แก๊ง 18 มงกุฎเมืองกรุง ทำทีเข้าตีสนิทเจ้าของร้านเพชรย่านบ้านหม้อนานนับเดือนจนเหยื่อตายใจ ลงทุนเช่าบ้านร้าง พาช่างมาตกแต่งอย่างดี ก่อนจะโทร.สั่งซื้อเพชรเม็ดโตจากเหยื่อให้ส่งมาดูที่บ้าน แล้วออกอุบายในบ้านมืดดูเพชรไม่ถนัด ขอเอาออกมาดูนอกบ้าน ก่อนโดดขึ้น จยย.ซิ่งหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) นายเสนาะ มนัส อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/58 แขวงและเขตบางซื่อ เจ้าของธุรกิจฝังเพชรพลอยย่านบ้านหม้อ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บัณฑิตย์ จันทร์เทศ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อแจ้งความว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์เป็นเพชร น้ำหนัก 5.5 กะรัต มูลค่า 3,200,000 บาท ไปจากหน้าบ้านเลขที่ 524-526 ถนนเจริญรัถ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน
โดย นายเสนาะให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับคนร้ายซึ่งอ้างตัวว่าชื่อนายเอกชัย แต่ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 40 ปี ที่เข้ามาหลอกตนว่าเป็นเสี่ยค้าเพชรพลอยรายใหญ่ของประเทศ ก่อนจะติดต่อกันเรื่อยมาจนไว้เนื้อเชื่อใจ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกชัยได้ติดต่อมาหาตนพร้อมบอกว่าต้องการซื้อเพชรเม็ดโตๆ แบบไม่เกี่ยงราคา ก่อนจะนัดให้ตนนำเพชรไปให้ดูที่บ้านหลังดังกล่าว ตนเลยสั่งให้พนักงานของบริษัท 2 คน เป็นคนนำเพชรไปให้นายเอกชัยพิจารณา แต่หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็แจ้งตนว่าเพชรโดนขโมยไปแล้ว
นายเสนาะให้การต่อว่า เมื่อสอบถามเรื่องจากราวจากพนักงานของตนได้ความว่า เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวก็พบว่าภายในยังตกแต่งยังไม่เสร็จ ส่วนนายเอกชัยรออยู่ในบ้าน พนักงานจึงยื่นเพชรให้นายเอกชัยดู แต่นายเอกชัยบอกว่าในบ้านมืดส่องแล้วไม่เห็นน้ำเพชร ขอเอาออกไปส่องดูหน้าบ้านเพราะมีแสงสว่างมากกว่า แต่เมื่อนายเอกชัยเดินถือเพชรออกมาก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่บริเวณข้างบ้านแล้วขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนคาดว่าพวกนี้น่าจะพวกแก๊ง 18 มงกุฎแน่นอนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวให้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็ได้ดำเนินการตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเคยเป็นคลินิกของแพทย์คนหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้เลิกกิจการปล่อยร้างไปแล้ว จนกระทั่งมีกลุ่มผู้ต้องหามาติดต่อขอเช่า และวางเงินมัดจำกันไว้จำนวน 10,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้พาช่างเข้ามาตกแต่งเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ก่อนจะติดต่อให้ผู้เสียหายนำเพชรมาส่ง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสืบสวนปราบปรามช่วยกันติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ สว.สป.สน.สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า สำหรับคนร้ายที่อ้างตัวว่าชื่อเอกชัยนั้น ตนได้สอบถามรูปพรรณสัณฐานจากผู้เสียหายและพยานแล้ว ทราบว่าเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างเตี้ยล่ำ ผิวขาวคล้ายคนจีน และแต่งกายภูมิฐานดูน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานไปตามโรงพักท้องที่ต่างๆว่า เคยมีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูปพรรณเดียวกันล่อลวงก่อเหตุในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ ก่อนสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) นายเสนาะ มนัส อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/58 แขวงและเขตบางซื่อ เจ้าของธุรกิจฝังเพชรพลอยย่านบ้านหม้อ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บัณฑิตย์ จันทร์เทศ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อแจ้งความว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์เป็นเพชร น้ำหนัก 5.5 กะรัต มูลค่า 3,200,000 บาท ไปจากหน้าบ้านเลขที่ 524-526 ถนนเจริญรัถ แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน
โดย นายเสนาะให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับคนร้ายซึ่งอ้างตัวว่าชื่อนายเอกชัย แต่ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 40 ปี ที่เข้ามาหลอกตนว่าเป็นเสี่ยค้าเพชรพลอยรายใหญ่ของประเทศ ก่อนจะติดต่อกันเรื่อยมาจนไว้เนื้อเชื่อใจ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกชัยได้ติดต่อมาหาตนพร้อมบอกว่าต้องการซื้อเพชรเม็ดโตๆ แบบไม่เกี่ยงราคา ก่อนจะนัดให้ตนนำเพชรไปให้ดูที่บ้านหลังดังกล่าว ตนเลยสั่งให้พนักงานของบริษัท 2 คน เป็นคนนำเพชรไปให้นายเอกชัยพิจารณา แต่หลังจากนั้นไม่นานพนักงานก็แจ้งตนว่าเพชรโดนขโมยไปแล้ว
นายเสนาะให้การต่อว่า เมื่อสอบถามเรื่องจากราวจากพนักงานของตนได้ความว่า เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวก็พบว่าภายในยังตกแต่งยังไม่เสร็จ ส่วนนายเอกชัยรออยู่ในบ้าน พนักงานจึงยื่นเพชรให้นายเอกชัยดู แต่นายเอกชัยบอกว่าในบ้านมืดส่องแล้วไม่เห็นน้ำเพชร ขอเอาออกไปส่องดูหน้าบ้านเพราะมีแสงสว่างมากกว่า แต่เมื่อนายเอกชัยเดินถือเพชรออกมาก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่บริเวณข้างบ้านแล้วขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนคาดว่าพวกนี้น่าจะพวกแก๊ง 18 มงกุฎแน่นอนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวให้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผกก.สน.สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็ได้ดำเนินการตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเคยเป็นคลินิกของแพทย์คนหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้เลิกกิจการปล่อยร้างไปแล้ว จนกระทั่งมีกลุ่มผู้ต้องหามาติดต่อขอเช่า และวางเงินมัดจำกันไว้จำนวน 10,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้พาช่างเข้ามาตกแต่งเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ก่อนจะติดต่อให้ผู้เสียหายนำเพชรมาส่ง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสืบสวนปราบปรามช่วยกันติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ สว.สป.สน.สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า สำหรับคนร้ายที่อ้างตัวว่าชื่อเอกชัยนั้น ตนได้สอบถามรูปพรรณสัณฐานจากผู้เสียหายและพยานแล้ว ทราบว่าเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างเตี้ยล่ำ ผิวขาวคล้ายคนจีน และแต่งกายภูมิฐานดูน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานไปตามโรงพักท้องที่ต่างๆว่า เคยมีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูปพรรณเดียวกันล่อลวงก่อเหตุในลักษณะนี้บ้างหรือไม่ ก่อนสืบสวนหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป