“3 แดงป่วนเมือง” รายงานตัวต่อศาล หลังพ้นกำหนดฝากขังคดีนำม็อบหางแดงก่อความวุ่นวาย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลคืนหลักทรัพย์คนละ 5 แสนก่อนปล่อยตัว “วีระ” โว 27 มิ.ย.เสื้อแดงนัดรวมตัวสนามหลวง ท้าทายพร้อมขึ้นเวทีปราศรัยจะพล่ามทุกอย่าง ไม่หวั่นจะซ้ำรอยความผิดเดิม
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กรณีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นมาจนรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เข้ารายงานตัวต่อศาลหลังพ้นกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศาลอนุญาตให้คืนหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์สัมพันธ์ คนละ 5 แสนบาท และปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไป
ภายหลัง นายวีระกล่าวว่า เมื่อครบกำหนดฝากขัง 48 วันแล้ว อัยการยังไม่มีคำสั่งคดีตามกฎหมาย ถือว่าพวกเราเป็นอิสระ กลับบ้านได้โดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนต่อจากนี้อัยการจะมีคำสั่งอย่างไรก็ต้องรอฟังกัน หากสั่งฟ้องคดีคนเสื้อแดง แต่คดีของฝ่ายเสื้อเหลืองไม่มีความคืบหน้าในลักษณะ 2 มาตรฐาน ก็คงต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากประชาชน ส่วนในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ซึ่งตนและแกนนำทุกคนจะขึ้นเวทีปราศรัยอย่างแน่นอนและยืนยันว่ายังกล้าที่จะพูดทุกอย่าง โดยไม่หวั่นว่าจะซ้ำรอยความผิดเดิมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ 3 แกนนำเดินลงบันไดศาลเพื่อเดินทางกลับ มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คนมารอให้กำลังใจได้ปรบมือ โห่ร้อง และตะโกนว่าสู้ๆ ตลอดเวลา พร้อมกับนำช่อดอกกุหลาบสีขาวมามอบให้เป็นกำลังใจ อีกทั้งยังมาขอถ่ายรูป และสอบถามสารทุกข์สุกดิบด้วย
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กรณีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นมาจนรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เข้ารายงานตัวต่อศาลหลังพ้นกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศาลอนุญาตให้คืนหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์สัมพันธ์ คนละ 5 แสนบาท และปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไป
ภายหลัง นายวีระกล่าวว่า เมื่อครบกำหนดฝากขัง 48 วันแล้ว อัยการยังไม่มีคำสั่งคดีตามกฎหมาย ถือว่าพวกเราเป็นอิสระ กลับบ้านได้โดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนต่อจากนี้อัยการจะมีคำสั่งอย่างไรก็ต้องรอฟังกัน หากสั่งฟ้องคดีคนเสื้อแดง แต่คดีของฝ่ายเสื้อเหลืองไม่มีความคืบหน้าในลักษณะ 2 มาตรฐาน ก็คงต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากประชาชน ส่วนในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง ซึ่งตนและแกนนำทุกคนจะขึ้นเวทีปราศรัยอย่างแน่นอนและยืนยันว่ายังกล้าที่จะพูดทุกอย่าง โดยไม่หวั่นว่าจะซ้ำรอยความผิดเดิมอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ 3 แกนนำเดินลงบันไดศาลเพื่อเดินทางกลับ มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คนมารอให้กำลังใจได้ปรบมือ โห่ร้อง และตะโกนว่าสู้ๆ ตลอดเวลา พร้อมกับนำช่อดอกกุหลาบสีขาวมามอบให้เป็นกำลังใจ อีกทั้งยังมาขอถ่ายรูป และสอบถามสารทุกข์สุกดิบด้วย