xs
xsm
sm
md
lg

“จุมพล” สั่งทำบัญชีผู้มีอิทธิพล-มือปืนใหม่พร้อมระดมกวาดล้างตลอดเดือน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “จุมพล มั่นหมาย” สั่งจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล และมือปืนใหม่ หลังใช้ข้อมูลเก่าตั้งแต่ปี 49 พร้อมสั่งระดมกำลังกวาดล้างตลอดทั้งเดือน มิ.ย.โดยเป็นเป็น 2 ช่วง ขณะที่น้องชายสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดินเข้าร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชายที่ถูกอุ้มหายตัวไปลึกลับ หลังเดินทางไปพบตำรวจที่ สภ.บ้านไผ่ เมืองขอนแก่น

วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง (ศปอร.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ เรียกประชุมคณะทำงาน ศปอร.ตร.ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนจาก บช.ภาค 1-9 บช.ก.และ บช.น.เข้าร่วมประชุม หลังจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้เร่งรัด ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้างโดยเฉพาะในพื้นที่ภูธรภาค 8 ซึ่งเกิดคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามก่อเหตุหลายครั้ง โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการวางแผนป้องกันการเกิดเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ โดยให้ทุกหน่วยปฏิบัติดำเนินการระดมกวาดล้างจับกุมคดีอาวุธปืน อาวุธสงครามและวัตถุระเบิด โดยเน้นสถานที่ที่เป็นที่รวมของประชาชนหรือพื้นที่ล่อแหลมต่อการก่ออาชญากรรม โดยแบ่งช่วงการระดมออกเป็น 2 ช่วง คือ วันที่ 1-15 มิ.ย.และ 16-30 มิ.ย.นี้ รวมทั้งเร่งรัดฝ่ายปฏิบัติให้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่าเกี่ยวกับคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและอาวุธสงครามด้วย โดยทั้งสองส่วนดังกล่าวให้รายงานผลการปฏิบัติภายในวันที่ 6 ก.ค.นี้

ส่วนบัญชีดำผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างที่มีการรายงานให้ที่ประชุมทราบนั้นพบว่าเป็นข้อมูลเดิมที่มีการจัดทำไว้ตั้งแต่ปี 2549 โดยเบื้องต้นมีผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ต้องคดีค้างเก่าที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำไว้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย ซึ่ง พล.ต.อ.จุมพล ได้สั่งการให้ตำรวจที่รับผิดชอบแต่ละพื้นที่กลับไปตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด

พล.ต.อ.จุมพล กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ว่า ได้เน้นย้ำในที่ประชุมเรื่องการปราบปรามมือปืนรับจ้าง ผู้ให้การสนับสนุน และผู้มีอิทธิพล โดยให้แนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งให้ตำรวจแต่ละพื้นที่กลับไปตรวจสอบข้อมูลมือปืน และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้มีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด โดยให้เวลาในการจัดทำข้อมูล 2 สัปดาห์ ส่วนแนวทางการปฏิบัตินั้นได้กำชับให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก

พล.ต.อ.จุมพล กล่าวต่อว่า สำหรับมือปืนและผู้มีอิทธิพลในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศนั้น จากที่ได้รับรายงานในที่ประชุม ก็พบว่า มีปริมาณไม่มากนักเนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีการจับกุมไปบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ก็จะต้องตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติทั้งหมดนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจและมั่นใจในความปลอดภัยมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.ต.อ.จุมพล จะเป็นประธานที่ประชุม ศปอร.ตร.ได้มี นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210-211 ถ.อำมาตย์ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีการหายตัวไปของ นายกมล เหล่าโสภาพันธ์ พี่ชาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำ สมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน และสมาชิกเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังเดินทางไปยัง สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2551 แล้วหายตัวไป โดยเชื่อว่าสาเหตุมาจากการร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐที่พัวพันกับการฮั้วประมูลงานของหน่วยงานราชการในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีกลุ่มคนมีสีในพื้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพี่ชายด้วย

“ผมเคยร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมาแล้วกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการถวายฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติและดีเอสไอ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงมาขอให้ท่านจุมพลช่วยให้ความเป็นธรรมกับพี่ชายตัวเองด้วย” นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ ร้องพล.ต.อ.จุมพลสางคดีพี่ชายที่หายตัวไป
ประชุมคณะทำงาน ศปอร.ตร. ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจาก บช.ภาค 1-9 บช.ก. และ บช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น