“ธานี” มั่นใจ คดีลอบยิง “สนธิ ลิ้มทองกุล” จะสรุปสำนวนและเสร็จก่อนเกษียณอายุราชการต้วเองแน่นอน ลั่นคดีไม่มีถูกตัดตอน และยังไม่พบมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ย้ำ ไม่ใช่คดีคนร้ายธรรมดา ส่วนคดีทุบรถนายกฯ มีผู้ต้องหารวม 32 ราย จับได้แล้ว 4 ราย ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อสอบสวนคดีกลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งเข้ารายงานผลการดำเนินการติดตามคดีต่างๆ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
ภายหลังการเข้ารายงานผลการดำเนินคดีต่างๆ พล.ต.อ.ธานี กล่าวถึงคดีคนร้ายลอบใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า โดยปกติแล้ว คดีดังกล่าวจะมีการประชุมทุก 7 วัน แต่เมื่อระยะเวลาร่นเข้ามา พยานหลักฐานต่างๆ ก็ต้องรีบทำงาน จึงมีการเปลี่ยนแปลงการประชุมทุกๆ 5 วัน เวลาผ่านมาเดือนกว่าแล้ว การทำงานน่าจะเดินไปได้พอสมควร
“ขณะนี้ ขอแค่จับตัวคนยิงได้ ส่วนคดีนี้จะเจอตอหรือไม่นั้น เอาเป็นว่า คดีคนร้ายธรรมดานั้น จับกุมง่ายกว่าคดีคนมีสีก็แล้วกัน ไม่รู้สีไหน ส่วนตัวคิดว่า ขอจับกุมคนร้ายที่ยิงได้ก่อน” พล.ต.อ.ธานี กล่าวเมื่อถูกถามว่าจะให้ความมั่นใจอย่างไรว่า คดีนี้จะไม่ถูกตัดตอนและคนมีสีที่เกี่ยวข้องเป็นสีเขียว
พล.ต.อ.ธานี ยังกล่าวถึงระยะเวลาในการทำคดีด้วยว่า ผ่านมาเดือนกว่า รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าใช้เวลาเยอะ จำเป็นต้องรีบเร่งพยาน ขอยืนยันว่า ไม่มีการกั๊กข้อมูลภายในทีมสอบสวน เรื่องนี้ ไม่มีเงียบ ถ้าเงียบแสดงว่าไม่มีอะไรคืบหน้า ทำอะไรไม่ได้ ตราบใด ที่มีการประชุม ต้องมาติดตามผล เพิ่มพยานหลักฐาน ยิ่งนานขึ้น ยิ่งต้องสืบให้ได้ข้อมูลมากขึ้น
รอง ผบ.ตร.ผู้นี้ได้แสดงความมั่นใจ ถึงการหาตัวผู้กระทำผิด และยืนยันว่า การดำเนินคดีจะไม่มีการหยุดกลางคัน โดยระบุว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ใครกระทำผิด เจ้าหน้าที่ต้องมีหน้าที่เอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมทั้งปฏิเสธด้วยว่า ในขณะนี้ ยังไม่พบคนในแวดวงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนเบาะแสที่ จ.กาญจนบุรี นั้น ระยะทางจากกรุงเทพฯไปถึงกาญจนบุรี ไกล กล้องวงจรปิดไม่สามารถไปถึงได้ ในชั้นนี้ ขอเอาเพียงแค่นี้ก่อน และขอยืนยันว่า คดีนี้ คงไม่ยาวไปจนถึงเกษียณอายุราชการ คงจะจบก่อนเดือนกันยายน ถ้าได้หลักฐานเร็วก็ดี แต่จะพยายาม
“ขณะนี้ต้องเอาตัวพยาน ตัวคนให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องปืนที่ใช้ยิงอยู่เบื้องหลัง ผมไม่ขอวิเคราะห์ว่าได้กี่เปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าคดีคืบหน้าไปได้เยอะแล้ว” พล.ต.อ. ธานี กล่าว
ส่วนคดีทุบรถนยกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า จะใช้เวลาไม่นานจะพยายามให้เร็วที่สุด เตรียมสรุปหลักฐานต่างๆ ไม่เกิน 2 อาทิตย์จะทราบเรื่อง ซึ่งตนยืนยันว่า ต้องรอสอบพยานให้ครบ
เมื่อถามว่า เท่าที่รายงานผลความคืบหน้าของคดีที่กระทรวงมหาดไทย นายกฯ พอใจอะไรบ้าง พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า นายกฯไม่ได้ว่าอะไร สอบปากคำเสร็จเรียบร้อย ส่วนการสรุปสำนวนทั้งที่เหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย และที่ทำเนียบคนละคดีกัน วันนี้ตนมาเรื่องคดีที่กระทรวงมหาดไทยเท่านั้น สำหรับการออกหมายจับขณะนี้ จำนวนทั้งสิ้น 32 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมได้ 4 ราย ปัญหาของการจับกุมคือ มีแค่รูปไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งข้อหาส่วนใหญ่คือ พยายามฆ่า
ผู้สื่อข่าวซักว่า การสอบปากคำนายกฯ ได้รับการยืนยันใช่หรือไม่ว่าอยู่ในรถ พล.ต.อ.ธานี กล่าวร้องเสียงหลงว่า โอ๊ย! ใครบอกว่าท่านไม่อยู่ในรถ แทบแย่แล้วล่ะ
