“หมอพรทิพย์” เดินหน้าสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ตามกระแสข่าวลือ เพื่อปลดล็อกให้สิ้นสงสัย แม้จะมีผู้กล่าวหาว่าการสำรวจตู้แรกเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
วันนี้ (19 มิ.ย.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ตนจะเชิญผู้แทนกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเรื่องการส่งทีมงานตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ที่อ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อีกครั้ง หลังจากที่การสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ตู้แรกไม่พบสิ่งของภายใน และไม่พบสารพิษหรือขยะพิษ ทำให้กองทัพเรือระบุว่าสามารถส่งทีมงานลงตรวจในจุดอื่นได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้หมดช่วงฤดูมรสุม ซึ่งจะสำรวจตู้ที่ชาวประมงอ้างว่าพบเห็นโครงกระดูกที่อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 60 ไมล์ทะเล ซึ่งจุดดังกล่าวยังขาดข้อมูลที่ชัดเจน มีเพียงข่าวลือว่าเคยมีผู้พบเห็นตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ส่วนงบประมาณที่เคยตั้งไว้จำนวน 7 ล้านบาทนั้นอาจต้องปรับลดลง เนื่องจากการสำรวจตู้แรกเป็นตู้เปล่า
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า แม้การสำรวจตู้คอนเทรนเนอร์ตู้แรกจะไม่พบอะไรเลยแต่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ทุกตู้ให้สิ้นความสงสัย หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่พิสูจน์ก็จะถูกต่อว่า ขณะเดียวกัน เมื่อพิสูจน์แล้วไม่พบอะไรก็จะถูกกล่าวหาว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
“ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าตู้คอนเทรนเนอร์ตู้แรกอาจเป็นของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ที่มีข้อมูลว่าเคยทำตู้คอนเทรนเนอร์ตกทะเลในช่วงที่มีการวางท่อก๊าซ เพราะตู้ดังกล่าวถูกดัดแปลงให้เป็นออฟฟิศและมีบันไดสำหรับขึ้นลง” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
วันนี้ (19 มิ.ย.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ตนจะเชิญผู้แทนกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเรื่องการส่งทีมงานตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ ที่อ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อีกครั้ง หลังจากที่การสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ตู้แรกไม่พบสิ่งของภายใน และไม่พบสารพิษหรือขยะพิษ ทำให้กองทัพเรือระบุว่าสามารถส่งทีมงานลงตรวจในจุดอื่นได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้หมดช่วงฤดูมรสุม ซึ่งจะสำรวจตู้ที่ชาวประมงอ้างว่าพบเห็นโครงกระดูกที่อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 60 ไมล์ทะเล ซึ่งจุดดังกล่าวยังขาดข้อมูลที่ชัดเจน มีเพียงข่าวลือว่าเคยมีผู้พบเห็นตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ส่วนงบประมาณที่เคยตั้งไว้จำนวน 7 ล้านบาทนั้นอาจต้องปรับลดลง เนื่องจากการสำรวจตู้แรกเป็นตู้เปล่า
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า แม้การสำรวจตู้คอนเทรนเนอร์ตู้แรกจะไม่พบอะไรเลยแต่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ทุกตู้ให้สิ้นความสงสัย หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่พิสูจน์ก็จะถูกต่อว่า ขณะเดียวกัน เมื่อพิสูจน์แล้วไม่พบอะไรก็จะถูกกล่าวหาว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
“ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าตู้คอนเทรนเนอร์ตู้แรกอาจเป็นของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ที่มีข้อมูลว่าเคยทำตู้คอนเทรนเนอร์ตกทะเลในช่วงที่มีการวางท่อก๊าซ เพราะตู้ดังกล่าวถูกดัดแปลงให้เป็นออฟฟิศและมีบันไดสำหรับขึ้นลง” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว