เลขานุการ ผอ.รพ.ธนบุรี แจ้งความให้ตำรวจตามจับแก๊งลักทรัพย์ในล็อกเกอร์ฟิตเนส “แคลิฟอร์เนียว้าว” สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า หลังเข้าไปใช้บริการแล้วเงินหายหมื่นบาท-บัตรเครดิต ด้านตำรวจ บอกฟิตเนสนี้เกิดเหตุบ่อย แต่ยังตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้สักราย เพราะไม่มีมาตรการป้องกันและสถานประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ
วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.น.ส.นันทนา เลิศศักดิ์เกษตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 10 ต.หนองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันเป็นเลขานุการผู้อำนวยการ รพ.ธนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) เวลาประมาณ 14.30 น.ตนได้ไปใช้บริการฟิตเนส ที่สถานออกกำลังกายแคลิฟอร์เนียว้าว สาขาโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซินีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางยี่ขัน กทม.ขณะที่กำลังเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวชั้น 4 เตรียมขึ้นไปใช้บริการสระว่ายน้ำบนชั้น 5 ก็เก็บกระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งกระเป๋าเงินไว้ที่ล็อกเกอร์ ซึ่งในเวลานั้นตนเห็นว่ามีแม่บ้านของสถานประกอบการ อยู่จำนวน 3 คน ซึ่งตนก็ยังยิ้มทักทายให้ตามปกติโดยไม่ได้ใส่ใจอะไร
น.ส.นันทนา กล่าวอีกว่า จากนั้นตนได้ขึ้นไปใช้บริการสระว่ายน้ำนานประมาณ 30 นาที ก็ลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับบ้าน ก็พบว่า กุญแจที่คล้องสายยูตู้ล็อกเกอร์อ้าอยู่ในสภาพถูกปลดล็อก พอตรวจสอบทรัพย์สินภายในก็ยังอยู่ครบทุกอย่างวางเหมือนเดิม แต่กระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินสดจำนวน 10,000 บาท บัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม และเอกสารสำคัญหลายรายการเกิดสูญหายไป ตนจึงรีบไปแจ้งกับพนักงานเคาน์เตอร์จุดแลกผ้าทราบ แต่พนักงานก็ไม่ใส่ใจ จึงขอพบผู้จัดการสาขา เมื่อพนักงานโทรศัพท์ไปกลับได้รับคำตอบว่า ผู้จัดการติดคุยกับลูกค้าอยู่ ให้ตนลงไปพบผู้จัดการเองที่ชั้น 1 เมื่อตนลงไปแจ้งเรื่องให้ผู้จัดการทราบ ก็ได้รับคำตอบว่าตนเป็นผู้เสียหายรายที่ 3 ของเดือนนี้ ซึ่งเดือนก่อนก็มีผู้ใช้บริการถูกลักทรัพย์ไป 5 ราย
“เมื่อดิฉันสอบถามว่าที่สถานประกอบการไม่มีมาตรการป้องกันการลักทรัพย์ลูกค้าเลยหรือ ผู้จัดการ ก็ตอบว่า ไม่มี เนื่องจากลูกค้าต้องรักษาทรัพย์สินกันเอาเอง ซึ่งดิฉันก็บอกไปแล้วว่า สงสัยพฤติกรรมของแม่บ้านทั้ง 3 คน ที่วนเวียนอยู่ขณะที่นำของไปเก็บในล็อกเกอร์ และผู้จัดการก็พาแม่บ้านมาให้สอบถามได้เพียง 2 คน โดยอ้างว่าเป็นช่วงเปลี่ยนเวร และแม่บ้าน 2 คนนั้น ก็ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น เมื่อขอค้นกระเป๋าของทั้ง 2 คน ก็ไม่พบทรัพย์สินอะไร จากนั้นทางผู้จัดการก็พาดิฉันไปค้นที่ห้องพักของแม่บ้านอีกก็ไม่พบ ดิฉันจึงขอดูกล้องวงจรปิดพร้อมถามหาว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ผู้จัดการจึงบอกให้ดิฉันไปดูกล้องวงจรปิดได้หลัง 22.00 น.ซึ่งมีเพียงจุดเดียว คือ จุดแลกผ้า แต่ดิฉันจะต้องไปแจ้งความกับตำรวจเสียก่อนจึงจะอนุญาตให้ดูได้” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวต่อไปว่า ได้ไปแจ้งความกับร้อยเวร สน.บางยี่ขัน และพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุและดูภาพวงจรปิด โดยทางผู้จัดการกลับอ้างว่า ต้องมีหมายศาล เพราะเป็นนโยบายของทางสถานประกอบการ และบอกว่า ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกได้ 7 วันเท่านั้น หากเกินกำหนดไปแล้วก็จะถูกลบทิ้ง ดังนั้น ตนจึงได้ถามผู้จัดการไปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครสามารถจะรับผิดชอบได้หรือ ซึ่งตนเป็นสมัครสมาชิกมานาน 1 ปีแล้ว เสียค่าสมาชิกถึง 16,000 บาท แต่ไม่เคยมาใช้บริการเลย โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางมาครั้งแรก สถานประกอบการน่าจะดูแลลูกค้าให้ดีกว่านี้ เพราะมาตรการการรักษาความปลอดภัยแย่ อีกทั้งมีลูกค้าหลายรายตกเป็นเหยื่อ แล้วเมื่อตนตกเป็นผู้เสียหายแล้วยังมีท่าทีปกป้องพนักงานอีก
ด้าน ร.ต.ต.ธรรมศักดิ์ พลเดช ร้อยเวร เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ตนได้รับเรื่องแจ้งความไว้พร้อมเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความกับตน 2 ครั้งแล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบสถานประกอบการแห่งนี้มีผู้เสียหายถูกลักทรัพย์มากว่า 10 ราย แล้วแต่ก็ไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ เนื่องจากไม่มีมาตรการป้องกันและสถานประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ
เตือนภัย! รีดไขมันเพลินในฟิตเนส ระวังแก๊งลักทรัพย์