นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ พาหนุ่มรับตกแต่งสวน และ ลูกจ้าง ที่ถูก ด.ต.ท่ามะกา ยิงจนกลายเป็นคนพิการ เข้าร้อง ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมช่วยเรื่องเหลือคดี โดยมี รองเลขานุการ รับเรื่อง ระบุ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ชี้แจงสั่งตั้งสอบวินัยให้ออกราชการแล้ว พร้อมดำเนินคดีอาญา อีกรายพ่อค้าร้องพี่ชายถูก ตร.อุ้มหาย หลังพบเห็นความไม่ชอบมาพากลในการประมูลเช่าที่รถไฟใน จ.ขอนแก่น
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นำนายสมทัด ลิมปกาญจนทวี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282 หมู่ 7 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประกอบอาชีพรับจัดตกแต่งสวน พร้อมนางนก พิมพ์บัง อายุ 32 ปี ภรรยา ด.ญ.อรทัย ลิมปกาญจนทวี อายุ 8 ขวบ และ นายสุดใจ บุตรสาร อายุ 36 ปี ลูกจ้าง เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผ่านทาง พ.ต.อ.สุทธินาถ สุดยอด รองเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี ถูก ด.ต.เกรียง แก้วไพร ผบ.หมู่ ป.สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนไล่ยิงอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จนทำให้ นายสุดใจ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บต้องกลายเป็นคนพิการ อีกทั้งยังพยายามจ่ายเงินขอเคลียร์คดี แต่ไม่ยอมจึงถูกตามข่มขู่อยู่ตลอดเวลา
พ.ต.อ.สุทธินาถ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ได้ทำหนังสือชี้แจ้งมายัง ตร.ว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อ ด.ต.เกรียง พร้อมกับได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะเดียวกัน ได้ดำเนินคดีอาญาฐานพยายามฆ่า และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้ หลังรับเรื่องจะนำเรียน ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป
ด้าน นายสมทัดกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่คดีมีความคืบหน้าไปมาก อย่างไรก็ตาม ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนและครอบครัวถูกตำรวจนายดังกล่าวข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้ากลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี จึงอยากขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ แต่ตนไม่ไว้ใจตำรวจ จึงอยากให้หน่วยงานอื่น เช่น ทหาร หรือกระทรวงยุติธรรม เข้ามาดูแลแทน
อีกราย นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผ่านสำนักงานเลขานุการ ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีนายกมล เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 50 ปี พี่ชายถูกตำรวจอุ้มตัวหายไป
นายประเสริฐกล่าวว่า พี่ชายตนเองได้พบเห็นความไม่ชอบมาพากลในการประมูลเช่าที่การรถไฟที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้โดยตลอด จนกระทั่งได้ข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่สภ.บ้านไผ่ กว่า 12 คดี แต่คดีกลับเงียบหายไป ไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน2551 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่เรื่องคดีอีก แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าหากคดียังไม่มีความคืบหน้าอีก จะแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตำรวจฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายประเสริฐกล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2551 นายกมลจึงได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.อ.เนติพงศ์ ธาตุทำเล ผกก.สภ.บ้านไผ่ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปรากฏว่าหลังจากนั้นนายกมลไม่ได้กลับออกมาอีกเลย อย่างไรก็ตาม ในเวลา 22.00 น.วันดังกล่าว ลูกชายนายกมลได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ซึ่งนายกมลแจ้งว่ายังอยู่ที่ สภ.บ้านไผ่ ใกล้เสร็จแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
“ที่ผ่านมาพี่ชายไม่เคยมีธุรกิจก่อสร้าง หรือรับประมูลงานกับรัฐ ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวก็ทำไปในฐานะพลเมืองดีที่เห็นความไม่ชอบมาพากล มีการทุจริตคอร์รัปชัน ฮั้วประมูลของหน่วยงานรัฐ เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือของตำรวจอย่างแน่นอน เพราะพี่ชายผมไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร จึงอยากให้ขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชายด้วย” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ไปยื่นหนังสือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่พี่ชายหายไปตัวไปกว่า 1 ปี แล้วจึงอยากวิงวอนให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรม สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องดำเนินการคลี่คลายคดีของพี่ชาย
เหยื่อร้อง ด.ต.โจร เมาไถ 2,000 ไม่ให้ ไล่ยิงหัวกลายเป็นคนพิการ!