ตำรวจ ศปจร.น.รวบ “แก๊ง 28 ขวบ” ตระเวนลักรถในเมืองกรุง ผู้ต้องหาสารภาพจะหาส่วนใหญ่จะจ้องแต่ “ฮอนด้า แจ๊ซ” เพราะเป็นรถตลาดตามใบสั่ง เมื่อเจอรถเป้าหมายจะทุบกระจกแล้วต่อสายตรงขับออกไปทันที ก่อนเอาไปสวมทะเบียนปลอม แล้วโพสต์ขายเป็นรถมือสองในอินเทอร์เน็ต
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ที่ผู้ต้องหาในแก๊งมีอายุ 28 ปีเท่ากันหมดทุกคน ประกอบด้วย นายสุรศักดิ์ ก่อวาณิชกุล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/71 หมู่ 9 แขวงและเขตบางแค นายทิพพ์ธนันทน์ ขันธนิยม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/280 หมู่ 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม นายฉัตรชัยอาจสุรินทร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 2 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.สุรินทร์ และนายธีรพัฒน์ พิศวาสดิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/113 หมู่ 23 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน
โดยทั้งหมดถูกจับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รามอินทรา ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีชมพู หมายเลขทะเบียน ศม-958 กทม. รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ศว-4390 กทม. และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า เซลิก้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ภง-4945 กทม.
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีประชาชนในพื้นที่กทม. พากันแจ้งข้อมูลเข้ามาว่าปัจจุบันมีรถสูญหายบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) จึงได้ออกหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้าย จนสามารถตามจับผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าวซึ่งมีอายุ 28 ปีเท่ากันได้รวม 4 คน ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
“ผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าจะช่วยกันตระเวนหารถเก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ ซึ่งถือเป็นรถตลาดตามใบสั่งที่จอดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เมื่อได้รถเป้าหมายแล้วก็จะใช้วิธีการทุบกระจกรถเพื่อต่อสายตรงแล้วขับหนีไป จากนั้นก็จะนำไปปลอมแปลงหมายเลขทะเบียน และสวมทะเบียนรถขึ้นมาใหม่ ก่อนที่จะนำไปโพสต์ขายเป็นรถมือสองทางอินเทอร์เน็ต โดยตั้งราคาไว้ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปเพื่อดึงความสนใจลูกค้า” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า หากใครสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหาแก๊งนี้โจรกรรมรถไป หรือเคยซื้อรถมือสอง ต่อจากผู้ต้องหาแก๊งนี้ทางอินเทอร์เน็ตก็สามารถเดินทางไปเช็กข้อมูลที่ ศปจร.น.ได้ตลอดเวลา และอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนด้วยว่า หากคิดจะซื้อรถมือสองทางอินเทอร์เน็ตก็ขอให้ตรวจสอบที่มาที่ไปและเอกสารประจำรถให้ดี เนื่องจากยุคนี้มิจฉาชีพปลอมแปลงได้แนบเนียนมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรแก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
