ผู้ว่าฯระบุประชุมสุดยอดอาเซียนพลาดไม่ได้ สำเร็จ-ล้มเหลวเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตประชุมทุกภาคส่วน ทหาร-ตำรวจ-ท้องถิ่น-เอกชน รับมือประชุมสุดยอดอาเซียน ระบุ งานนี้พลาดไม่ได้ เพราะการประชุมที่ภูเก็ต มีความสำเร็จหรือล้มเหลวในการประชุมในครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ของทั้งจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย ขณะที่รองแม่ทัพภาค4ยืนยันพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัย

วันนี้ (12 พ.ค) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (อาคารหลังใหม่) นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา โดยมี นายตรี อัครเดชา และ นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการ พลตรี โฆษิต สมุทรผ่อง รองแม่ทัพภาค 4, พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตลอดจนหน่วยงานราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ โดยเฉพาะการเตรียมการต้อนรับและอำนวยความสะดวกการจัดประชุมทุกๆ ด้าน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เช่น สถานที่จัดการประชุม สถานที่พัก สถานที่รับรอง การเตรียมการต้อนรับบริเวณท่าอากาศยาน การจัดขบวนรถกรณีประมุขหรือผู้นำประเทศ การรักษาความปลอดภัย การจัดทีมแพทย์พยาบาล การจัดภูมิทัศน์ เป็นต้น

นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับการประชุมดังกล่าวแน่ชัดว่าเลือกภูเก็ตแล้วแน่นอน และเนื่องจากเรามีบทเรียนจากการประชุมครั้งที่แล้วที่พัทยา จ.ชลบุรี ที่ล้มเหลว ดังนั้น สิ่งที่ทุกฝ่ายเป็นห่วง คือ ความปลอดภัย การประชุมครั้งนี้ จึงมีความสำคัญสำหรับประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตมาก เพราะความสำเร็จหรือล้มเหลว ในการประชุมครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทั้งภูเก็ตและประเทศไทยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั่วโลกว่า การประชุมที่จังหวัดภูเก็ตจะไม่มีปัญหา

เท่าที่ได้มีการพูดคุยกับหลายฝ่ายต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า เราชาวภูเก็ตทุกกลุ่มจะต้องออกมารวมตัวกันเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจน ในการเป็นเจ้าภาพและเป็นเจ้าบ้านที่ดี สำหรับการประชุมครั้งนี้ โดยกำหนดนัดรวมตัวกันในวันที่ 22 พฤษภาคม ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน เพื่อให้รัฐบาลและชาวต่างชาติให้เห็นความตั้งใจจริงของชาวภูเก็ต ว่ามีความพร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวและจะร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการประชุมดังกล่าวอย่างแท้จริง เพราะงานนี้เราคงพลาดไม่ได้อีกแล้ว

นายวิชัย ยังได้กล่าวต่อไปว่า การเตรียมความพร้อมของพื้นที่จากการที่ได้ประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างเห็นด้วยที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมดังกล่าว แต่ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยเราคงจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะแม้ว่าขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลยืนยันในการใช้กำลังทหารมาช่วยดูแล แต่ที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า ผู้นำของแต่ละประเทศที่มาร่วมประชุมจะนำกองกำลังของเขามาด้วย จึงจำเป็นที่เราชาวภูเก็ตจะต้องมาร่วมแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนให้รัฐบาลและชาวต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

ด้าน พลตรี โฆษิต สมุทรผ่อง รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยของการประชุมครั้งนี้ ว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการดูแลรักความปลอดภัยของการประชุมในครั้งนี้ โดยบูรณาการความร่วมมือกันทั้ง 3 เหล่าทัพ โดยทัพบกดูแลความปลอดภัยบนบก ทัพเรือดูแลทางน้ำ และทัพอากาศดูแลอากาศยานและสนามบิน

ส่วนของกองทัพภาค 4 ซึ่งรับผิดชอบความปลอดภัยในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด ดูแลความปลอดภัยรอบนอกและเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ดังนั้นจึงขอให้มั่นใจในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ในขณะที่ พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการเตรียมในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย มาตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วซึ่งเดิมว่าจะมีการจัดที่ภูเก็ต แต่เมื่อมีการเปลี่ยนไปจัดที่พัทยาก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์เกี่ยวกับรูปแบบของการรักษาความปลอดภัย เพราะในขณะนั้นเชื่อว่าการประชุมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นประมาณเดือนตุลาคมจะมีการมาจัดภูเก็ต แต่เมื่อการจัดประชุมที่พัทยาล้มเหลวและมีการเปลี่ยนมาจัดที่ จ.ภูเก็ต และมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก โดยมีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีทั้งกำลังทหารและตำรวจมากน้อยเพียงใด หากขาดความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่แล้วก็ยากที่จะประสบความสำเร็จไปด้วยดี ดังนั้น จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นหูเป็นตา และทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.ต.เดชา ยังกล่าวด้วยว่า เนื่องจากในช่วงที่มีการจัดประชุมจะมีขบวนรถเดินทางไปยังสถานที่ประชุม ที่พัก หรือที่เลี้ยงรับรองของผู้นำและผู้ติดตามของประเทศต่างๆ เป็นจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงดังกล่าวอาจจะเกิดความไม่สะดวกในการใช้รถใช้ถนนซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือและความเสียสละจากคนในพื้นที่ด้วย เพราะจะต้องมีการปิดถนนเป็นระยะๆ เพื่ออำนวยความสะดวกของกับคณะของผู้นำทั้งหมดด้วย