะไร คนงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัททั้งหมดเป็นคนนอกพื้นที่ อีกทั้งการขนส่งทองคำของบริษัทดังกล่าวไม่มีอาวุธอะไรให้พนักงานที่ขนส่งทองไปส่งให้ลูกค้าป้องกันตัวหรือป้องกันทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายไปแต่อย่างใด มีเพียงวิทยุสื่อสารที่ติดตั้งเอาไว้ภายในรถเพียงตัวเดียวเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ธนเดช แก้วภิญโญ พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ได้เชิญตัว นายอดิศักดิ์ พิสมร อายุ 24 ปี และนายอดิศักดิ์ อารีสวัสดิ์ อายุ 30 ปี พนักงานขับรถยนต์ขนทองคำคันเกิดเหตุมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธงอีกครั้ง หลังจากนั้นได้ให้พนักงานทั้ง 2 คนพิมพ์ลายนิ้วมือเอาไว้เพื่อที่จะเป็นหลักฐานนำเอาไปเปรียบเทียบกับลายมือแฝงที่พบบนรถยนต์คันที่ถูกก่อเหตุ เพื่อที่จะแยกว่าอันไหนเป็นลายนิ้วมือของคนร้านอันไหนเป็นลายนิ้วมือของคนก่อเหตุ

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จากการติดตามผลการทำงานของตำรวจชุดคลี่คลายคดี ทราบว่ามีความคืบหน้าในการค้นหาข้อมูลเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว และได้ประสานกับตำรวจทางหลวง ตำรวจนครบาล เพื่อที่จะตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย และได้กำชับให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำนายอดิศักดิ์ พิสมร และนายอดิศักดิ์ อารีสวัสดิ์ 2 พนักงานขับรถยนต์ขนทองคำคันเกิดเหตุ อย่างละเอียดเนื่องจากข้อมูลบางอย่างให้การไม่ตรงกัน

ล่าสุด เวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมคลี่คลายคดี 5 คนร้าย ปล้นทองคำอีกครั้ง ที่ห้องประชุม สภ.บางเสาธง อีกครั้ง

พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว่า จากการตรวจสอบภาพสเกตซ์ ของ 1ใน 5 คนร้ายที่ไม่สวมหมวกไหมพรหม ทางตำรวจได้นำไปให้กับคนงานของบริษัท บางกอกเอสเสย์ ออฟฟิตจำกัด ดูแล้ว ก็ยังไม่พบว่าเป็นคนภายในบริษัท ซึ่งการลงมือของคนร้ายทำในเวลากลางวัน อีกทั่งที่เป็นช่วงการจราจรคับคั่ง คิดว่าน่าจะมีผู้เห็นเหตุการณ์บ้าง แต่ไม่กล้าที่จะเดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ

"ทั้งนี้ ในขณะนี้ทางตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับ จำนวน3แสนบาท ให้กับคนที่ชี้เบาะแสคนร้าย หากใครเห็นหรือพบผู้ต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับชายในภาพสเกตซ์ ก็สามมารถแจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบภายในทันที" พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว

ตร.ประชุมเครียด! หาแนวทางล่าคนร้ายปล้นรถขนทอง
5 คนร้ายปล้นระทึก! ซิ่งรถปาดหน้าชิงทองแท่ง 15 ล้าน!
เจ้าหน้าที่ ตร.นำตัวพนักงานขับรถ มาสอบปากคำเพิ่ม หลังให้การข้อมูลไม่ตรงกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น