ตร.ประชุมเครียด! หาแนวทางล่าคนร้ายปล้นรถขนทอง

ตร.สภ.บางเสาธง ยังคงประชุมเครียดหาแนวทางติดตามคนร้ายปล้นรถขนทอง และช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ผบช.ภ.1 จะร่วมหารือและติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้ง

ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 5 คน ใช้รถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์สีขาว โหลดเตี้ย เป็นรถแต่งสภาพเก่า ไม่ติดป้ายทะเบียน ขับปาดหน้ารถของบริษัท บางกอก แอสเสย์ ออฟฟิศ จำกัด ที่บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาเข้า กม.22 ซึ่งเป็นรถขนทอง เตรียมที่จะนำทองคำแท่งน้ำหนักรวม 15 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท ไปยังร้านทองย่านเยาวราช หลบหนีไป ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันนี้ 22 มิ.ย. พ.ต.อ.ปราศรัย จิตตสนธิ ผกก.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนยังคงประชุมเครียดหาแนวทางติดตามตัวคนร้ายที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดี หลังจากที่เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.1 ได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุด้วยตนเอง ซึ่งในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ฉลอง จะร่วมประชุมความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อีกครั้ง

เบื้องต้นจากการสอบสวน นายปัญญา อย่างพารา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ให้การว่า ตนเองเป็นผู้คุ้มรถขนทองคันเกิดเหตุของบริษัท บางกอก เอสเสย์ ออฟฟิต จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ประกอบกิจการรับหลอมทองคำแท่งเพื่อนำไปส่งเยาวราช โดยจะจะนำทองคำแท่งไปส่งที่เยาวราชวันละ 2 รอบ เป็นประจำทุกวัน วันนี้ตนได้ให้พนักงานจำนวน 2 คน คือ นายอดิศักดิ์ พิสมร อายุ 24 ปี และนายอดิศักดิ์ อารีสวัสดิ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนขับ นำทองคำแท่งจำนวน 15 กิโลกรัม ซึ่งใส่อยู่ในกล่องเหล็กสีแดง จำนวน 2 กล่อง กว้าง 10 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว หนา 3 นิ้ว พร้อมด้วยซิลเวอร์(เงิน) หนัก 2 กิโลกรัมนำขึ้นรถ เพื่อนำไปส่งที่เยาวราชตามปกติ กระทั่งตนเองได้รับโทรศัพท์จากพนักงานทั้งสองคนว่า ถูกคนร้ายขับรถตามประกบบริเวณ จุดกลับรถหน้าห้างโลตัสสาขาซิตี้ปาร์ค บางพลี ถ.เทพารักษ์ ติดกับคลองมหาชื้น โดยมีรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชชิสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดดักหน้า และมีรถอีกคันซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นรถอะไรมาจอดประกบท้าย

นายปัญญากล่าวอีกว่า คนร้ายสวมไอ้โม่งได้ลงจากรถจำนวน 4 คน โดยในรถมีคนร้ายคุมเชิงอีก 1 คน จากนั้นคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ใช้ปืนสั้น 2 กระบอก จี้บังคับพนักงานทั้งสองคนไม่ให้ขัดขืน และคนร้ายได้นำเหล็กขนาดใหญ่มาทุบกระจกรถด้านคนขับจนแตก จากนั้นได้นำกุญแจมือใส่พนักงานของบริษัท พรัอมนำผ้ามาปิดเพื่อไม่ให้เห็น และบังคับให้นั่งด้านหลังบริเวณแคบของรถจากนั้นคนร้ายทั้งสองได้ขับรถออกมาจากจุดเกิดเหตุและนำรถมาจอดทิ้งไว้บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.22 พร้อมกับชิงทองคำแท่งหนัก 15 กิโลกรัม มูลค่า 15 ล้านบาท และเงินหนัก 2 กิโลกรัม มูลค่า 2 แสนบาทไปด้วย จากนั้นจึงได้แจ้งให้พนักงานบริษัททราบ