xs
xsm
sm
md
lg

ให้ออก! ด.ต.ท่ามะกา ยิงเหยื่อพิการ ตั้งสอบวินัย-ฟันอาญา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สมทัด ลิมปกาญจนทวี อายุ 47 ปี ยื่นหนังสือกับพ.ต.อ.สุทธินาถ สุดยอด รองเลขานุการตร.
นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ พาหนุ่มรับตกแต่งสวน และ ลูกจ้าง ที่ถูก ด.ต.ท่ามะกา ยิงจนกลายเป็นคนพิการ เข้าร้อง ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมช่วยเรื่องเหลือคดี โดยมี รองเลขานุการ รับเรื่อง ระบุ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ชี้แจงสั่งตั้งสอบวินัยให้ออกราชการแล้ว พร้อมดำเนินคดีอาญา อีกรายพ่อค้าร้องพี่ชายถูก ตร.อุ้มหาย หลังพบเห็นความไม่ชอบมาพากลในการประมูลเช่าที่รถไฟใน จ.ขอนแก่น

วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นำนายสมทัด ลิมปกาญจนทวี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282 หมู่ 7 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ประกอบอาชีพรับจัดตกแต่งสวน พร้อมนางนก พิมพ์บัง อายุ 32 ปี ภรรยา ด.ญ.อรทัย ลิมปกาญจนทวี อายุ 8 ขวบ และ นายสุดใจ บุตรสาร อายุ 36 ปี ลูกจ้าง เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผ่านทาง พ.ต.อ.สุทธินาถ สุดยอด รองเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี ถูก ด.ต.เกรียง แก้วไพร ผบ.หมู่ ป.สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนไล่ยิงอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จนทำให้ นายสุดใจ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บต้องกลายเป็นคนพิการ อีกทั้งยังพยายามจ่ายเงินขอเคลียร์คดี แต่ไม่ยอมจึงถูกตามข่มขู่อยู่ตลอดเวลา

พ.ต.อ.สุทธินาถ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังมีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ได้ทำหนังสือชี้แจ้งมายัง ตร.ว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อ ด.ต.เกรียง พร้อมกับได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะเดียวกัน ได้ดำเนินคดีอาญาฐานพยายามฆ่า และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้ หลังรับเรื่องจะนำเรียน ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป

ด้าน นายสมทัดกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่คดีมีความคืบหน้าไปมาก อย่างไรก็ตาม ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนและครอบครัวถูกตำรวจนายดังกล่าวข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด จนถึงขณะนี้ยังไม่กล้ากลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี จึงอยากขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ แต่ตนไม่ไว้ใจตำรวจ จึงอยากให้หน่วยงานอื่น เช่น ทหาร หรือกระทรวงยุติธรรม เข้ามาดูแลแทน

อีกราย นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผ่านสำนักงานเลขานุการ ตร.เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีนายกมล เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 50 ปี พี่ชายถูกตำรวจอุ้มตัวหายไป

นายประเสริฐกล่าวว่า พี่ชายตนเองได้พบเห็นความไม่ชอบมาพากลในการประมูลเช่าที่การรถไฟที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้โดยตลอด จนกระทั่งได้ข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่สภ.บ้านไผ่ กว่า 12 คดี แต่คดีกลับเงียบหายไป ไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน2551 ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่เรื่องคดีอีก แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าหากคดียังไม่มีความคืบหน้าอีก จะแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตำรวจฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายประเสริฐกล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2551 นายกมลจึงได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.อ.เนติพงศ์ ธาตุทำเล ผกก.สภ.บ้านไผ่ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปรากฏว่าหลังจากนั้นนายกมลไม่ได้กลับออกมาอีกเลย อย่างไรก็ตาม ในเวลา 22.00 น.วันดังกล่าว ลูกชายนายกมลได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ซึ่งนายกมลแจ้งว่ายังอยู่ที่ สภ.บ้านไผ่ ใกล้เสร็จแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

“ที่ผ่านมาพี่ชายไม่เคยมีธุรกิจก่อสร้าง หรือรับประมูลงานกับรัฐ ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวก็ทำไปในฐานะพลเมืองดีที่เห็นความไม่ชอบมาพากล มีการทุจริตคอร์รัปชัน ฮั้วประมูลของหน่วยงานรัฐ เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือของตำรวจอย่างแน่นอน เพราะพี่ชายผมไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร จึงอยากให้ขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชายด้วย” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ไปยื่นหนังสือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่พี่ชายหายไปตัวไปกว่า 1 ปี แล้วจึงอยากวิงวอนให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรม สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องดำเนินการคลี่คลายคดีของพี่ชาย

เหยื่อร้อง ด.ต.โจร เมาไถ 2,000 ไม่ให้ ไล่ยิงหัวกลายเป็นคนพิการ!
กำลังโหลดความคิดเห็น