xs
xsm
sm
md
lg

“วรพงษ์” โวสายตรวจจีพีเอสสุดเจ๋ง จับโจรลัก จยย.ได้ 400 คัน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผบช.น.สุดปลื้มสายตรวจระบบจีพีเอส สรรพคุณเพียบทั้งสามารถจับความเร็ว ระยะทางรถวิ่ง รู้แม้กระทั่งรถจอดอยู่ หรือสตาร์ทติดเครื่อง โวโครงการใช้งบไม่กี่หมื่น แต่เห็นผลทันตาลดโจรกรรม จยย.ได้คืน 4 เดือน 400 คัน ด้านรอง ผกก.พลับพลาไชย 2 แจงสายตรวจชุดนี้เน้นดูแลร้านทองและอาคาร

วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เดินทางมาตรวจสอบโครงการรถสายตรวจจีพีเอส (GPS) ที่ทาง สน.พลับพลาไชย 2 จัดทำโครงการขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 โดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 150 ซีซี 4 จังหวะ ติดกล่องส่งสัญญาณจีพีเอสไว้บริเวณใต้เบาะจำนวน 3 คัน

นายปณิธาน พุทธชน ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อินโนเวชั่น พลูเอเชีย จำกัด กล่าวว่า ลักษณะการทำงานของรถสายตรวจจีพีเอสจะสามารถส่งข้อมูลขณะปฏิบัติการของสายตรวจเข้ามายังจอมอนิเตอร์เพื่อตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ ดังนี้ ความเร็ว ระยะทางที่รถวิ่งเป็นกิโลเมตร สามารถระบุได้ว่ารถกำลังวิ่ง หรือจอดอยู่ สตาร์ทเครื่องมาแล้วกี่นาที บอกเวลา วันที่ขณะปฏิบัติงานได้อย่างละเอียด โดยข้อมูลจากตัวรถจะส่งเข้ามายังเซิร์ฟเวอร์ผ่านทางสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้เกิดความเสถียรของสัญญาณและข้อมูลการใช้รถจะอัปเดตทุก 1 นาที ผ่านทางเว็บไซต์ www.dee-in.com โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจห้องวิทยุเป็นผู้ดูแลจอมอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ พ.ต.ท.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ รอง ผกก.ปป.สน.พลับพลาไชย 2 รายงานให้ ผบช.น.ฟังว่า ระบบการทำงานของรถสายตรวจจีพีเอสทั้งหมด มีขั้นตอนผ่านทางจอมอนิเตอร์ว่า ขณะรถสายตรวจวิ่งปฏิบัติงานอยู่นั้นจะมีจุดสีแดงขึ้นในแผนที่ของเขตรับผิดชอบ สน.พลับพลาไชย 2 ระบุถนนและบริเวณที่รถอยู่ และสามารถรับคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว โดยหากมีเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกับรถคันใด ก็ให้รถคันนั้นวิ่งไปในที่เกิดเหตุโดยทันที แม้จะไม่ใช่เขตรับผิดชอบของตนเอง

ส่วนการแบ่งเขตรับผิดชอบเดิมมีทั้งสิ้น 5 เขต ปัจจุบันลดลงเหลือ 3 เขต มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 45 นาย จำนวน 4 ชุด แบ่งทำงานพลัดละ 8 ชม. การทำงานจะเปลี่ยนการทำงานในทุกๆ เขตพื้นที่ทุกๆ 15 วัน ครอบคลุมพื้นที่โดยจะประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสามารถเปลี่ยนหมายได้ทุกเวลา โดยเขตพื้นที่รับผิดชอบหลักคือร้านทองและอาคาร โดยผลงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ การจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากปกติจับได้เดือนละ 20-30 คัน แต่ 4 เดือนที่ผ่านมาจับได้ถึง 400 คัน

พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาผลการทำงานเป็นที่น่าพอใจ ตรงกับแนวคิดของทางนครบาลที่ต้องการลดอาชญากรรมและมีลักษณะคล้ายกับโครงการ ดี 3ไอ ในอดีตซึ่งใช้เงินลงทุนถึง 300 ล้านบาท แต่โครงการนี้ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นน้อยมากไม่กี่หมื่นบาท แต่เชื่อว่าสามารถป้องกันปราบปรามลดอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่มีโครงการมา 4 เดือน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับการปฏิบัติงานในรูปแบบเดิมเฉลี่ยหนึ่งเดือนจะมีเหตุเกิดขึ้น 2 ครั้ง ปัจจุบันไม่มีเหตุเกิดขึ้นเลย ส่วนโครงการนี้จะคงใช้ไปเรื่อยๆ เพียงแต่ให้มีการปรับปรุงโปรแกรมให้เข้าการการทำงานของสายตรวจมากยิ่งขึ้น
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เดินทางไปตรวจสอบโครงการสายตรวจจีพีเอส
จอมอนิเตอร์แสดงจุดที่รถสายตรวจอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น