ตร.จับหนุ่มพกปืนเที่ยวเตร่ อาบอบนวด ย่านรัชดาฯ

ตำรวจสืบ 1 จับหนุ่มพกปืนเที่ยวเตร่อาบอบนวด ย่านรัชดาฯ ค้นห้องพักเจอปืนสั้นไม่มีทะเบียนอีก รวม 4 กระบอก อ้างซื้อเก็บไว้ ไม่เคยนำไปก่อเหตุ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อนำปืนตรวจสอบเคยใช้ก่ออาชญากรรมหรือไม่

เมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ (13 มิ.ย. ) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 แถลงข่าวจับกุมนายรุ่งสยาม หรือรุ่ง หอมมาก อายุ 28 ปี ชาวอ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 4 กระบอก คือปืนกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อแอสตร้า ขนาด.22 ลูกสั้น พร้อมแม็กกาซีน , ปืนกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม.ยี่ห้อบราวด์นิ่ง พร้อมแม็กกาซีน ,ปืนเมาเซอร์ ขนาด.22 แม็กนั้ม และปืนรีวอลเวอร์ ยี่ห้อเทารัส ขนาด.22 พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 33 นัด เบื้องแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เมื่อเวลา 21.30 น.(12 มิ.ย.)ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่านายรุ่ง มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืน และเที่ยวเตร่อยู่บริเวณสถานบันเทิงและอาบอบนวดโอปา คาบาน่า ภายในซอยรัชดา 17 แขวงและเขตดินแดง กทม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมออกตรวจสอบ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าร้านโอปา คาปาน่า ลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับที่สายลับแจ้งเบาะแสไว้ และผู้ต้องหามีลักษณะท่าทางพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง จึงยึดไว้เป็นของกลาง และจากการซักถามผู้ต้องหารับว่ายังมีอาวุธปืนอีก 3 กระบอก เก็บซุกซ่อนไว้ที่ห้องพักเลขที่ 520 อาคารเมอร์คิวลี่เฮาส์ ซอยลาดพร้าว 35 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้น จากนั้นจึงนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าวที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 1 และตรวจสอบประวัติแล้วพบว่าผู้ต้องหาหนีการตรวจเลือกรับราชการทหารอีกด้วย

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับว่าเป็นปืนของตัวเองที่ซื้อเก็บไว้ นานแล้ว 2 กระบอก เนื่องจากชอบสะสมอาวุธปืนเป็นการส่วนตัว ส่วนอีก 2 กระบอกคนรู้จักเอามาจำนำไว้ โดยผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่เคยนำไปก่อเหตุอาชญากรรม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะได้ส่งอาวุธปืนทั้งหมดไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อตรวจสอบว่าอาวุธปืนดังกล่าวเคยใช้ในการก่อคดีอาชญากรรมหรือไม่และจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป