เสี่ยรับเหมาประปาเครียดจัด หลังเก็บเงินลูกค้าไม่ได้ เลยโดนเมียด่าแถมไล่ให้ไปยิงตัวตาย เจ้าตัวเกิดอาการน้อยใจ ขับรถกระบะไปจอดไว้ใต้ถุนศาลาการเปรียญวัดปทุมคงคาวรวิหาร ตั้งแต่เช้า แล้วชัก .38 ระเบิดขมับตัวเองตายคารถ
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (15 มิ.ย.) พ.ต.ท.ฉัฐภูมิ ทะละวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พลับพลาไชย 2 ได้รับแจ้งเหตุชายยิงตัวตาย ภายในวัดปทุมคงคาวรวิหาร ถนนทรงวาด แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯและมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุภายในลานจอดรถใต้ถุนศาลาการเปรียญของวัดดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโต้โยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ปร 9222 กทม.สภาพกระจกด้านซ้ายแตกเป็นรอยรูกระสุน จากการตรวจสอบภายในรถพบศพ นายสมศักดิ์ ปริภัทรกุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/507 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม สภาพศพนั่งอยู่ที่เบาะนั่งคนขับ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด จนหัวกระสุนทะลุกระจกไปคาอยู่ที่เสาศาลาการเปรียญใกล้กับรถ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ภายในรถจำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบภายในรังเพลิงพบกระสุนจำนวน 5 นัด และปลอกกระสุนจำนวน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดที่พบไปตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทำงานเป็นช่างรับเหมาเดินท่อประปา และมักจะขับรถมาจอดที่ลานจอดรถวัดดังกล่าวเป็นประจำ เพราะมีงานรับเหมาอยู่ที่ย่านสำเพ็ง โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครทราบว่าผู้ตายยิงตัวเองตั้งแต่เมื่อไร มาทราบอีกครั้งก็ตอนเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ ผู้ตายเคยบ่นกับเพื่อนสนิทว่ามีปัญหาครอบครัวแต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางบรรดาญาติผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพ ก็ถึงกับร่ำไห้กอดศพอย่างน่าเวทนา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้า แต่จากการสอบปากคำภรรยาผู้ตายเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายถูกภรรยาดุด่า เรื่องเก็บเงินลูกค้าไม่ได้และถูกประชดประชันให้ไปยิงตัวตาย จนกระทั่งผู้ตายเกิดความน้อยใจหลบมายิงตัวตายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องรอให้ทางญาติของผู้ตายพร้อมที่จะให้ปากคำเสียก่อน จึงจะได้สอบถามที่สาเหตุที่แน่ชัดต่อไป