โจรชั่วอุกอาจรัวยิงทนายความอิสระดับคารถต่อหน้าลูกชาย ขณะเดินทางไปประชุมธุรกิจค้าตรง บริเวณปากซอยนวมินทร์ 66 ลูกชาย เชื่อสาเหตุน่ามาจากเรื่องคดีความที่รับทำอยู่ ด้าน ตร.ตั้งปมขัดแย้งเรื่องธุรกิจกับคดีความ เร่งสอบปากคำคนใกล้ชิดหาสาเหตุต่อไป
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ การรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพชายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 66 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนบริเวณปากซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ รุ่น 940 จีแอล สีเขียว หมายทะเบียน ฉก-8853 กทม.จอดอยู่ในสภาพกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายแตกละเอียด ส่วนที่เบาะหน้าคู่คนขับ พบศพนายสมเกียรติ ธราพร อายุ 48 ปี อาชีพทนายความอิสระและนักธุรกิจค้าตรงแอมเวย์ อยู่บ้านเลขที่ 40/342 หมู่บ้านวรรณจิต ซอยนวลจันทร์ 14 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพู นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม.เข้าที่ลำคอ ไหล่ และโหนกแก้ม รวม 3 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายน้ำเพชร ธราพร อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลูกชายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ ตนขับรถคันดังกล่าวออกมาจากบ้านเพื่อที่จะพาพ่อไปประชุมที่ศูนย์แอมเวย์ สาขาบางกะปิ เนื่องจากปัจจุบันพ่อตนมีตำแหน่งเป็นผู้ค้าระดับเข็มทองแล้ว เหลืออีกเพียง 2 ขั้นก็จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับแพลทินัม
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน คนแรกสวมหมวกนิรภัยขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน พาคนร้ายอีก 1 คนซึ่งสวมหมวกแก๊ปซ้อนท้ายมาประกบที่ข้างรถ จากนั้นคนที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงพ่อตนในระยะประชิด จำนวน 4 นัดซ้อนจนกระสุนถากที่ไหล่ซ้ายและแผ่นหลังของตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แล้วพากันเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
“ปกติแล้วพ่อจะขับรถเดินทางไปทำงานที่ศาลเพียงลำพังทุกวัน โดยออกจากบ้านเวลาประมาณ 08.00 น.และกลับถึงบ้านประมาณ 15.00 น. ซึ่งในช่วงหัวค่ำวันนี้ พ่อมีประชุมที่ศูนย์แอมเวย์ด้วย ผมเลยอาสาขับรถพาพ่อไปเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุตนก็ยังไม่แน่ใจเพราะพ่อไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องคดีความที่พ่อทำอยู่ หรือไม่ก็มาจากปัญหาธุรกิจ โดยช่วงสายวันนี้ก่อนที่ผมจะออกจากบ้านไปหาเพื่อนก็เห็นคนแปลกหน้า 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่แถวๆ บ้านหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมาเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว” นายน้ำเพชร ให้การทั้งน้ำตา
ต่อมา นางอังคณา ธราพร อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพสามีในที่เกิดเหตุ แต่พอพบสภาพสามีก็ถึงกับเป็นลมล้มพับ จนหน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาลอย่างโกลาหล ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งปมสังหารเอาไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องที่ผู้ตายอาจจะไปว่าความในคดีที่ขัดแย้งกับคนอื่น หรืออาจเป็นเพราะกำลังมีคู่แข่งทางธุรกิจต้องการกำจัดให้พ้นทางอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวบุคคลใกล้ชิดมาสอบสวนเพื่อหาชนวนการตายที่แท้จริงต่อไปอีกราย
ก่อนหน้านี้ห่างกันเพียง 30 นาที ร.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา ร้อยเวร สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 32 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบศพ นายอิศเรศ พวงมณี อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 แผนกช่างไฟฟ้า โรงเรียนช่างกลอุตสาหกรรมกรุงเทพ อยู่บ้านเลขที่ 34/8 หมู่ 8 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สภาพศพสวมเสื้อชอปสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้ายทอย แก้มขวา และหัวไหล่ขวา รวม 3 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน รจม 701 กทม.ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย พลิกคว่ำอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเพื่อนสถาบันเดียวกัน (ขอสงวนชื่อ) ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถจักรยานยนต์ตามหลังนายอิศเรศออกมาจากโรงเรียนแบบห่างๆ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพัก จู่ๆ ก็เห็นนายอิศเรศโดนยิงจนล้มคว่ำขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคู่อริต่างสถาบัน ขับรถตามมาประกบยิง อย่างไรก็ตามจะต้องสอบสวนกันอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับรายแรกหรือไม่
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ การรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งพบศพชายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 66 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนบริเวณปากซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ รุ่น 940 จีแอล สีเขียว หมายทะเบียน ฉก-8853 กทม.จอดอยู่ในสภาพกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายแตกละเอียด ส่วนที่เบาะหน้าคู่คนขับ พบศพนายสมเกียรติ ธราพร อายุ 48 ปี อาชีพทนายความอิสระและนักธุรกิจค้าตรงแอมเวย์ อยู่บ้านเลขที่ 40/342 หมู่บ้านวรรณจิต ซอยนวลจันทร์ 14 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพู นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม.เข้าที่ลำคอ ไหล่ และโหนกแก้ม รวม 3 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายน้ำเพชร ธราพร อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลูกชายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ ตนขับรถคันดังกล่าวออกมาจากบ้านเพื่อที่จะพาพ่อไปประชุมที่ศูนย์แอมเวย์ สาขาบางกะปิ เนื่องจากปัจจุบันพ่อตนมีตำแหน่งเป็นผู้ค้าระดับเข็มทองแล้ว เหลืออีกเพียง 2 ขั้นก็จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับแพลทินัม
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน คนแรกสวมหมวกนิรภัยขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน พาคนร้ายอีก 1 คนซึ่งสวมหมวกแก๊ปซ้อนท้ายมาประกบที่ข้างรถ จากนั้นคนที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงพ่อตนในระยะประชิด จำนวน 4 นัดซ้อนจนกระสุนถากที่ไหล่ซ้ายและแผ่นหลังของตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แล้วพากันเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
“ปกติแล้วพ่อจะขับรถเดินทางไปทำงานที่ศาลเพียงลำพังทุกวัน โดยออกจากบ้านเวลาประมาณ 08.00 น.และกลับถึงบ้านประมาณ 15.00 น. ซึ่งในช่วงหัวค่ำวันนี้ พ่อมีประชุมที่ศูนย์แอมเวย์ด้วย ผมเลยอาสาขับรถพาพ่อไปเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุตนก็ยังไม่แน่ใจเพราะพ่อไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องคดีความที่พ่อทำอยู่ หรือไม่ก็มาจากปัญหาธุรกิจ โดยช่วงสายวันนี้ก่อนที่ผมจะออกจากบ้านไปหาเพื่อนก็เห็นคนแปลกหน้า 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่แถวๆ บ้านหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนมาเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว” นายน้ำเพชร ให้การทั้งน้ำตา
ต่อมา นางอังคณา ธราพร อายุ 42 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพสามีในที่เกิดเหตุ แต่พอพบสภาพสามีก็ถึงกับเป็นลมล้มพับ จนหน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาลอย่างโกลาหล ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งปมสังหารเอาไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องที่ผู้ตายอาจจะไปว่าความในคดีที่ขัดแย้งกับคนอื่น หรืออาจเป็นเพราะกำลังมีคู่แข่งทางธุรกิจต้องการกำจัดให้พ้นทางอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวบุคคลใกล้ชิดมาสอบสวนเพื่อหาชนวนการตายที่แท้จริงต่อไปอีกราย
ก่อนหน้านี้ห่างกันเพียง 30 นาที ร.ต.ท.สุภัทร เหมจินดา ร้อยเวร สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าปากซอยนวมินทร์ 32 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบศพ นายอิศเรศ พวงมณี อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 แผนกช่างไฟฟ้า โรงเรียนช่างกลอุตสาหกรรมกรุงเทพ อยู่บ้านเลขที่ 34/8 หมู่ 8 แขวงและเขตสะพานสูง กทม. สภาพศพสวมเสื้อชอปสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้ายทอย แก้มขวา และหัวไหล่ขวา รวม 3 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน รจม 701 กทม.ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย พลิกคว่ำอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเพื่อนสถาบันเดียวกัน (ขอสงวนชื่อ) ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถจักรยานยนต์ตามหลังนายอิศเรศออกมาจากโรงเรียนแบบห่างๆ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพัก จู่ๆ ก็เห็นนายอิศเรศโดนยิงจนล้มคว่ำขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคู่อริต่างสถาบัน ขับรถตามมาประกบยิง อย่างไรก็ตามจะต้องสอบสวนกันอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับรายแรกหรือไม่