จำคุก 3 ปี 11 ชายฉกรรจ์ รับจ้างแค่ 200 บุกรื้อตลาดซันเดย์ รับสารภาพชั้นสอบสวน ศาลปรานีลดคนละ 2 ปี ส่วนข้อหาลักทรัพย์เจ้าร้านค้า และจำเลยอีก 3 รายที่จำได้ในภายหลังให้ยกฟ้องชี้พยานโจทก์ไม่ชัดเจน
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2746/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายลอย ยุทธยงค์ อายุ 41 ปี, นายโฆษิต จิตรกลาง อายุ 38 ปี, นายคมสรร พรมสง่า อายุ 37 ปี, นายสุริยา ชุมทา อายุ 24 ปี, นายมีชัย ประวันวัย อายุ 27 ปี, นายทรงพล ดีหามแห อายุ 19 ปี, นายบุญธรรม ศรีหามาตย์ อายุ 52 ปี, นายสมเกียรติ ท้าวน้อย อายุ 27 ปี , นายสมสมัย คำป้อง อายุ 27 ปี, นายชานนท์ พามา อายุ 20 ปี, นายอนุชิต พิมพ์สุวรรณ อายุ 19 ปี, นายจักรพันธ์ แหมไธสง อายุ 35 ปี, นายเกชา หรือเดชา บาศรี อายุ 33 ปี และนายพิมาน จามจุรี อายุ 45 ปี เป็นจำเลยที่ 1-14 ในความผิดฐาน ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 358, 362, 365
คดีนี้โจทก์ฟ้องวันที่ 22 ก.ค.51 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.51 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีกหลายคน ร่วมกันบุกรุก เข้าไปในตลาดนัดซันเดย์ จตุจักร อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของ นายพล ชาญเดช, นายพยงค์ ถวายทาน, นายสัญญา พลอยพริม, นายชาติชาย ตุลารักษ์, นายนิมิตร กำพุฒ, นายพรพจน์ ศุภธนาเศรษฐ์, น.ส.สิริรัตน์ เรวัตธนากิจ, นายภาณุมาศ ธนูธรรมรัตน์, นายสมภพ วงศ์จันทร์ และนายเอกชัย ชูบุญลาภ ผู้เสียหายทั้งสิบคน โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร แล้วร่วมกันใช้เหล็กข้ออ้อย, ค้อนปอนด์ ไม้ และของแข็ง ไม่ทราบชนิด ทุบกระเบื้องมุงหลังคาและทำลายทรัพย์สินอื่นหลายรายการจนใช้การไม่ได้ อันเป็นการทำให้เสียทรัพย์ และจำเลยกับพวก ยังร่วมกันเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ 2-5 ไปโดยทุจริต รวมมูลค่า 343,000 บาท ประกอบด้วย เงินสดของนายพยงค์ ถวายทาน จำนวน 6,000 บาท, นกกระตั้ว จำนวน 1 ตัว ราคา 30,000 บาท ของนายสัญญา พลอยพริม, นกสวยงามชนิดต่างๆ รวมราคา 25,000 บาท ของนายชาติชาย ตุลารักษ์, เครื่องเล่นดีวีดี เครื่องตัดเหล็กไฟฟ้า พระเครื่องจำนวนหลายองค์ สว่านมือ ไม้คิวสนุกเกอร์จำนวนหลายอัน เงินสดจำนวน 1,000 บาท รวมราคา 282,000 บาท ของนายนิมิตร กำพุฒ เหตุเกิดที่แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม.
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.51 เวลา 01.00 น.มีคนร้ายบุกเข้าไปในตลาดซันเดย์ ทุบทำลายร้านค้าของผู้เสียหายสิบคน และทรัพย์สินของผู้เสียหาย 4 คน หายไปรวมมูลค่า 343,000 บาท คดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1-14 กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าโจทก์ มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เบิกความว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 10 นายไปที่ตลาดซันเดย์ และจับกุมจำเลยที่ 1-11 ได้ในที่เกิดเหตุ ขณะที่จำเลยที่ 1-11 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ว่าได้รับจ้างมารื้อถอนร้านค้า คนละ 200 บาท โดยการรื้อถอนมีชายที่รับจ้างยืนถือโทรโข่งสั่งการ ซึ่งแม้ว่าจำเลยที่ 1-11 จะให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณา แต่ก็เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้นำพยานหลักฐานมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ ขณะที่ศาลเห็นว่าคำรับสารภาพของจำเลย เกิดขึ้นต่อเนื่องในเวลากระชั้นชิดหลังถูกจับกุมและจำเลยยังพาชี้ที่เกิดเหตุและของกลาง จึงเชื่อว่า จำเลย ให้การรับสารภาพตามความจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีเวลาที่จะคิดบิดเบือนข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจ พยานโจทก์ยืนยันว่า ขณะจับกุมได้ปิดล้อมที่เกิดเหตุ และแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน ก็มีแสงสว่างเพียงพอจากทางเดิน และหน้าร้านค้าที่จะจดจำใบหน้าคนร้ายได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1-11 กระทำผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์
ส่วนข้อหาลักทรัพย์ผู้เสียหายที่ 2-5 นั้น ศาลเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยที่ 1-11 นำทรัพย์สินไป ขณะที่จำเลยที่ 1-11 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอดว่า การบุกเข้ามาตลาดซันเดย์ จำเลยมีเจตนาเพียงมารื้อถอนร้านค้าเท่านั้น ไม่มีเจตนาเข้าไปลักทรัพย์ผู้เสียหายที่ 2-5
พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-11 กระทำผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานทำให้เสียทรัพย์ ตาม มาตรา 358 ให้จำคุกคนละ 3 ปี แต่ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ส่วนข้อหาลักทรัพย์ ให้ยกฟ้อง
ส่วนจำเลยที่ 12-14 พยานโจทก์ยังไม่เพียงพอ ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง และให้ริบค้อนปอนด์ และเหล็กข้ออ้อย ของกลาง
ตร.ส่งฟ้อง 14 ชายฉกรรจ์รื้อตลาดซันเดย์แล้ว!
ยิงแสกหน้าหัวโจกนำลูกน้องกว่า 50 คน รื้อตลาดซันเดย์
จำคุก! 16 ปี ผจก.ฝ่ายกฎหมายจ้างวานเผาตลาดซันเดย์